เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1073

ผ่านไปครู่ใหญ่ จักรพรรดิจาวเหรินเค้นเสียงออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เจ้าจะแต่งงานกับเว่ยยิงให้ได้ใช่หรือไม่”

เฟิงหยางประสานมือขึ้นมา น้ำเสียงหนักแน่น “ถ้าหากไม่สามารถแต่งอายิงเป็นภรรยาได้ กระหม่อมยินดีสาบานต่อหน้าบรรพบุรุษว่าชาตินี้จะไม่แต่งงาน”

คำสาบานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ เห็นทีเขาคงจะรักแม่นางตระกูลเว่ยเข้าจริงๆซะแล้ว

จักรพรรดิจาวเหรินรู้สึกอัดอั้นตันใจมาก ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังพูดไม่ออก ปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยด้วยเสียที่แฝงความขุ่นเคืองอยู่บ้างว่า “ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าจะประทานงานแต่งงานให้เจ้าทำไมเจ้าจึงไม่เอ่ยออกมา แต่กลับมาหาข้าในเวลานี้”

รอจนเขาคิดจะยัดเยียดเว่ยยิงให้รุ่ยอ๋องแล้วถึงมาเอ่ยเรื่องพวกนี้ ไม่เท่ากับอยากจะให้เขาไม่มีความสุขหรอกหรือ

“ก่อนหน้านี้มีข้อโต้เถียงเกี่ยวกับชาติกำเนิดของข้า จึงคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมที่จะไปสู่ขอผู้หญิงอย่างอายิง จึงได้เก็บความคิดนี้เอาไว้ในใจเสมอมา กระทั่งผ่านเรื่องราวในช่วงที่ผ่านมานี้ ในที่สุดกระหม่อมก็มีความกล้าที่จะขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท”

เฟิงหยางอธิบายจบ แล้วก็แสร้งถามด้วยความสงสัยว่า “แล้วทำไมฝ่าบาทจึงโทษกระหม่อมที่ไม่ได้เอ่ยเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ หรือว่าหากกระหม่อมเอ่ยขึ้นตอนนั้น ทรงจะรับปากประทานงานแต่งงานให้อย่างนั้นหรือ กระหม่อมบังอาจขอให้ฝ่าบาททรงไขข้อสงสัย ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ ที่ทำให้ก่อนหน้านี้ทรงยินดีจะประทานงานแต่งงานให้ แต่ตอนนี้กลับไม่เห็นด้วยเสียแล้ว”

เป็นครั้งแรกที่จักรพรรดิจาวเหรินพบว่า เฟิงหยางพูดจาเก่งมาก แทบจะทำเอาเขาพูดไม่ออกไปเลยทีเดียว

ดูพูดเข้า ก่อนหน้านี้เขายินดีที่จะประทานงานแต่งงานให้พวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่

ตอนนี้ทำราวกับว่าปัญหาล้วนเกิดจากเขาที่แยกคู่รักออกจากกัน ถึงแม้ว่า เหมือนจะใช่ และก็เป็นเช่นนั้นจริง......

จักรพรรดิจาวเหรินหรี่ตาลงมองเฟิงหยางอย่างวิเคราะห์ พยายามจะแยกแยะว่าอีกฝ่ายแฝงความหมายอะไรแปลกๆอยู่ในคำพูดที่บอกกับตัวเองหรือไม่

แต่มองอยู่ครู่ใหญ่ ใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นนั้นนอกจากความจริงจังและความสงสัยแล้ว ก็ไม่มีสิ่งอื่นปะปนอยู่เลย

ถูกสายตาน่าเกรงขามของจักรพรรดิที่จ้องมองมา เฟิงหยางรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย กระทั่งขอคำชี้แนะด้วยความสัตย์ซื่อและถ่อมตัว “ขอฝ่าบาททรงตรัสออกมา กระหม่อมจะได้ทบทวนตัวเองว่าทำผิดตรงไหนกันแน่ จึงได้ทำให้ทรงมีท่าทีเปลี่ยนไปเช่นนี้”

