เมื่อกงจื่อโยวได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ตามที่ท่านพ่อตากล่าว เช่นนี้ข้าก็ไม่ใช่คนธรรมดาสินะ”
เขายกมือจัดผมที่ปลิวตามสายลม ยืนเชิดหน้าอย่างมั่นใจ “แต่ข้าก็มีหน้าตาที่สามารถสะกดคนทั้งแคว้นได้จริงๆ นั่นล่ะ จะให้ธรรมดาได้อย่างไร”
คิ้วของหลิวฉิงกระตุกไม่หยุด
พูดกันตามตรง กงจื่อโยวมีผิวเนียนใส บวกกับดวงตารูปทรงจิ้งจอกที่น่าดึงดูด ดูราวกับเจ้าชายใต้แสงจันทร์ เขาเหมาะสมกับคำว่า “งามล่มเมือง” อย่างแท้จริง
แต่เสน่ห์เช่นนี้ของเขา ทำให้นางปรับตัวได้อย่างยากลำบาก
หลงเย่มองไปที่สามีของตนเองด้วยดวงตาที่อ่อนโยน นัยน์ตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
กงจื่อโยวมองไปที่เต้าหวู๋ซินอย่างคาดหวัง “ท่านว่าข้าพอจะมีโอกาสปลุกพลังที่สุดยอดได้เหมือนน้องปี้เฉิงหรือเปล่า”
เขาอิจฉาเซียวบี้เฉิงมานานแล้ว หวังว่าสักวันหนึ่งจะมีพลังจิตได้อย่างเซียวปี้เฉิง
ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก กงจื่อโยวก็ถูกพิษเย็นที่ได้รับจากมารดาแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอกว่าคนทั่วไป ความสามารถในการต่อสู้ของเขาจึงไม่ได้สูงอะไรมากนัก เขาไม่สามารถฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ถึงขั้นสูงได้เหมือนศิษย์คนอื่นๆ แต่เขาก็เชี่ยวชาญการใช้อาวุธลับ ซึ่งช่วยให้เขาพอมีความสามารถในการปกป้องตัวเองอยู่บ้าง
ทว่าในฐานะบุรุษ ทุกคนย่อมต้องการมีความแข็งแกร่งเพื่อทำให้คนรอบข้างรู้สึกปลอดภัย
หากเขามีพลังจิตได้เหมือนเซียวบี้เฉิง ยังจะต้องกังวลเรื่องศิลปะการต่อสู้อีกทำไมกัน
เต้าหวู๋ซินหัวเราะเมื่อได้ยินกงจื่อโยวถามเช่นนั้น “อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทุกสิ่งย่อมต้องรอโอกาสของมัน”
เขาตระหนักได้ว่าชายหนุ่มคนนี้มีสายเลือดพิเศษในร่างกาย ดูจากดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของเขา ก็พอจะเดาได้ว่าอาจมีบรรพบุรุษเป็นเทพจิ้งจอก
เสน่ห์เป็นลักษณะโดยธรรมชาติของเผ่าจิ้งจอก หากจ้องดวงตาของพวกเขานานเกินไป ก็จะถูกเสน่ห์ครอบงำได้
ผู้ที่มีสายเลือดจิ้งจอกนั้นมักชอบความสวยงามและเก่งกาจเรื่องการใช้คำพูด อีกทั้งยังมีรัศมีที่น่าดึงดูด สามารถลดความระแวงของคนรอบข้างได้
หลงเย่เป็นคนที่ระมัดระวังอย่างมาก มิหนำซ้ำความสามารถของนางก็คล้ายคลึงกับเขา แต่สุดท้ายก็ยังถูกกงจื่อโยวทำลายกำแพงหัวใจ
หากพูดในมุมมองหนึ่ง สามีภรรยาคู่นี้เป็นคนประเภทเดียวกันจริงๆ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กงจื่อโยวก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ พลางยกมือคารวะ “ขอขอบคุณคำอวยพรจากท่านพ่อตา!”
เซียวบี้เฉิงอดยิ้มไม่ได้ บางครั้งเขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมความหน้าหนาและนิสัยที่เป็นกันเองของกงจื่อโยว
เขาสามารถเรียกคนนั้นคนนี้ว่า “ท่านพ่อตา” ได้โดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลย
เต้าหวู๋ซินหันมองผู้คนรอบตัวพลางเผยรอยยิ้มมุมปากออกมา
ในกลุ่มบุรุษที่อยู่ตรงนี้ นอกจากเซียวบี้เฉิงแล้ว เฟิ่งเหมียนคือคนที่มีพรสวรรค์ชัดเจนที่สุด
ตระกูลเฟิ่งมีความสามารถในการรับรู้ที่แข็งแกร่งอย่างมาก การพยากรณ์และการใช้วาจาศักดิ์สิทธิ์เป็นจุดเด่นของพวกเขา เด็กคนนี้สามารถปลุกพลังของตนเองตั้งแต่อายุยังน้อย แม้ว่าเขาจะไม่เคยรับรู้หรือใช้มันมาก่อนก็ตาม
เช่น ทักษะการเข้าฝันที่เต้าหวู๋ซินสอนเฟิ่งเหมียนไปก่อนหน้านี้ ก็เป็นทักษะที่สร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษของตระกูลเฟิ่งนั่นเอง
แต่คนที่เต้าหวู๋ซินสนใจจริงๆ ก็คือกู้ฉางเซิน
เด็กหนุ่มคนนี้เป็นผู้สืบทอดราชนิกุลฮั่นที่แท้จริง เติบโตภายใต้การปกป้องของมังกรแห่งดินแดนจงหยวน เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่แข็งแกร่ง
ทว่าท่วงท่าของเขากลับสง่างามดุจดั่งฟีนิกซ์ คุณธรรมเปรียบได้กับไม้ไผ่ อาวุธที่เขาถือราวกับเป็นกระบี่แห่งสุภาพบุรุษ
มังกรเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่สนใจเพียงพลัง พวกมันกระหายการเข่นฆ่าและรักการต่อสู้ ส่วนฟีนิกซ์ชื่นชอบความสันติ นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้กู้ฉางเซินไม่ได้รับสืบทอดให้เป็นจักรพรรดิ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......