เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1082

เวลานี้ จักรพรรดิจาวเหรินเจ็บปวดมาก เขาถูกทรมานทั้งทางจิตใจและร่างกายอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ความหิวที่น่ากลัวในท้องยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้รู้สึกเกิดภาพหลอนว่าถ้าขืนยังไม่ได้กินอะไรอีกเขาต้องตายแน่

ชีวิตนี้เขาไม่เคยหิวขนาดนี้มาก่อน แทบจะทนไม่ไหวแล้ว

สูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง จักรพรรดิจาวเหรินโบกมือ กุมกระเพาะที่ปวดมากและพูดว่า “ช่างเถอะช่างเถอะ ที่ข้านั่งเศร้าใจอยู่ตรงนี้ก็มีแต่จะทำให้พวกเจ้ารู้สึกขำ ไปบอกเจ้าใหญ่ว่าข้ายินดีจะถอยให้หนึ่งก้าว หลังจากนี้จะไม่ยุ่งเรื่องหลังบ้านของเขาอีกต่อไปแล้ว......”

“ส่งคนไปส่งข่าวที่วัดหานซานคืนนี้เลย อย่าให้เขาตัดสินใจด้วยความใจร้อนชั่วขณะทำเรื่องโง่ๆอย่างการออกบวช พวกเจ้าสองคนก็กลับไปเถอะ ข้าจะพักผ่อนแล้ว”

เดิมทีเขายังอยากจะแข็งกร้าวอีกสองวัน แต่ความรู้สึกหิวที่น่าตายนี้ทรมานมากจริงๆ ทำให้เขาต้องปล่อยวางการต่อต้าน อาศัยโอกาสนี้คลี่คลายสถานการณ์

อวิ๋นหลิงเห็นเขาหิวจนดวงตามีประกายเหนื่อยล้าผุดขึ้นมาแล้ว แสร้งยิ้มและเอ่ยว่า “ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ท่านได้รับปากตระกูลเว่ยเอาไว้ ว่าจะประทานเว่ยยิงให้เป็นพระชายารองของรุ่ยอ๋องมิใช่หรือ ไม่แน่ว่าตอนนี้ตระกูลเว่ยกำลังตั้งตารอพระราชโองการของท่านอยู่ พูดจากลับกลอกเช่นนี้คงไม่เหมาะสม ท่านต้องอธิบายให้ชัดเจนจึงจะถูก”

“อย่างเช่นการมีราชโองการประทานงานแต่งงานให้กับเฟิงหยางและเว่ยยิง มีราชวงศ์เป็นแม่สื่อ การแต่งงานนี้ถือว่าสมศักดิ์ศรีแล้ว”

จักรพรรดิจาวเหรินที่เดิมทีก็โมโหที่นางกินขนมจนหมดจาน พอได้ยินชื่อเฟิงหยางก็ยิ่งรู้สึกโกรธ

“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าคิดอะไรอยู่ในใจ ที่ข้ายอมถอยก็ถือว่าถึงขีดสุดแล้ว อย่าได้คืบจะเอาศอก”

ไม่ยินดีฟังคำสั่งของเขา แต่งงานกับคุณหนูจากตระกูลขุนนางที่ให้ความช่วยเหลือตระกูลเฟิงได้ก็แล้วไปเถอะ ยังคิดจะให้เขาประทานงานแต่งงานอีก

ผลประโยชน์ล้วนยกให้พวกเขาหมด ใต้หล้าไหนเลยจะมีเรื่องที่ดีเช่นนี้

มองดูท่าทีขุ่นเคืองของจักรพรรดิจาวเหริน อวิ๋นหลิงไม่ได้รู้สึกเกินคาดสักนิด เพราะสองวันนี้ตาแก่อ่อนแอมีชีวิตที่อัดอั้นตันใจมาก ยอมถอยให้ถึงเพียงนี้ก็ถึงขีดจำกัดแล้ว

“เช่นนั้นก็เอาเถอะ เสด็จพ่อยังจำได้หรือไม่ ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าช่วยเกลี้ยกล่อมให้พระสนมหลี่กลับใจ ท่านเคยตกลงกับข้าว่าจะรับปากข้าหนึ่งเรื่องโดยไร้เงื่อนไข”

กล้ามเนื้อบนใบหน้าของจักรพรรดิจาวเหรินกระตุก ถ้าอวิ๋นหลิงไม่เอ่ยขึ้นเขาก็เกือบจะลืมไปแล้ว

พอได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นมาตอนนี้ ในใจก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา “เจ้าเอ่ยถึงเรื่องนี้ทำไม คงไม่ได้จะให้ข้าประทานงานแต่งงานให้พวกเขาสองคนใช่ไหม”

อวิ๋นหลิงยิ้มตาหยีพลางพูดว่า “เห็นทีท่านยังไม่ได้หิวจนเลอะเลือนนี่นา”

วิกฤติของเฟิงหยางกับเว่ยยิงถูกคลี่คลายอย่างราบรื่น แต่ตอนสุดท้ายของเรื่องนี้ นางยังอยากจะทำอะไรบางอย่างเพื่อสองคนนี้

จักรพรรดิจาวเหรินรู้สึกโมโหมาก “ข้าไม่อยากประทานงานแต่งงานให้พวกเขา ทำไมเจ้าต้องบีบให้ข้าทำเช่นนี้ เจ้าใช้โอกาสเช่นนี้ไปง่ายๆ หรือว่าตั้งใจจะทำให้ข้ารู้สึกโกรธกันแน่”

