เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1079

ทั้งสองเดินออกไปนอกตำหนัก พบเข้ากับสองสามีภรรยาอวิ๋นหลิง

เยี่ยนอ๋องสีหน้าจึงดูดีขึ้นมาไม่น้อย “พี่สาม พี่สะใภ้สาม”

อวิ๋นหลิงพยักหน้ารับ พูดยิ้มๆว่า “เจ้าช่างกตัญญูจริงๆ เข้าวังมาเยี่ยมเสด็จพ่อทุกวันโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย”

“ใครอยากจะมาเยี่ยมเขากันเล่า” เยี่ยนอ๋องแบะปาก ไม่ปิดบังความรู้สึกรังเกียจที่ตนเองมีแต่จักรพรรดิจาวเหรินเลยแม้แต่น้อย “นั่นเป็นเพราะว่าข้ามีข้อราชการอยากจะปรึกษากับน้องห้า ปรากฏว่าทุกวันหลังเลิกประชุมราชสำนักเขาก็ต้องมาถูกจองจำอยู่ในพระที่นั่งบำรุงฤทัย ข้าไม่มีทางเลือกก็เลยต้องมาที่นี่”

เรื่องของพระสนมหลี่ก่อนหน้านี้ ทำให้เยี่ยนอ๋องกับจักรพรรดิจาวเหรินทะเลาะกันจนไม่พอใจกันถึงตอนนี้

นิสัยของเขาเหมือนกับพระสนมหลี่ ต่างก็มีนิสัยหุนหันพลันแล่นทั้งคู่ คิดอะไรก็พูดเช่นนั้นเสมอมา

ตั้งแต่พระชายาตี้หวู่เหยาตั้งครรภ์ ที่จริงเขาเติบโตหนักแน่นขึ้นไม่น้อย มีเพียงตอนที่อยู่ต่อหน้าจักรพรรดิจาวเหรินจะมีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งมาก

ตอนนี้พอสองพ่อลูกเจอหน้ากัน ต่างก็มองอีกฝ่ายอย่างขัดหูขัดตา

อ๋องโม่เอ่ยต่อไปว่า “พี่สาม หลายวันมานี้ข้ากับพี่สี่ได้รวบรวมสถานการณ์คลังเก็บเสบียงทั่วทุกที่ของแคว้นต้าโจวไว้เรียบร้อยหมดแล้ว รอแค่ให้ท่านตรวจสอบดูและสั่งการขนย้ายเสบียง”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้าอย่างดีใจ “ดี ลำบากพวกเจ้าสองคนแล้ว ให้ขันทีนำไปส่งที่ห้องตำราของตำหนักบูรพาเถอะ ดึกหน่อยข้าค่อยดู”

ทุกครั้งในเวลายากลำบากเช่นนี้ เขาจะรู้สึกโชคดีมาก แม้ว่าเสด็จพ่อมักจะตกม้าตายในเวลาสำคัญที่ราชสำนักต้องการเขามากที่สุด แต่อย่างน้อยพวกพี่น้องก็สามารถพึ่งพาอาศัยได้

โดยเฉพาะเยี่ยนอ๋อง เจ้าหมอนี่มักจะบ่นเสมอว่าราชสำนักมีงานเยอะมาก ทำเอาท่านอ๋องที่อยากจะมีชีวิตสบายๆก็ทำไม่ได้

แต่พอมีปัญหาเกิดขึ้น เขามักจะเป็นคนแรกที่ยื่นมือเข้ามาแบ่งเบาภาระด้วยตนเอง มีเงินออกเงิน มีแรงออกแรง เป็นคนมีความรับผิดชอบมาก

เยี่ยนอ๋องมอบหมายงานเรียบร้อยแล้ว สายตาที่แหลมคมก็เหลือบไปเห็นขวดยาในมืออวิ๋นหลิง

“พี่สะใภ้สาม ท่านมาดูอาการป่วยเสด็จพ่อหรือ”

