อวิ๋นหลิงได้ยินเช่นนี้ ก็ระงับความตื่นเต้นในใจ ลองเลียบเคียงถาม “นี่หมายความว่าพวกเรายังมีโอกาสกลับไปโลกนั้นด้วยตนเอง ไปแบบจิตวิญญาณหรือร่างกาย?
พวกนางเป็นวิญญาณที่ทะลุมิติมา ร่างกายในโลกนั้นก็ไม่มีอยู่แล้ว คงไม่ต้องหาทางไป ‘ยืมซากคืนชีพ’ กระมัง
เต้าหวู๋ซินแย้มยิ้มจนดวงตาแคบเรียวแทบมองไม่เห็น “คิดจะให้จิตวิญญาณทะลุมิติไม่ใช่ง่ายๆ เลย เช่นนั้นหมายความว่าเจ้าได้ก้าวข้ามพันธนาการของโลกไปแล้ว รวมถึงเข้าใจความลึกลับของกาลเวลา และก้าวให้ทันเวลา”
“ในยุคที่อาจารย์ถือกำเนิด ก็มีเฉพาะผู้ที่มีความสามารถพิเศษและฝึกบำเพ็ญอย่างหนักเท่านั้นที่จะมีโอกาสหนึ่งในหมื่นที่จะบรรลุถึงจุดนี้”
ยิ่งไปกว่านั้น เวลาและกาลเวลาเป็นสองแนวคิดที่แตกต่างกัน ผู้มีอำนาจบางคนในสมัยโบราณอาจทะลุผ่านได้หลายหมื่นลี้ในชั่วพริบตา แต่ไม่อาจควบคุมเวลาได้ตามใจชอบ
ต่อให้ผู้ฝึกบำเพ็ญจะมีอายุยืนยาวมากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถหนีจากโลกปัจจุบันได้
มีเพียงความสามารถในการควบคุมกาลเวลาและพื้นที่ในเวลาเดียวกันเท่านั้น จึงจะเดินทางผ่านกาลเวลาที่แตกต่างกันได้ตามต้องการ
เมื่อนานมาแล้ว มีคนเพียงไม่กี่คนในโลกที่เชี่ยวชาญพลังประเภทนี้อย่างแท้จริง
ส่วนเต้าหวู๋ซินก็เป็นหนึ่งในนั้น
“เมื่อเทียบกันแล้ว การทะลุผ่านกาลเวลาด้วยร่างกายจะง่ายกว่ามาก ตัวอย่างเช่น หากยืมแรงภายนอกวาดค่ายกล ก็จะต้องใช้กาลเวลาหรือพลังเวลาเพียงอย่างเดียวในการเปิดอุโมงค์แห่งกาลเวลา แล้วให้พวกเจ้าไปสู่โลกนั้น”
“แต่แทนที่จะทำเรื่องนี้เอง อาจารย์ยินดีจะสอนวิธีการให้พวกเจ้า”
เต้าหวู๋ซินว่าพลางหันสายตาไปด้านข้างๆ เล็กน้อย “พรสวรรค์ของเด็กอย่างเซียงถวนเอ๋อร์คือการฟื้นฟู เนื่องจากพลังที่สามารถส่งผลต่อการเกิดแก่เจ็บตายนั้นมักจะสัมพันธ์กับกับความลึกลับของเวลา ยามนี้นางยังเด็กเกินไป ทำอะไรไม่ได้”
“แต่ยังมีคนคนหนึ่งในหมู่พวกเจ้าที่โชคดี พอจะมีพรสวรรค์ในการสอดแนมความลึกลับของกาลเวลา อาจารย์จะสอนทุกอย่างที่เกี่ยวกับค่ายกลต่างๆ ให้เขา”
เซียวปี้เฉิงฟังแล้วรู้สึกเวียนหัว ถึงอย่างไรเสียก็มีข้อมูลซ่อนอยู่ในคำเหล่านี้มากเกินกว่าคนทั่วไปจะเข้าใจ
จนกระทั่งดวงตาของเต้าหวู๋ซินจ้องมองเขา เขาจึงได้สติกลับมา สะดุ้งทันที
“ท่าน ท่านว่า...ข้า?”
เต้าหวู๋ซินมองเขาพร้อมกับยิ้มตาหยี “เจ้าคลำหาพลังของตัวเองได้อย่างไร ถึงขั้นย้ายตัวเองได้หรือยัง นี่เป็นหนึ่งในทักษะพื้นฐานของบรรดาอัจฉริยะกาลเวลา เมื่อเชี่ยวชาญความสามารถนี้แล้ว ผู้เริ่มต้นก็สามารถย้ายตัวเองได้ร้อยเมตร”
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของอีกฝ่ายดูสดชื่นดั่งสายลมยามวสันต์ แต่เซียวปี้เฉิงกลับรู้สึกตกประหม่าอย่างอธิบายไม่ถูกราวกับกลับไปสมัยเยาว์วัยที่ถูกอาจารย์ตรวจการบ้าน
ทันใดนั้นเขาก็หน้าแดงก่ำ พูดตะกุกตะกัก “เอ่อ...นี่ นั่น...แค่กๆ ทำให้ท่านขบขันแล้ว ข้ายังไม่มีความสามารถพิเศษถึงขั้นนี้ แค่เคลื่อนย้ายสิ่งของเล็กๆ รอบตัว สิ่งของต้องอยู่ภายในขอบเขตที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ระยะเคลื่อนที่ไม่เกินห้าสิบเมตร”
สำหรับการย้ายตัวเอง นับประสาอะไรกับหนึ่งร้อยเมตร สิบเมตรยังไม่ได้เลย ถ้าเขาวิ่งเร็วกว่าหนึ่งเมตร เขาทำได้
อีกอย่างเขาไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถนี้จริงๆ กล่าวคือเขามักจะใช้มันยกน้ำชาเทน้ำให้ภรรยาและลูกๆ และวิ่งไปทำธุระ ซ้ำยังต้องระแวดระวังไม่ให้คนอื่นเห็นเขา
เดิมทีเซียวปี้เฉิงนึกละอายใจตนเองจนแทบแทรกแผ่นดินหนีจริงๆ แต่ไม่คาดคิดว่าเต้าหวู๋ซินจะพยักหน้าเห็นด้วย สมแล้วที่เป็นลูกเขยคนโปรดคนหนึ่งของเขา
“ถูกต้อง ถ้าสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุได้ก็สามารถย้ายตัวเองได้ แต่สองอย่างนี้แตกต่างกัน เจ้าต้องคลำหาด้วยตัวเองทั้งหมดโดยไม่มีใครชี้แนะในสภาพแวดล้อมที่มีพลังแห่งจิตวิญญาณบางๆ นี้ สามารถทำถึงขั้นนี้ได้ ถือว่าอยู่เหนือความคาดหมายของข้าแล้ว”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......