“ถ้าหากทรงแค่รู้สึกว่าอายิงมีฐานะและความสามารถเป็นนายหญิงไม่ได้ จึงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ละก็ เช่นนั้นทรงสามารถวางใจได้ ในบันทึกผลงานของอายิงตอนที่อยู่เมืองสุยได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจน นางเป็นวีรสตรีคนหนึ่งที่มีความสามารถไม่แพ้ผู้ชาย เชื่อว่าในใจของฝ่าบาทย่อมรู้ตัดสินใจได้เองว่าเหมาะสมหรือไม่”

“กระหม่อมบังอาจพูดตรงๆ กระหม่อมกับอายิงรู้ใจกันมานานหลายปี มีเพียงผู้หญิงเช่นนางที่ข้าเห็นความสำคัญในการเป็นคู่ชีวิต ส่วนคุณหนูในตระกูลขุนนางคนอื่นๆ ไม่แน่ว่าจะสามารถทำหน้าที่ภรรยาที่ดีอย่างที่พูดถึงกันก็ได้”

เขาดูเหมือนอยู่ในตำแหน่งที่ด้อยกว่า แต่กลับบีบจักรพรรดิจาวเหรินทุกฝีก้าว คำพูดประโยคสุดท้าย ยิ่งเป็นการปฏิเสธหญิงสาวคนอื่นๆในเมืองหลวง แฝงความหมายว่าแม้จะมีผู้หญิงมากมายบนโลก ก็จะรักแต่นางเพียงผู้เดียว

ความหมายนอกเหนือจากนั้นก็ยิ่งง่ายดายตรงไปตรงมา นั่นก็คือผู้หญิงคนอื่นเขาไม่ชอบ

จักรพรรดิจาวเหรินกระตุกมุมปากอีกครั้ง รู้สึกอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาชั่วขณะ โบกมืออย่างรำคาญใจ

“ช่างเถอะช่างเถอะ ให้ข้าคิดเรื่องนี้อีกที เจ้าถอยออกไปก่อนเถอะ”

เขาเกรงว่าหากพูดคุยต่อไป จะยิ่งทำให้เฟิงหยางสงสัยในแรงจูงใจของตนเอง จึงตัดบทการสนทนาทันที

ถึงแม้ว่าเฟิงหยางจะแสดงออกว่าเศร้าใจและล้มเหลว แต่ก็กล่าวลาอย่างให้เกียรติ

รอจนกระทั่งเขาจากไปแล้ว จักรพรรดิจาวเหรินก็นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างกลัดกลุ้มใจ กลุ้มจนเส้นผมบนศีรษะเปลี่ยนเป็นสีเงินไปแล้วสองเส้น

อย่างน้อยรุ่ยอ๋องก็เป็นถึงองค์ชายคนโต เขาคิดไม่ตกว่าทำไมจัดการเรื่องแต่งงานให้เขาจึงได้ยากเย็นเช่นนี้ ทั้งๆที่ฐานะของเขา ควรจะมีหญิงสาวมาเสนอตัวเป็นที่โปรดปรานมากมาย ทำไมจึงต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องมาแย่งชิงลูกสาวขององครักษ์ในกองทัพจิงอู๋กับขุนศึกเช่นนี้ด้วย

ในใจจักรพรรดิรู้ดี การประทานงานแต่งงานให้เว่ยยิงเป็นพระชายารองต้องคิดให้รอบคอบ จะให้เฟิงหยางและรุ่ยอ๋องเกิดความบาดหมางเพราะเหตุนี้ไม่ได้

สติสัมปชัญญะบอกเขาว่า ทางที่ดีที่สุดคือทำให้เฟิงหยางสมปรารถนา ตำแหน่งพระชายารองของรุ่ยอ๋องค่อยหาตัวเลือกอื่น

แต่ในกระบวนการของเรื่องนี้มีความไม่ราบรื่นอยู่มากมาย กลับทำให้เขารู้สึกกลัดกลุ้มและล้มเหลวทั้งยังแฝงไปด้วยความขุ่นเคืองและไม่พอใจเล็กน้อย ยากจะเอ่ยปากและยอมถอย

