ที่เพิ่มน้ำผึ้งย่อมเป็นเพราะต้องการกลบกลิ่นของยาสมุนไพร ยาเม็ดนั้นถูกเขาบดเป็นผงละลายในน้ำแล้ว
โชคดีที่เขาแอบชิมก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ความจริงเปิดเผย
จักรพรรดิจาวเหรินพ่นลมหายใจหนักๆออกมาทางจมูก “ฮึ ที่แท้เจ้าก็ยังรู้จักสำนึกผิด”
เยี่ยนอ๋องสะกดกลั้นความใจร้อนที่อยากจะตอกกลับเขา เอ่ยเสียงต่ำว่า “เสด็จพ่อ ท่านให้อภัยข้าเถอะ”
จักรพรรดิจาวเหรินที่เดิมที่ก็หิวอยู่แล้ว เมื่อครู่เพิ่งจะบ่นเป็นเวลานาน ปากคอรู้สึกแห้งอยู่บ้าง อยากจะใช้น้ำผึ้งละลายน้ำมารองท้องสักหน่อย จะหาเรื่องให้ตัวเองทำไม
“เอาเถอะ ข้าก็คร้านจะถือสาเด็กน้อยอย่างเจ้า เห็นแก่คำขอโทษที่จริงใจของเจ้า ครั้งนี้จะให้อภัยเจ้า”
พูดจบ เขาก็แสร้งทำเป็นรับน้ำผึ้งละลายน้ำไปอย่างลำบากใจ ดื่มรวดเดียวจนหมด
ดื่มเสร็จยังเผลอเดาะปาก เลียริมฝีปาก ทำไมจึงรู้สึกว่าน้ำผึ้งละลายน้ำถ้วยนี้จึงได้อร่อยยิ่งนัก
ราวกับมีรสชาติแตกต่างไปจากเมื่อก่อน หรือว่าเขาหิวจนต่อมรับรสเปลี่ยนไปแล้ว
ขณะที่จักรพรรดิจาวเหรินกำลังครุ่นคิด ก็เห็นริมฝีปากของเยี่ยนอ๋องโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มกว้าง แทบจะฉีกไปถึงใบหูแล้ว
“เสด็จพ่อ ท่านช่างเป็นเสด็จพ่อที่มีจิตใจกว้างขวางที่สุดในใต้หล้าจริงๆ ตอนนี้ท่านอยากจะกินข้าวหรือไม่ จะให้พวกเรากินข้าวเป็นเพื่อนท่านไหม”
จักรพรรดิจาวเหรินปฏิเสธ “ไม่ ข้าไม่กิน”
เขาจะดูซิว่ารุ่ยอ๋องจะเข้าวังมาเยี่ยมเขาเมื่อไหร่
ครั้งนี้เยี่ยนอ๋องไม่ได้เกลี้ยกล่อมต่อ แต่เขยิบเข้าไปออดอ้อน “เช่นนั้นก็เอาเถอะ ในเมื่อเสด็จพ่อบอกไม่กิน อาหารค่ำมื้อนี้ประทานให้ลูกได้หรือไม่”
“ข้ากับพวกน้องสี่ยุ่งกันมาทั้งวัน ตอนนี้รู้สึกหิวจนท้องกิ่วแล้ว ในเมื่อท่านไม่กิน กับข้าวเหล่านี้ทิ้งไปก็สิ้นเปลือง ประทานให้พวกขันทีไม่สู้ประทานให้พวกเรา”
มุมปากของจักรพรรดิจาวเหรินกระตุกทีหนึ่ง ที่จริงเขาอยากจะตะโกนให้เยี่ยนอ๋องไสหัวออกไปซะ ใครบอกว่าเขาไม่กินอาหาร
ถ้าไม่กินข้าวสามวันจริงๆ เขายังจะสามารถยืนพูดคุยต่อหน้าพวกเขาได้อีกหรือ
หลายวันมานี้ห้องเครื่องทำอาหารเต็มโต๊ะทุกมื้อ เพื่อขอร้องให้เขากินข้าวจึงไม่กล้ายกเลิกอาหารง่ายๆ ล้วนเป็นอาหารที่วางไว้จนเย็นแล้วนำไปอุ่นและส่งมาให้ใหม่
เขาก็อาศัยช่วงที่ฝูกงกงไม่อยู่ ข้างกายไร้ขันทีคนอื่นอยู่ด้วย กินกับข้าวทุกจานจานละหนึ่งคำ
คีบกับข้าวแค่ครั้งเดียว จานกับข้าวดูแล้วก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร
แต่ต่อหน้าลูกๆทั้งหลาย เขาก็ไม่มีทางหน้าด้านแม้แต่ข้าวหนึ่งมื้อก็ไม่ให้กิน ได้แต่พยักหน้าด้วยสีหน้าหมองคล้ำ
“เช่นนั้นข้าก็มอบให้พวกเจ้าแล้วกัน”
เยี่ยนอ๋องดีใจจนดีดตัวกระโดดขึ้นมาจากพื้นทันที รีบสั่งการให้ขันทีที่อยู่ข้างนอกส่งอาหารมา ยังให้พวกเขายกโต๊ะเข้าไปใกล้กับตำหนักด้านในอีกนิด
เผชิญกับจักรพรรดิจาวเหรินที่หน้านิ่วคิ้วขมวด เขายิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงตัวสวยก่อนจะอธิบายว่า “เสด็จพ่อไม่อยากอาหาร เช่นนั้นท่านก็ดูพวกเรากินอยู่ข้างๆแล้วกัน ไม่แน่ดูแล้วอาจจะอยากกินขึ้นมาก็ได้”
