เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1078

อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะมองตามสายตาของเซียวปี้เฉิงไปยังพี่น้องถวนถวน จากนั้นก็จมดิ่งอยู่ในความเงียบ

เมื่อครุ่นคิดอย่างละเอียด นางที่เป็นแม่ ตอนแรกก็แทบจะไม่ได้ดีไปถึงไหน

ตอนที่เพิ่งจะทะลุมิติมาถึงที่นี่ ตอนที่นางตั้งครรภ์อย่างไม่ตั้งใจ ในใจเต็มไปด้วยความท้อแท้และหงุดหงิด รู้สึกว่าลูกได้ทำให้เส้นทางของนางสะดุด แม้แต่การออกไปเที่ยวเล่นอย่างมีความสุขก็ทำไม่ได้

เพื่อแสวงหาความสุขสบายของตนเอง นางอาศัยว่าตนเองมีทักษะวิชาแพทย์ที่แข็งแกร่ง ทำเรื่องที่ประมาทจนอาจจะมีผลกระทบต่อร่างกายได้

ตัวอย่างเช่นตอนที่ท้องใหญ่มากแล้ว อยู่เฉยไม่ไหวก็ออกไปเดินเล่น หรือตอนที่รู้สึกอยากกินของเย็นๆ ก็แอบกินอาหารเย็นๆและรสจัดซึ่งมีผลต่อกระทบต่อกระเพาะอาหาร

ทั้งๆที่รู้ว่าจะคลอดแล้ว ได้ยินข่าวคราวของหลิวฉิงโดยไม่ทันตั้งตัว ก็แทบจะไปหานางที่แคว้นเป่ยฉินในทันที

เมื่อเทียบกันแล้ว ก็ไม่ได้ดีไปกว่าจักรพรรดิจาวเหรินสักเท่าไหร่

กระทั่งจนถึงตอนที่คลอดลูกและเกือบจะเสียชีวิต ตอนนั้นนางเพิ่งจะรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างจริงจัง เกรงว่าจะไม่สามารถคลอดลูกออกมาได้และตายอยู่ในครรภ์

ไม่แปลกที่ช่วงพี่น้องถวนถวนเพิ่งกำเนิดมา เซียวปี้เฉิงอดไม่ได้ที่จะถามนาง ว่าชอบลูกทั้งสองคนที่ถูกประทานมาจากฟากฟ้าหรือไม่

พวกเขาในตอนนั้น ก็ไม่รู้ว่าควรจะเป็นพ่อแม่ที่ดีได้อย่างไร หลังจากนั้นก็ศึกษาเรียนรู้อย่างยากลำบากตลอดมา

คิดถึงตรงนี้ จู่ๆอวิ๋นหลิงก็รู้สึกมีความเข้าใจจักรพรรดิจาวเหรินขึ้นมาบ้างแล้ว

แน่นอนว่า ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น

สำหรับพ่อที่อายุมากแล้วยังทำตัวไร้เหตุผลกับเหล่าลูกหลาน นิสัยนี้จะดีขึ้นสักหน่อยไม่ได้เลยหรือ

“หลิงเอ๋อร์ เจ้าไปดูเสด็จพ่อสักหน่อยเถอะ คิดหาวิธีให้เขาสามารถกินข้าวได้บ้าง เป็นอย่างนี้ต่อไปคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ”

ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นพ่อแท้ๆของตนเอง อย่างไรเสียเซียวปี้เฉิงก็รู้สึกเป็นห่วงอยู่ดี

ยิ่งไปกว่านั้นคนเป็นพ่อไร้เหตุผล เขาที่เป็นลูกจะไร้เหตุผลตามไม่ได้

อวิ๋นหลิงไม่พูดจา แต่สีหน้ามีแววรังเกียจและไม่ยินดีเผยออกมาอย่างเห็นได้ชัด

เซียวปี้เฉิงขอร้องว่า “ถ้าหากเสด็จพ่อทรงเป็นอะไรไป คนที่จะมีชีวิตโดยไม่มีความสุขก็คือคนอื่นๆที่อยู่ในวัง เหล่าข้ารับใช้ในพระที่นั่งบำรุงฤทัยทำงานไม่ง่ายเลย ฝูกงกงก็ลำบากมาก อายุปูนนี้แล้วยังต้องคอยเกลี้ยกล่อมให้เสด็จพ่อกินข้าวราวกับเด็กทุกวัน ข้ารู้สึกเหนื่อยใจแทนเขา”

“……”

เซียวปี้เฉิงพูดถูก ตาแก่คนนี้อาจหิวจนเกิดอาหารเจ็บป่วยจริงๆ ถึงเวลานั้นคนที่เหนื่อยและลำบากก็ยังคงเป็นนาง

อวิ๋นหลิงจึงได้ฝืนตอบตกลงอย่างลำบากใจไปว่า “เอาเถอะ เช่นนั้นข้าจะไปทำยาเม็ดมาให้เขา เมื่อกินยาแล้วรับรองว่าต้องอยากกินข้าวมื้อละสามถ้วยแน่ๆ แต่ถ้าทำยานี้ออกมาแล้วเขาต้องกินนะ ถ้าไม่กินก็ให้จับยัดใส่เข้าไปในปาก......”

