เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1090

การฝึกบำเพ็ญไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่เซียวปี้เฉิงขาดมากที่สุดคือจิตใจแน่วแน่และความเพียร

ในยุคที่ลัทธิเต๋ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นนี้ เขาได้พบกับผู้อาวุโสอย่างเต้าหวู๋ซินได้ถือว่ามีบุญวาสนาใหญ่หลวง

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายตัดสินใจเรื่องที่จะเปิดอุโมงค์แห่งกาลเวลา เต้าหวู๋ซินก็รั้งอยู่ในพระราชวังชั่วคราว ช่วงหกเดือนนี้ เขาจะช่วยเซียวปี้เฉิงควบคุมพลังอย่างถูกต้องโดยเร็วที่สุด และให้คำชี้แนะบางอย่างกับเด็กคนอื่นๆ ด้วย

อวิ๋นหลิงรีบรายงานทันที เรียกบรรดาพี่น้องและญาติคนอื่นๆ ไปที่ตำหนักบูรพา จัดการประชุมครอบครัว

หลงเย่เผยความประหลาดใจที่หาได้ยากบนใบหน้า “อะไรนะ พวกเรายังมีวิธีไปยังโลกเดิมได้อีกหรือ”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า พูดด้วยความตื่นเต้นที่หาได้ยากนัก “ถูกต้อง ให้พวกท่านนำหินอุกกาบาตมาที่นี่เพื่อสร้างค่ายกลนี้!”

ดวงดาวสีแดงฉานที่อยู่ในมือของพี่น้องทั้งสี่นั้น เดิมทีเป็นสื่อกลางที่เต้าหวู๋ซินใช้พลังดวงดาวช่วยให้วิญญาณของพวกนางเดินทางผ่านกาลเวลา

ในเศษหินอุกกาบาตเหล่านี้ก็มีพลังลึกลับแห่งเวลา เมื่อรวมกับค่ายกลเคลื่อนย้ายเป็น ‘ตาค่ายกล’ ที่จำเป็นในการกลับไปสู่ศตวรรษที่ 23

“มีเรื่องดีแบบนี้ด้วยหรือ” หลิวฉิงพูดอย่างคาดหวังด้วยสายตาเจิดจ้าที่หาได้ยาก “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรีบเปิดอุโมงค์แห่งกาลเวลาอย่างรวดเร็ว ถึงเวลานั้นข้าก็จะได้เอาอาหารจากที่นั่นมาเลี้ยงหมูทั้งหลายในสวนสัตว์ที่เลี้ยงยากจริงๆ”

ตอนนี้นางไม่ได้ออกกำลังกายตอนเช้า ต้องเอาเวลามาผ่าฟืนและหาอาหารเป็นกองทุกวัน แม่ทัพหญิงรุ่นหนึ่งผู้งามสง่าต้องตกอยู่ในสภาพเกษตรกรเลี้ยงสุกร ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าโดยแท้

ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป รูปร่างของนางจะกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง กังวลว่านางจะบดขยี้กู้ฉางเซิน

“ว้าว ว้าว ว้าว! ข้าอยากกลับไป ข้าอยากกลับไป!”

เสวียนจีมีปฏิกิริยามากที่สุด นางกลิ้งตัวบนตั่งด้วยความตื่นเต้นขณะถือถุงช็อกโกแลตที่อวิ๋นหลิงได้รับจากเต้าหวู๋ซิน

“วู้ฮู้ ข้าอยากกินกุ้งมังกรออสเตรเลีย ข้าอยากดูทีวี ข้าอยากเล่นเกม!”

หากสามารถเดินทางทะลุมิติระหว่างสองโลกได้ตามต้องการ เช่นนั้นชีวิตข้าคงจะสุดแสนมีความสุข!

นอกจากนี้ การวิจัยเชิงทดลองที่ถูกบังคับให้ยกเลิกไปบางส่วนนั้น ขณะนี้มีวี่แววว่าจะได้ดำเนินการต่อหลังจากกลับไป

กงจื่อโยวยัดช็อกโกแลตบอลสามลูกเข้าปากติดๆ กัน สองตาเปล่งประกายระยิบระยับ

“นี่คือขนมของคนรุ่นหลังหรือ รสชาติไม่ธรรมดาจริงๆ ข้ากงจื่อโยวเคยไปท่องเที่ยวทุกที่ทั้งเหนือใต้ แต่ก็ไม่เคยเห็นลักษณะของคนรุ่นหลัง เมื่อถึงเวลาต้องพาข้าไปด้วย!”