ได้แต่ไล่เฟิงหยางไปก่อน สงบจิตสงบใจตัวเองแล้วค่อยว่ากันอีกที

เฟิงหยางได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกอึดอัดใจอยู่บ้าง เขาเป็นถึงบุรุษอกสามศอก แสดงออกถึงความสอดรู้สอดเห็นเช่นนี้ดูไม่ดีจริงๆ “เป็นเพราะไม่มีทางเลือก จึงจำเป็นต้องสืบเรื่องภายในครอบครัวของพวกเขา”

เซียวปี้เฉิงพูดตรงประเด็นทันที “เจ้ามาเพราะเรื่องของเว่ยยิงกระมัง”

“ฝ่าบาทรงอยากจะประทานงานแต่งงานให้เว่ยยิงเป็นพระชายารองของรุ่ยอ๋อง......พวกท่านต่างก็รู้ข่าวแล้วใช่หรือไม่”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า “ก็เพิ่งจะได้รับข่าวไม่นาน”

เฟิงหยางยิ้มขม “เมื่อวานหลังจากที่อวิ๋นหลิงพูดเกลี้ยกล่อม ข้าก็เข้าใจขึ้นมาทันที เช้านี้จึงรีบไปสู่ขอที่บ้านตระกูลเว่ย คิดไม่ถึงว่าจะช้าไปก้าวหนึ่ง ได้แต่คิดหาวิธีแก้ไข”

เห็นทีสวรรค์ก็ไม่ชอบท่าทีขี้ขลาดราวกับเต่าที่เอาแต่หดหัวอยู่ในกระดองของเขา ตัดสินใจจะให้เขาได้รับความทุกข์ซะบ้าง

ในขณะเดียวกันกับที่เขาคิดได้แล้ว การเข้าวังของเว่ยยิงได้รับความชื่นชอบจากจักรพรรดิจาวเหริน

“ทางด้านฝ่าบาทข้าได้ไปเข้าเฝ้าแล้ว เมื่อครู่ข้าได้ขอร้องให้พระองค์ประทานงานแต่งงานให้ข้ากับอายิง ทรงไม่เห็นด้วย แต่ก็ยังไม่มีราชโองการประทานงานแต่งงานให้คนอื่น เพียงแต่ข้ารู้สึกไม่มั่นใจจริงๆ เกรงว่ายิ่งปล่อยไว้นานอุปสรรคก็ยิ่งมาก จึงอยากจะลงมือจากทางรุ่ยอ๋องต่อ”

“ไม่รู้ว่าทำไมฝ่าบาทจึงชื่นชอบอายิง หรือว่าเป็นเพราะเรื่องที่รุ่ยอ๋องจมน้ำทำให้ชอบอายิง หรืออยากจะรับผิดชอบต่อชื่อเสียงของนาง แต่ฟังที่ท่านตาบอกเล่า รุ่ยอ๋องทรงรักพระชายาของตนเองอย่างลึกซึ้งตลอดมา ก็ไม่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร”

เห็นเขาที่มีท่าทีกลัดกลุ้มใจ อวิ๋นหลิงก็ยิ้มพลางปลอบเขาว่า “วางใจได้เลย สิ่งที่ท่านตาของเจ้าพูดถูกต้อง การประทานงานแต่งงานเป็นเรื่องที่เสด็จพ่อคิดไปเองฝ่ายเดียวเท่านั้น”

หลังจากนั้น นางก็เล่ารายละเอียดเรื่องราวระหว่างรุ่ยอ๋องกับหรงฉาน แม้แต่เรื่องเดิมพันหนึ่งปีเพื่อทดสอบใจก็ไม่ปิดบัง ถือได้ว่าเล่าเรื่องทั้งหมดของรุ่ยอ๋องอย่างไม่ไว้หน้าเลยทีเดียว

หลังจากเล่าจบ อวิ๋นหลิงก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ข้ามีความคิดดีๆอย่างหนึ่ง เจ้าจะลองดูไหมล่ะ”

เฟิงหยางไม่ได้มาหานางเพื่อให้ช่วยออกหน้า แต่ว่า นางสามารถช่วยสอนวิธีการให้อีกฝ่ายได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