อวิ๋นหลิงเขย่าขวดยาในมือ “เอายาเจริญอาหารมาให้เสด็จพ่อ ป้องกันไม่ให้เขาไม่กินข้าว ทำเอาพวกเจ้าต้องเหนื่อยและลำบากไปด้วย”

“ข้างในนี้เป็นยาเจริญอาหารหรือ ถ้ามาจากมือพี่สะใภ้สาม ต้องใช้ได้ผลดีมากแน่ๆ”

“แน่นอน แค่เม็ดเดียวรับรองว่าประเดี๋ยวเขาจะสามารถกินข้าวได้ถึงสามถ้วย แต่เขาต้องให้ความร่วมมือในการกินยาเสียก่อน”

อวิ๋นหลิงเห็นสายตาของเขาที่มองขวดยากลอกไปมาอย่างรวดเร็ว ในสายตามีแววซุกซนที่คุ้นเคยผุดขึ้นมา อดไม่ได้ที่เอ่ยยิ้มๆว่า “ทำไม เจ้ามีความคิดพิเรนทร์อะไรอีก”

“ฮึๆ......จะคิดพิเรนทร์ได้อย่างไร ข้าอยากจะช่วยพี่สะใภ้สามแบ่งเบาภาระต่างหาก ถ้าเสด็จพ่อไม่ยอมกินยาดีๆ ข้ามีวิธีรับมือกับเขา”

เยี่ยนอ๋องพูดจบก็เขยิบเข้าไป เอาขวดยาไปจากมือนาง แล้วถามว่า “ถ้าหากเสด็จพ่อไม่เจริญอาหาร ในมื้อหนึ่งก็ต้องกินหลายเม็ดเลยใช่หรือไม่”

อวิ๋นหลิงไม่เปิดโปงแผนการของเขา กำชับเสียงต่ำว่า “อย่าทำอะไรเหลวไหลเกินไป กินครั้งละเม็ดก็พอแล้ว กินมากไปจะกระทบกระเพาะอาหาร”

“ได้ๆๆ มอบให้เป็นหน้าที่ข้า คืนนี้ต้องทำให้เสด็จพ่อต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองก่อ”

น้ำเสียงของเยี่ยนอ๋องฟังดูตื่นเต้นขึ้นมาทันที ถือขวดยาเดินไปทางห้องครัวทันที ก็ไม่รู้ว่าเตรียมจะทำอะไร แต่อวิ๋นหลิงมองเห็นแววตาแห่งการแก้แค้นในดวงตาของเขา

อ๋องโม่ส่ายหน้า เอ่ยเสียงเบาว่า “พี่สี่ยังคงมีนิสัยเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ”

แม้จะพูดเช่นนี้ เขาก็ไม่มีทีท่าจะห้ามเยี่ยนอ๋อง ดูออกว่าหลายวันมานี้ถูกทรมานทางจิตใจอยู่ในพระที่นั่งบำรุงฤทัยไม่น้อย

“ไปดูอาการของเสด็จพ่อก่อนเถอะ น้องหกรับมืออย่างยากลำบากอยู่คนเดียวข้างในนั้นไม่ง่ายเลย”

เซียวปี้เฉิงพูดจบ ทั้งสามก็เดินเข้าไปในพระที่นั่งบำรุงฤทัยพร้อมกัน

องค์ชายหกผู้บริสุทธิ์เกลี้ยกล่อมจักรพรรดิจาวเหรินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน โชคดีที่เขาเป็นมีสนมลี่ผินที่ร้ายกาจเป็นมารดา ท่าทีของจักรพรรดิจาวเหรินที่มีต่อเขาจึงนับว่าไม่รุนแรงเกินไป ได้แต่บ่นพึมพำถึงความไม่เอาไหนของเยี่ยนอ๋อง