อวิ๋นหลิงอธิบายอย่างสงบ “ท่านเข้าใจผิดแล้ว วันเกิดของเฟิงหยางก่อนหน้านี้ ข้าไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรให้ ดังนั้นจึงใช้โอกาสนี้ชดเชยเท่านั้นเอง”

จักรพรรดิจาวเหรินยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ท้องกลับส่งเสียงคัดค้านเสียก่อน

เสียงท้องร้องดังขึ้นในพระที่นั่งบำรุงฤทัย เสียงดังเป็นพิเศษ

“……”

อวิ๋นหลิงกลั้นยิ้ม เอ่ยเสียงสูงว่า “โถ เสด็จพ่อท้องของท่านร้องแล้ว จะให้ห้องเครื่องเปิดเตาทำอาหารหรือไม่ คนคือเหล็กข้าคือเหล็กกล้า ไม่กินมื้อเดียวก็หิวจนว้าวุ่น”

จักรพรรดิจาวเหรินสีหน้าดูไม่จืดเลยสักนิด กัดฟันพูดว่า “ข้า ไม่ หิว”

เขาหิวมาก แต่ไม่อยากก้มหน้ายอมรับต่อหน้าอวิ๋นหลิง โดยเฉพาะนางหนูคนนี้ยังจงใจส่งสายตาเยาะเย้ยเขา

ศักดิ์ศรีที่ค้ำคอสั่งให้จักรพรรดิไม่อาจก้มหน้ายอมรับได้ เอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “พวกเจ้าสองคนรีบออกไปเถอะ ข้าจะนอนแล้ว อย่าอยู่ขวางหูขวางตาที่นี่อีก”

“ก็ได้ เช่นนั้นพวกเราก็ไม่อยู่เป็นเพื่อนแล้ว ขอให้ท่านนอนหลับฝันดี”

บรรลุจุดประสงค์แล้ว อวิ๋นหลิงก็คร้านจะอยู่ต่อ ฮัมเพลงเบาๆจากไปพร้อมกับเซียวปี้เฉิง

คืนเดียวกันนั้น จักรพรรดิจาวเหรินหิวจนนอนไม่หลับ

เซียวปี้เฉิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

อวิ๋นหลิงกำชับหมอหลวงและขันที “ให้ห้องเครื่องระวังอาหารการกินในช่วงนี้ให้ทำรสอ่อนๆ ทางที่ดีที่สุดคือต้มโจ๊ก หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์มันเลี่ยนดิบเย็นและรสจัดจ้าน”

จากนั้นนางก็มองไปทางเซียวปี้เฉิง เอ่ยอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นว่า “ยาเม็ดของข้ามีฤทธิ์เพียงอย่างเดียวคือเจริญอาหาร พอกินเข้าไปแล้วจะรู้สึกอยากอาหารมาก ถ้าไม่มีเนื้อสัตว์มันเลี่ยนสักหน่อยคงยากจะทำให้อิ่มได้ หลายวันต่อจากนี้เสด็จพ่อของท่านคงต้องทรมานแล้ว”

เซียวปี้เฉิงได้ยินเช่นนั้น ก็มองไปทางฝูกงกงด้วยสีหน้าระอาใจ “ฝูกงกง รบกวนท่านดูแลอาหารทุกมื้อของเสด็จพ่อให้ดี อย่าให้เขาหักห้ามความอยากอาหารไม่ได้ แอบไปกินอาหารที่มีเนื้อสัตว์มันเลี่ยนพวกนั้นอีก”

ฝูกงกงมีสีหน้ายากจะอธิบาย

ฝ่าบาทถึงตายก็จะรักษาหน้าเอาไว้แม้ว่าต้องทุกทรมานก็ตาม เรื่องนี้จะโทษใครได้

ตอนนี้ จักรพรรดิจาวเหรินป่วยจริงๆจนไม่อาจเข้าประชุมราชสำนักได้ ได้แต่ร้อง”โอดโอย”อยู่บนเตียงมังกร

หลังจากที่กินข้าวเที่ยงแล้ว ฝูกงกงจับตาดูจักรพรรดิจาวเหรินดื่มยาและนอนหลับไป ในที่สุดก็โล่งใจ

กำชับให้เหล่าขันทีเฝ้าอีกฝ่ายเอาไว้ให้ดี จากนั้นเขาก็ลำบากตรากตรำออกจากวังไปส่งราชโองการให้กับเฟิงหยางและตระกูลเว่ย

ในจวนราชบัณฑิต เฟิงหยางกำลังรอดูทิศทางของเรื่องราวอย่างอดทน

ทางด้านจวนรุ่ยอ๋องเขาก็คอยเฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวอยู่ เดิมทีคิดว่าสองพ่อลูกคู่นี้จะขัดแย้งกันไปอีกหลายวัน กลับคาดไม่ถึงว่าเรื่องน่ายินดีจะมาถึงเร็วขนาดนี้

เฟิงหยางเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจระคนไม่อยากจะเชื่อ “ฝ่าบาททรงยินดีประทานงานแต่งงานให้ข้ากับเว่ยยิงอย่างนั้นหรือ”

เดิมทีเขาคิดว่าจักรพรรดิจาวเหรินยอมถอยให้ก็ซาบซึ้งใจมากแล้ว ไหนเลยจะกล้าคิดว่าอีกฝ่ายจะประทานงานแต่งงานให้

ฝูกงกงยิ้มอย่างเมตตาก่อนจะเอ่ยว่า “เดิมทีฝ่าบาททรงไม่ยอม แต่พระชายารัชทายาทได้ทูลขอรางวัลตอบแทน บอกว่าจะใช้เป็นของขวัญวันเกิดชดเชยแก่ท่านแม่ทัพ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