เซียวปี้เฉิงรู้สึกขำพลางพยักหน้ารับ จากนั้นก็มองนางที่บ่นพึมพำและเดินไปทางเรือนยาสมุนไพร

อวิ๋นหลิงยุ่งอยู่ในเรือนยาสมุนไพรเป็นเวลากว่าครึ่งวัน ในที่สุดก็ทำยาเม็ดออกมาได้หนึ่งขวดเล็ก

ยานี้เมื่อกินแล้วจะทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น แม้แต่พระกินแล้วยังอดไม่ได้ที่จะตบะแตกจนกินเนื้อ คิดว่าจักรพรรดิจาวเหรินที่อ่อนคงต้านฤทธิ์ยาไม่ไหวเลยสักนิด

นางกับเซียวปี้เฉิงไปถึงประตูพระที่นั่งบำรุงฤทัยพร้อมกัน อยู่ห่างระยะหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงโกลาหลวุ่นวายดังขึ้นมา

เหมือนสองสามีภรรยาอ๋องโม่จะมาอีกแล้ว

ไม่ควรฟังคำพูดเหลวไหลของเซียวปี้เฉิงจริงๆ ดันไปเห็นใจตาแก่ที่ทำตัวไร้เหตุผลเช่นนี้

พอเยี่ยนอ๋องพูดเช่นนี้ออกไป สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในพระที่นั่งบำรุงฤทัยต่างก็ผิดปกติขึ้นมา

จักรพรรดิจาวเหรินก็มีสีหน้าแปลกประหลาด สุดท้ายก็อายระคนโมโหก่อนจะเอ่ยว่า “เจ้าสี่ เจ้าคิดว่าข้ามีชีวิตสุขสบายเกินไป มาทำให้ข้าโมโหโดยเฉพาะใช่หรือไม่ ถ้าเกรงว่าข้ามีชีวิตยาวนานเกินไปแล้ว เจ้าก็พูดออกมาตรงๆเลย”

“ข้าไม่รู้ว่าท่านมีชีวิตสุขสบายหรือไม่ ในเมื่อท่านเอาแต่หาเรื่องให้ทุกคนไม่เว้นวาย พวกเราต่างก็มีชีวิตที่ลำบากมาก ถ้าขืนยังถูกทรมานเช่นนี้ต่อไป ข้ายังเกรงว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่น่านเท่ากับท่านแล้ว”

เยี่ยนอ๋องเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แล้วก็มองไปยังอ๋องโม่และองค์ชายหก

“น้องห้าน้องหก พวกเจ้าเห็นแล้วใช่ไหมว่าข้าไม่ได้พูดผิด คนปกติที่ไหนไม่ได้กินข้าวสามวันแล้วยังมีพลังเต็มเปี่ยมเช่นนี้ พวกเจ้าอย่าได้ถูกเขาหลอก วิ่งมาที่ให้เขาระบายอารมณ์เปล่าๆ”

จักรพรรดิจาวเหรินโกรธจนร่างกายกระตุก นิ้วมือที่ชี้ไปยังเยี่ยนอ๋องสั่นเท่า “แต่ละคนล้วนเป็นคนเนรคุณไร้น้ำใจ ล้วนเป็นเวรกรรมที่สนองข้า ความรักที่ข้ามีต่อพวกเจ้ามันไร้ประโยชน์”

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ป่วยแต่กำลังจะถูกทำให้โกรธจนป่วยแล้ว อ๋องโม่กับองค์ชายหกสบตากัน รีบเดินเข้าไปสงบศึกที่กำลังคุกรุ่นทันที

องค์ชายหกถือจานของว่างเดินไปข้างเตียงมังกร เอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “ของว่างจานนี้เสด็จย่าทำเองกับมือ คนแก่อายุปูนนี้แล้วยังเข้าครัวด้วยตนเอง เสด็จพ่อต้องไม่ยินดีทำให้นางเสียใจแน่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านต้องกินให้หมด เช่นนี้หากเสด็จย่ารู้แล้วจะได้สบายใจ”

ส่วนอ๋องโม่ก็ผลักเยี่ยนอ๋องออกไปนอกห้อง ขอร้องเสียงต่ำว่า “พอแล้วพอแล้ว พี่สี่ท่านอย่าพูดอะไรอีกเลย ทุกครั้งที่พูดล้วนทิ่มแทบราวกับคมหอกคมดาบ เสด็จพ่อทรงกริ้วจนอิ่มแล้ว”

เยี่ยนอ๋องทำเสียงขึ้นจมูก พึมพำเบาๆว่า “โกรธจนอิ่มก็ดี จะได้ไม่ต้องรบกวนทางห้องเครื่องทำอาหารมากมายในแต่ละวัน สิ้นเปลืองเสบียงอาหาร......”

เขาบอกว่าไม่สบายไม่เข้าร่วมประชุมราชสำนักสองวัน ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาต่างก็กลุ้มใจจะตายอยู่แล้ว

ขุนนางหลายพื้นที่ถวายฎีกา บอกว่าการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีเมื่อปีที่แล้วไม่ดี ปีนี้เพิ่งจะเพาะปลูกข้าว เกรงว่าจะเกิดความอดอยาก กำลังมาขอร้องให้เมืองหลวงส่งเสบียงออกไปให้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