เซียวปี้เฉิงหาทางออกให้เขาอย่างเหมาะสม “เสด็จพ่อ นี่ก็จะถึงเวลาทานอาหารค่ำแล้ว พวกเราก็อยู่ด้วยพอดี ไม่สู้กินข้าวเป็นเพื่อนท่านจะดีกว่า”

จักรพรรดิจาวเหรินเอยอย่างเศร้าๆ “กินอะไรกัน พอเจ้าสี่ไอ้ลูกทรพีคนนั้นมา ท้องข้าก็เต็มไปด้วยลมโทสะจนอิ่มแล้ว”

พูดจบ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากข้างนอก คนที่มาคือเยี่ยนอ๋อง ในมือถือถาดเอาไว้หนึ่งอัน

จักรพรรดิจาวเหรินเห็นเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “เจ้ายังจะกลับมาอีกทำไม จะมาดูว่าข้าตายหรือยังใช่หรือไม่”

เยี่ยนอ๋องทำหน้าจริงจังมาก ไม่มีทีท่าดื้อรั้นไม่เชื่อฟังเหมือนเมื่อครู่เลยสักนิด เขาวางถาดเอาไว้บนเก้าอี้ใกล้กับเตียงมังกร จู่ๆก็คุกเข่าลงกับพื้นหน้าเตียงนอน

สองมือประคองถ้วยใส่น้ำหนึ่งใบยื่นไปตรงหน้าจักรพรรดิจาวเหริน เอ่ยอย่างรู้สึกผิดว่า “เสด็จพ่อ ข้าขอโทษ เมื่อครู่เป็นความผิดของลูกเอง ท่านอย่าได้ถือสาหาความเลย”

จักรพรรดิถูกการกระทำของเขาที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำเอาตกใจสะดุ้งโหยง “ทำไม เจ้าอยากจะมาไม้ไหนอีก”

“เสด็จพ่ออย่าเข้าใจผิด ลูกก็แค่ยอมรับผิดกับท่าน เมื่อครู่ตอนที่อยู่นอกตำหนักพี่สามได้สั่งสอนข้าแล้ว บอกว่าท่านกำลังป่วย ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรทำให้ท่านโกรธ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมาจนต้องเสียท่านไปจริงๆ เช่นนั้นข้าก็ต้องกลายเป็นลูกไม่มีพ่อแล้ว”

“หลังจากที่ลูกใจเย็นลง ก็รู้สึกผิดต่อความใจร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เป็นเพราะจิตใจวิตกกังวลกับงานราชการที่ยุ่งมากในช่วงนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะทำให้ท่านโกรธ ท่านอย่าถือสาเลย”

สีหน้าและน้ำเสียงของเยี่ยนอ๋องดูจริงใจมาก ดูไม่ออกถึงความฝืนใจสักนิด

ถ้าไม่ใช่เพราะอวิ๋นหลิงรู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไร ก็เกือบจะเชื่อไปแล้ว

แม้แต่เซียวปี้เฉิงยังรู้สึกว่าเยี่ยนอ๋องรู้สึกผิดแล้วจริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิจาวเหริน

เขามองเยี่ยนอ๋องอย่างสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พึมพำเสียงเบาขึ้นมาว่า “......ยอมรับผิดก็แล้วไป แล้วที่บอกว่าหากเป็นอะไรขึ้นมา เจ้าพูดจาดีๆเป็นหรือไม่”

เยี่ยนอ๋องมองเขาด้วยสายตากระตือรือร้น “เสด็จพ่อ นี่เป็นน้ำชาแทนคำขอโทษของลูก เพียงแต่หมอหลวงเคยบอกไว้ว่ากระเพาะของท่านอ่อนแอไม่ควรดื่มชา ดังนั้นข้าจึงได้เปลี่ยนเป็นน้ำผึ้งบำรุงร่างกายโดยเฉพาะ เห็นแก่ที่ลูกยอมรับผิดอย่างจริงใจ ท่านก็ดื่มเถอะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