“มาๆๆ พี่สามพี่สะใภ้สาม น้องห้าน้องหก พวกเจ้ารีบมานั่ง”
เยี่ยนอ๋องกวักมือเรียก นั่งลงหน้าโต๊ะก่อนเป็นคนแรก
ไม่ช้า เหล่าขันทีก็ยกอาหารเลิศรสเข้ามาวางทีละจาน พระที่นั่งบำรุงฤทัยอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเย้ายวนใจทันที
เตียงมังกรของจักรพรรดิจาวเหรินอยู่ห่างจากโต๊ะกินข้าวเล็กน้อย มีเพียงม่านลูกปัดกั้นเอาไว้ สามารถมองเห็นสถานการณ์อีกฝั่งได้อย่างชัดเจน
เยี่ยนอ๋องกวาดตามองโต๊ะแวบหนึ่ง สั่งการเสียงสูงว่า “ให้ห้องเครื่องรีบเพิ่มอาหารมาอีกสามอย่าง ขาหมูน้ำแดง เป็ดตุ๋นซีอิ๊ว ยังมีเนื้อกระต่ายผัดพริกแห้ง”
เพื่อคำนึงถึงสุขภาพของจักรพรรดิ หลายวันมานี้ทางห้องเครื่องล้วนทำอาหารรสชาติจืดๆ กระตุ้นด้วยอาหารเหล่านี้จะพอที่ไหนกัน
แค่จักรพรรดิจาวเหรินได้ยินชื่ออาหารเหล่านี้ ก็รู้สึกท้องร้องจ๊อกๆขึ้นมาแล้ว เขาก็ไม่ได้กินดีๆสักมื้อเลย
อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงสบตากัน ไม่ช้าก็เข้าใจถึงความคิดพิเรนทร์ของเยี่ยนอ๋องแล้ว
นางหัวเราะอยู่ในใจ วันนี้อาหารทุกจานบนโต๊ะอย่างคิดว่าจะเหลือ
“ทุกคนนั่งลงเถอะ กินๆๆ”
รอให้เจ้าพวกนี้ไปกันหมดแล้ว เขาค่อยแอบกินอาหารที่เหลือประทังหิวก็ได้
“เอ๋ พี่สามพี่สะใภ้สาม พวกท่านได้ยินเสียงอะไรประหลาดๆหรือไม่”
อวิ๋นหลิงกลั้นยิ้มก่อนจะพูดว่า “เสียงประหลาดอะไรกัน เจ้าหูฝาดกระมัง รีบกินเถอะ อาหารมากมายเช่นนี้อุดปากเจ้าไม่อยู่หรือ”
“แหะๆ พูดถูก ข้าต้องตั้งใจกินข้าว รีบกินรีบออกจากวัง เหยาเหยายังรอข้ากลับบ้านอยู่เลย”
พูดจบ เยี่ยนอ๋องก็ก้มหน้าก้มตากินข้าว ส่งเสียงพุ้ยข้าวเข้าปากไม่หยุด ไม่สนใจกฎระเบียบในวังเลยแม้แต่น้อย
เขาใช้หางตาเหลือบมองไปที่จักรพรรดิจาวเหริน แอบยิ้มเย็นอยู่ในใจ
ฮึ หลังจากเลยเวลากินข้าวแล้วทางห้องเครื่องไม่มีทางเปิดเตาทำอาหารให้ง่ายๆ คิดว่าเสด็จพ่อที่รักของเขาก็คงไม่หน้าด้านให้ขันทีเปิดเตาเล็ก
ชอบอดอาหารมิใช่หรือ เช่นนั้นก็หิวต่อไปเถอะ
เยี่ยนอ๋องยิ่งพยายามยัดอาหารเข้าไปในปากอย่างสุดกำลัง แม้จะอิ่มจนจะอาเจียนแล้วก็ยังไม่ยอมหยุด
เวลาผ่านไปช้าๆ จักรพรรดิจาวเหรินรู้สึกว่าทรมานมาก รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างเลือนราง
ปกติเวลานี้ เขาไม่เคยรู้สึกหิวเช่นนี้มาก่อน แต่วันนี้เกิดอะไรขึ้น
เมื่อคิดว่าตัวเองกินอาหารปกติ มีเพียงเมื่อครู่ที่ดื่มน้ำผึ้งละลายน้ำของเยี่ยนอ๋องไป......
“พี่สามพี่สะใภ้สาม ข้ากินอิ่มแล้ว” เยี่ยนอ๋องสะอึกทีหนึ่ง หันไปทางเตียงมังกรและพูดว่า “เสด็จพ่อ ท่านค่อยๆบำเพ็ญเพียรด้วยการอดอาหารไปเถอะ ลูกจะกลับจวนไปอยู่เป็นเพื่อนภรรยาแล้ว ขอบพระทัยที่ประทานอาหาร......”
พูดจบ เขาก็อุ้มท้องที่ใหญ่ราวกับตั้งครรภ์สามเดือน ใช้มือค้ำกำแพงเดินออกไปข้างนอก
จักรพรรดิจาวเหรินอดไม่ได้ที่จะหันมามองทันที กำลังคิดจะเรียกเยี่ยนอ๋อง ก็ต้องตกตะลึงกับสภาพบนโต๊ะที่น่าอนาถ
ข้าวล่ะ ทำไมเหลือแต่จานเปล่า
ไม่เหลือให้เขาสักนิดเลยหรือ เขาเลี้ยงหมูหรืออย่างไร

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...