กู้ฉางเซินมีสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน แต่ค่อนข้างสงบและสุขุมมากกว่า

เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “น้องสาม ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเปิดอุโมงค์แห่งกาลเวลานี้ หากร่างกายเดินทางผ่านอุโมงค์นั้นจะมีอันตรายหรือไม่”

การเดินทางผ่านกาลเวลา ฟังดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ

กู้ฉางเซินไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น แต่เป็นกังวลแบบคนคร่ำครึ กลัวว่าการกระทำแบบนี้จะเป็นอันตราย

อวิ๋นหลิงอธิบาย “ท่านอาจารย์บอกว่าค่ายกลนี้สามารถปกป้องพวกเราไม่ให้หลงทางในความวุ่นวายของกาลเวลา และเขาจะเลือกพิกัดให้พวกเราเคลื่อนย้ายพร้อมกับลงจอดเรียบร้อยแล้ว”

“แต่หากต้องการเปิดใช้ค่ายกลอย่างราบรื่น ต้องรอรวบรวมวิญญาณเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งปี และสามารถเข้าไปได้เฉพาะในช่วงเดือนใหม่และพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น”

กล่าวคือจะเปิดค่ายกลใช้งานได้เฉพาะในวันที่หนึ่งและวันที่สิบห้าของเดือนจันทรคติ ตามคำบอกเล่าของเต้าหวู๋ซิน เดือนใหม่และพระจันทร์เต็มดวงเป็นช่วงเวลาที่แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์แข็งแกร่งที่สุด จะแก้ปัญหาที่ไม่สามารถเปิดใช้ค่ายกลได้ในตอนนี้เนื่องจากขาดพลังแห่งจิตวิญญาณ

กู้ฉางเซินพยักหน้าเล็กน้อย “ก็หมายความว่า ไปครั้งหนึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนกว่าจะกลับมาได้อีก ดังนั้นเลือกสถานที่ที่จะวางค่ายกลได้แล้วหรือยัง”

เสวียนจีฟังถึงตรงนี้ ก็กระโดดขึ้นจากตั่งเหมือนสปริง แล้วพูดเร่งเร้าไม่หยุด “เร็วเข้าๆ รีบจัดค่ายกลไวๆ หน่อย ข้าแทบรอไม่ไหวแล้ว!”

เมื่อคิดว่าต้องรอถึงครึ่งปีเพื่อรวบรวมวิญญาณ ทำให้นางรู้สึกคันยุบยิบในใจ

ควรรู้ไว้ว่านางเป็นคนที่ร่ำรวยมากในศตวรรษที่ 23 นางยังไม่ทันได้ใช้เงินเหล่านั้นก็ตายซะแล้ว จะไม่เรียกว่าน่าอนาถได้อย่างไร

หลงเย่ก็ย่อยข้อมูลมหาศาลนี้แล้วพูดว่า “การไปกลับทุกๆ ครึ่งเดือนนั้นถึงจะไม่สะดวกนิดหน่อย แต่ขอเพียงกลับไปได้ก็ดีมากทีเดียว ข้ากับเศรษฐีหนุ่มมีกิจการที่นี่ เอ้อร์หลีว์และสามีก็มีเรื่องต้องจัดการด้วย คิดว่าอยากจะกลับไปทุกเมื่อที่ต้องการไม่ได้”

กู้ฉางเซินพยักหน้า ตอนนี้เขาเป็นหัวหน้าสำนักศึกษา ปกติแล้วจะอยู่ในสำนักศึกษาหรือในวัง คิดว่าจะกลับไปดูทิวทัศน์ของยุคปัจจุบันให้เห็นกับตาสักครั้งกับหลิวฉิงได้เฉพาะในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวและฤดูร้อนเท่านั้น

เขามองเสวียนจีด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น “เด็กสาวผู้นี้ไม่ต้องกังวลเหมือนพวกเรา จึงไปสนุกสนานที่นั่นได้ตามใจชอบ”

“อิๆๆ ข้าตั้งใจจะหยุดสักสองสามเดือนหลังจากไปที่นั่น ข้าจะไปกระโดดร่ม เล่นสกี และกินหม้อไฟ!”

ยิ่งเสวียนจีพูดก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น อดถูมือเหมือนแมลงวันไม่ได้ ราวกับเห็นอนาคตที่สดใสกวักมือเรียกนางอีกครั้ง

“ถึงตอนนั้นข้าจะส่งพัสดุห่อขนมจากที่นั่นมาให้พวกท่าน ไม่ต้องขอบคุณข้า!”

นางตื่นเต้นไม่หาย แต่เฟิ่งเหมียนที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องก็หลุบตาลงเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ถ้าจะเอาให้ถูกต้อง เขายังไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวของพวกอวิ๋นหลิง เขาปรากฏตัวในการประชุมครั้งนี้เพียงเพราะรู้ความลับที่มาของพวกนาง

เมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นของเสวียนจี เขาก็อยากจะกลับไปกับนางด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากพูดในฐานะอะไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