เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1080

ที่เพิ่มน้ำผึ้งย่อมเป็นเพราะต้องการกลบกลิ่นของยาสมุนไพร ยาเม็ดนั้นถูกเขาบดเป็นผงละลายในน้ำแล้ว

โชคดีที่เขาแอบชิมก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ความจริงเปิดเผย

จักรพรรดิจาวเหรินพ่นลมหายใจหนักๆออกมาทางจมูก “ฮึ ที่แท้เจ้าก็ยังรู้จักสำนึกผิด”

เยี่ยนอ๋องสะกดกลั้นความใจร้อนที่อยากจะตอกกลับเขา เอ่ยเสียงต่ำว่า “เสด็จพ่อ ท่านให้อภัยข้าเถอะ”

จักรพรรดิจาวเหรินที่เดิมที่ก็หิวอยู่แล้ว เมื่อครู่เพิ่งจะบ่นเป็นเวลานาน ปากคอรู้สึกแห้งอยู่บ้าง อยากจะใช้น้ำผึ้งละลายน้ำมารองท้องสักหน่อย จะหาเรื่องให้ตัวเองทำไม

“เอาเถอะ ข้าก็คร้านจะถือสาเด็กน้อยอย่างเจ้า เห็นแก่คำขอโทษที่จริงใจของเจ้า ครั้งนี้จะให้อภัยเจ้า”

พูดจบ เขาก็แสร้งทำเป็นรับน้ำผึ้งละลายน้ำไปอย่างลำบากใจ ดื่มรวดเดียวจนหมด

ดื่มเสร็จยังเผลอเดาะปาก เลียริมฝีปาก ทำไมจึงรู้สึกว่าน้ำผึ้งละลายน้ำถ้วยนี้จึงได้อร่อยยิ่งนัก

ราวกับมีรสชาติแตกต่างไปจากเมื่อก่อน หรือว่าเขาหิวจนต่อมรับรสเปลี่ยนไปแล้ว

ขณะที่จักรพรรดิจาวเหรินกำลังครุ่นคิด ก็เห็นริมฝีปากของเยี่ยนอ๋องโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มกว้าง แทบจะฉีกไปถึงใบหูแล้ว

“เสด็จพ่อ ท่านช่างเป็นเสด็จพ่อที่มีจิตใจกว้างขวางที่สุดในใต้หล้าจริงๆ ตอนนี้ท่านอยากจะกินข้าวหรือไม่ จะให้พวกเรากินข้าวเป็นเพื่อนท่านไหม”

จักรพรรดิจาวเหรินปฏิเสธ “ไม่ ข้าไม่กิน”

เขาจะดูซิว่ารุ่ยอ๋องจะเข้าวังมาเยี่ยมเขาเมื่อไหร่

ครั้งนี้เยี่ยนอ๋องไม่ได้เกลี้ยกล่อมต่อ แต่เขยิบเข้าไปออดอ้อน “เช่นนั้นก็เอาเถอะ ในเมื่อเสด็จพ่อบอกไม่กิน อาหารค่ำมื้อนี้ประทานให้ลูกได้หรือไม่”

“ข้ากับพวกน้องสี่ยุ่งกันมาทั้งวัน ตอนนี้รู้สึกหิวจนท้องกิ่วแล้ว ในเมื่อท่านไม่กิน กับข้าวเหล่านี้ทิ้งไปก็สิ้นเปลือง ประทานให้พวกขันทีไม่สู้ประทานให้พวกเรา”

มุมปากของจักรพรรดิจาวเหรินกระตุกทีหนึ่ง ที่จริงเขาอยากจะตะโกนให้เยี่ยนอ๋องไสหัวออกไปซะ ใครบอกว่าเขาไม่กินอาหาร

ถ้าไม่กินข้าวสามวันจริงๆ เขายังจะสามารถยืนพูดคุยต่อหน้าพวกเขาได้อีกหรือ

หลายวันมานี้ห้องเครื่องทำอาหารเต็มโต๊ะทุกมื้อ เพื่อขอร้องให้เขากินข้าวจึงไม่กล้ายกเลิกอาหารง่ายๆ ล้วนเป็นอาหารที่วางไว้จนเย็นแล้วนำไปอุ่นและส่งมาให้ใหม่

เขาก็อาศัยช่วงที่ฝูกงกงไม่อยู่ ข้างกายไร้ขันทีคนอื่นอยู่ด้วย กินกับข้าวทุกจานจานละหนึ่งคำ

คีบกับข้าวแค่ครั้งเดียว จานกับข้าวดูแล้วก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร

แต่ต่อหน้าลูกๆทั้งหลาย เขาก็ไม่มีทางหน้าด้านแม้แต่ข้าวหนึ่งมื้อก็ไม่ให้กิน ได้แต่พยักหน้าด้วยสีหน้าหมองคล้ำ

“เช่นนั้นข้าก็มอบให้พวกเจ้าแล้วกัน”

เยี่ยนอ๋องดีใจจนดีดตัวกระโดดขึ้นมาจากพื้นทันที รีบสั่งการให้ขันทีที่อยู่ข้างนอกส่งอาหารมา ยังให้พวกเขายกโต๊ะเข้าไปใกล้กับตำหนักด้านในอีกนิด

เผชิญกับจักรพรรดิจาวเหรินที่หน้านิ่วคิ้วขมวด เขายิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงตัวสวยก่อนจะอธิบายว่า “เสด็จพ่อไม่อยากอาหาร เช่นนั้นท่านก็ดูพวกเรากินอยู่ข้างๆแล้วกัน ไม่แน่ดูแล้วอาจจะอยากกินขึ้นมาก็ได้”

“มาๆๆ พี่สามพี่สะใภ้สาม น้องห้าน้องหก พวกเจ้ารีบมานั่ง”

เยี่ยนอ๋องกวักมือเรียก นั่งลงหน้าโต๊ะก่อนเป็นคนแรก

ไม่ช้า เหล่าขันทีก็ยกอาหารเลิศรสเข้ามาวางทีละจาน พระที่นั่งบำรุงฤทัยอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเย้ายวนใจทันที

เตียงมังกรของจักรพรรดิจาวเหรินอยู่ห่างจากโต๊ะกินข้าวเล็กน้อย มีเพียงม่านลูกปัดกั้นเอาไว้ สามารถมองเห็นสถานการณ์อีกฝั่งได้อย่างชัดเจน

เยี่ยนอ๋องกวาดตามองโต๊ะแวบหนึ่ง สั่งการเสียงสูงว่า “ให้ห้องเครื่องรีบเพิ่มอาหารมาอีกสามอย่าง ขาหมูน้ำแดง เป็ดตุ๋นซีอิ๊ว ยังมีเนื้อกระต่ายผัดพริกแห้ง”

เพื่อคำนึงถึงสุขภาพของจักรพรรดิ หลายวันมานี้ทางห้องเครื่องล้วนทำอาหารรสชาติจืดๆ กระตุ้นด้วยอาหารเหล่านี้จะพอที่ไหนกัน

แค่จักรพรรดิจาวเหรินได้ยินชื่ออาหารเหล่านี้ ก็รู้สึกท้องร้องจ๊อกๆขึ้นมาแล้ว เขาก็ไม่ได้กินดีๆสักมื้อเลย

อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงสบตากัน ไม่ช้าก็เข้าใจถึงความคิดพิเรนทร์ของเยี่ยนอ๋องแล้ว

นางหัวเราะอยู่ในใจ วันนี้อาหารทุกจานบนโต๊ะอย่างคิดว่าจะเหลือ

“ทุกคนนั่งลงเถอะ กินๆๆ”

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