ในเมืองหลวงที่มีรถราวิ่งขวักไขว่ ผู้คนจอแจ เป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินอีกครั้ง
ร้านค้าข้างทางทยอยเตรียมตัวเก็บร้านกลับบ้าน แต่มีร้านค้าจำนวนมากที่เพิ่งเริ่มเปิดร้าน รออีกไม่นานก็จะถึงช่วงเวลาตลาดกลางคืนที่แสนคึกคัก
หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือเรื่องการปฏิรูปบัตรประจำตัวของประชาชนกับอาลักษณ์กรมคลังที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่เสร็จแล้ว รุ่ยอ๋องเห็นว่าค่ำแล้ว จึงได้กล่าวลาจากไป
หลังจากที่ตกน้ำ เพื่อไม่ให้หรงฉานเป็นห่วง เขาให้ความร่วมมือโดยการลาหยุดเพื่อพักฟื้นร่างกายสองวัน วันนี้เพิ่งจะกลับมาทำงานอีกครั้ง
ที่นี่อยู่ห่างจากจวนรุ่ยอ๋องไม่ไกลนัก เดินเท้ากลับไปใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยามเท่านั้น
รุ่ยอ๋องมองนาฬิกาพกแวบหนึ่ง และเดินอย่างสบายใจไปตามถนนสายยาว
เขาไม่ได้นั่งรถ ด้านหลังมีเพียงองครักษ์สองคนที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยให้เขา เพื่อสังเกตดูชีวิตประชาชนอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น หนึ่งปีกว่ามานี้ หลังจากเลิกงานก็ทำเช่นนี้เสมอมา
สำหรับประชาชนทั่วไปแล้ว สามารถได้คุยกับขุนนางที่มาจากตระกูลสูงส่งแค่ประโยคเดียวก็ถือว่าเป็นบุญวาสนาแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสมาชิกในราชวงศ์ที่ชาตินี้ไม่รู้จะได้เจอหรือไม่
แต่ตอนที่รุ่ยอ๋องเดินอยู่บนถนน ประชาชนไม่น้อยกลับรู้สึกชินจนเป็นเรื่องปกติ กระทั่งมีคนไม่น้อยที่เข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง
เพียงแต่เดินมาแล้วครึ่งชั่วโมง บนมือของรุ่ยอ๋องมีตะกร้าเล็กๆเพิ่มขึ้นมาหนึ่งใบ ในนั้นมีขนมทำมือวางอยู่ไม่น้อย
รูปลักษณ์ไม่ถือว่าประณีต แต่กลิ่นหอมชวนกินมาก แค่ดูก็รู้ว่าใช้วัตถุดิบที่ดี
องครักษ์ทั้งสองคนที่อยู่ทางด้านหลัง คนหนึ่งก็ถือปลาแม่น้ำสดๆเอาไว้ ส่วนอีกคนก็ถือผักกาดเอาไว้มัดหนึ่ง
เหล่านี้ล้วนเป็นประชาชนที่ดึงดันจะมอบให้
ทั้งสองเดินตามหลังรุ่ยอ๋อง ต่างก็เชิดหน้ายืดยก เผยท่าทีดูภูมิใจมาก
พูดถึงเจ้านายของพวกเขา ค่อนข้างเป็นที่ยินดีต้อนรับของประชาชนทั่วไป คนปกติเมื่อเห็นสมาชิกในราชวงศ์บางทีอาจจะคุกเข่าคำนับอย่างนอบน้อม แต่คนที่สามารถทำให้พวกเขาเข้ามาพูดคุยและมอบสิ่งของให้ รุ่ยอ๋องเป็นเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน
แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้านายของพวกเขาสมควรจะได้รับ
สองปีมานี้ รุ่ยอ๋องปฏิบัติต่อประชาชนอย่างไร ทุกคนต่างก็มองเห็น
เส้นทางที่เขาเดินผ่าน มักจะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ก่อนหน้านี้รุ่ยอ๋องเคยช่วยเหลือหญิงชราตาบอดที่อาศัยอยู่คนเดียวอ่านจดหมาย และเขียนจดหมายตอบกลับให้ลูกชายที่อยู่ในกองทัพ กระทั่งครึ่งปีหลังมานี้ หญิงชราเพิ่งจะรู้ว่า”ผู้ที่รู้หนังสือ” ที่ช่วยเหลือตนเองตลอดมา เป็นถึงรุ่ยอ๋องที่มีชื่อเสียง นอกจากความประหลาดใจแล้วก็เต็มไปด้วยความตื้นตัน
นอกจากนี้ เขายังไปเยี่ยมเยียนประชาชนด้วยตนเอง ไม่เหมือนเหล่าขุนนางน้อยใหญ่เหล่านั้นที่ทำเอาหน้า รุ่ยอ๋องนั้นรับฟังและเก็บรวบรวมข้อเสนอแนะและความคิดเห็นของประชาชนอย่างจริงจัง
ปกติเหล่าขุนนางที่มาลาดตระเวนเยี่ยมเยียน พวกเขาพูดไปก็เหมือนไม่ได้พูด ไม่มีการตอบสนองกลับเลยแม้แต่น้อย
แต่รุ่ยอ๋องไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นมาตรการที่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะภายในระยะเวลาที่สั้นหรือยาวก็ต้องทำให้เป็นจริง แม้จะมีเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจากเหตุผลอะไรก็ตาม เขาก็จะอธิบายถึงสาเหตุให้เหล่าคณะกรรมการชุมชนได้รับทราบด้วยตนเอง
คนที่เข้าถึงได้ง่ายเช่นนี้ ขุนนางดีๆที่ทุ่มเทเพื่อประชาชนทั้งใจ จะให้ประชาชนไม่รักได้อย่างไร
อวิ๋นหลิงจะส่งคนของศาลต้าหลี่มาสำรวจความสุขและความพึงพอใจของประชาชนทุกไตรมาส ด้วยอานิสงส์ของรุ่ยอ๋อง คำชื่นชมและความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อเหล่าขุนนางในสองปีมานี้ถือได้ว่าพุ่งสูงขึ้นมาก
เช่นนี้ชีวิตที่ยุ่งกับงานระดับรากหญ้า ก็ไม่ได้ทำให้รุ่ยอ๋องรู้สึกเหน็ดเหนื่อย กลับรู้สึกมีความสุขด้วยซ้ำไป
เมื่อเทียบกับชีวิตที่เคยถูกห้อมล้อมด้วยเหล่าลูกหลานของตระกูลผู้สูงศักดิ์ ที่มักจะรวมตัวสังสรรค์ดื่มชาชื่นชมบทกวี รุ่ยอ๋องพบว่าตัวเองยินดีที่จะโอบกอดประชาชนมากกว่า
เขาชอบที่จะได้ใกล้ชิดกับมนุษย์ที่มีกลิ่นอายธรรมดาทั่วไป เช่นนี้สามารถทำให้เขารู้สึกว่ามีชีวิตอยู่อย่างเต็มที่และสมจริงทุกวัน
ยุ่งมาทั้งวัน กลับไปถึงจวนเห็นภาพที่ภรรยาหยอกล้อลูกชาย เป็นช่วงเวลาที่รุ่ยอ๋องมีความสุขมากที่สุด
“ประทานงานแต่งงาน” รุ่ยอ๋องรู้สึกมึนงง “เว่ย แม่นางเว่ย แม่นางเว่ยอะไรกัน......เจ้าหมายถึงเว่ยยิงหรือ”
พอพูดถึงตอนท้าย หางเสียงถูกเปล่งออกมาสูงจนฟังดูพิลึก
“เดี๋ยวก่อน ฉานเอ๋อร์ เสด็จพ่อประทานงานแต่งงานให้ข้ากับเว่ยยิงตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมข้าจึงไม่รู้เรื่องนี้”
หรงฉานสีหน้านิ่งสงบ มองไม่ออกว่ามีความผิดหวังในแววตามากแค่ไหน “เทียนอวี้ ท่านอย่าแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย มิเช่นนั้นทำไมพอข้าเอ่ยถึงแม่นางเว่ย ท่านจึงรู้ว่าเป็นเว่ยยิงเล่า”
“วันนี้ตระกูลเว่ยมาส่งของขวัญตอบแทน ระหว่างที่พูดคุยกันก็จับใจความได้ว่าขอให้ข้าอย่ารังเกียจเว่ยยิง ข้าจึงได้รับรู้ความจริง”
รุ่ยอ๋องราวกับถูกสายฟ้าฟาด “คิดไม่ถึงว่าเสด็จพ่อจะมีความคิดเช่นนี้ ข้า......ข้ารู้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงเรื่องที่อยากจะให้ข้ารีบแต่งพระชายารอง แต่เขาไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องเว่ยยิงกับข้าเลย”
หลังจากที่ได้สติ รุ่ยอ๋องทั้งตื่นตระหนกทั้งร้อนใจ แทบจะกลายเป็นมดบนกระทะร้อนไปแล้ว
“ฉานเอ๋อร์ เจ้าเชื่อใจข้า ข้าไม่มีทางจงใจปิดบังเจ้า ข้าไม่รู้ความคิดของเสด็จพ่อจริงๆ ข้าไม่ได้จะหลอกเจ้า”
“เจ้า......เจ้า เจ้าอย่าเพิ่งไป” รุ่ยอ๋องรีบหันไปห้ามบ่าวรับใช้ที่กำลังขนของอยู่ข้างนอก จากนั้นก็กระทืบเท้าด้วยความร้อนใจ “ข้า......โธ่เอ๊ย”
“ฉานเอ๋อร์เจ้าอย่าโมโห ข้าสาบานได้ว่าไม่โกหกเจ้าอย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นก็ขอให้ฟ้าผ่า ข้า ข้าจะเข้าวังไปถามเสด็จพ่อให้ชัดเจนเดี๋ยวนี้เลย”
เขาร้อนใจจนเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มหน้าผาก ตอนนี้ไม่สนใจอะไรแล้ว ก้าวเท้าวิ่งออกไปข้างนอกทันที
วิ่งไปพลาง รุ่ยอ๋องก็ไม่ลืมจะตะโกนขึ้นมาว่า “ฉานเอ๋อร์อย่าไปไหน เจ้าต้องรอข้าอยู่ที่บ้าน ข้าจะกลับมาให้คำตอบเจ้า”
ภายในเรือนหลัก หรงฉานเห็นเงาหลังที่จากไปไกลของเขา สีหน้าที่เย็นชานิ่งเรียบก็หายไป อดไม่ได้ที่จะเอามือปิดปากแอบหัวเราะ
หลังจากนั้นนางก็เรียกสาวรับใช้ที่รู้ใจเข้ามา “ตอนนี้เจ้าไปรายงานที่จวนราชบัณฑิต บอกกับแม่ทัพเฟิงหยาง ว่าข้าได้ทำตามที่เขาบอกแล้ว เทียนอวี้เดินทางไปวังหลวงแล้ว”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...