หลังจากที่พูดจบ เสวียนจีก็เล่าถึงแผนการทำธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ของนางให้เต้าหวู๋ซินฟังอย่างกระตือรือร้น
จากนั้นนางก็ดึงตัวเฟิ่งเหมียนเข้ามาแนะนำด้วยท่าทางจริงจัง "นี่คือหุ้นส่วนของข้า เขาจะมาทำความดีเพื่อช่วยเหลือผู้คนร่วมกับข้า ดังนั้นท่านพ่อหวู๋ซินต้องให้รางวัลเขาด้วยนะ!"
เฟิ่งเหมียนเบิกตาขึ้นนิดหนึ่ง เขาไม่สนใจแผนการเล็กๆ น้อยๆ ของนาง แต่กลับหันไปหาเต้าหวู๋ซินด้วยสีหน้าที่อับอาย พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด
"ท่านอาวุโส ข้าต้องขอโทษที่ร่วมมือกับนางทำเรื่องไร้สาระพวกนี้ นางเป็นคนดื้อรั้น ข้าไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ขอท่านอย่าถือสา คราวนี้ท่านอยู่ที่นี่ บางทีท่านอาจจะสามารถพูดเตือนสตินางให้เลิกคิดเรื่องบ้าๆ พวกนี้เสียที"
ยังไม่ทันที่เต้าหวู๋ซินจะตอบอะไร เสวียนจีก็เด้งตัวขึ้นด้วยความโกรธ
นางจ้องมองเฟิ่งเหมียนด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง "ท่านไม่รักษาคำพูด! ตอนแรกท่านตกลงร่วมธุรกิจกับข้าแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาฟ้องท่านพ่อของข้า"
"ข้าไปทำอะไรไร้สาระตอนไหนกัน ข้าไม่ใช่คนไร้สาระเสียหน่อย ข้ากำลังทำเพื่อผู้คนอย่างจริงๆนะ!"
พูดจบ นางก็เท้าเอวด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ก่อนจะหันไปหาเต้าหวู๋ซิน พลางพูดด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์
"ท่านพ่อหวู๋ซิน ท่านว่าข้าได้ทำเรื่องดีๆ บ้างหรือไม่"
เต้าหวู๋ซินขมวดคิ้ว ทำหน้าครุ่นคิดด้วยท่าทางเคร่งขรึม
เฟิ่งเหมียนคิดว่าท่านอาวุโสผู้นี้กำลังคิดหาวิธีพูดเตือนเสวียนจีด้วยความนุ่มนวล ทว่าเขากลับเลิกคิ้วลง พลางเผยรอยยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
"ไม่เลวเลย เจ้าทำเรื่องที่พี่สาวของเจ้ายังไม่คิดถึง น่าชื่นชมจริงๆ เอาล่ะ เจ้าไปเอาขนมในห้องของข้าได้ตามสบาย แต่จงจำไว้ว่า เมื่อเจ้าเริ่มลงมือทำอะไรแล้ว ต้องทำให้เต็มที่ ห้ามหยุดกลางทางเด็ดขาด"
เฟิ่งเหมียนถึงกับตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่าเต้าหวู๋ซินที่ดูเป็นผู้ใหญ่จะยอมเข้าข้างนางในเรื่อง "ไร้สาระ" พวกนี้ด้วย
"เย้! ท่านพูดหวู๋ซินดีที่สุดเลย!"
เสวียนจีโห่ร้องด้วยความดีใจ เมื่อเห็นว่าห้องของเต้าหวู๋ซินอยู่ตรงหน้า นางก็วิ่งพรวดพราดเข้าไปเหมือนลิง
"เจ้านกโง่ขี้ฟ้อง ข้าขอประกาศว่ารางวัลของท่านตกเป็นของข้าแล้ว!"
เฟิ่งเหมียน "..."
จบสิ้นแล้ว เขารู้สึกว่าการขอให้เต้าหวู๋ซินช่วยพูดเตือนเสวียนจีเป็นการตัดสินใจที่ผิด
เมื่อนางหนูคนนี้ได้รับการเห็นชอบจากเต้าหวู๋ซินแล้ว นางก็จะยิ่งรู้สึกว่าการกระทำของตนเองนั้นถูกต้องเข้าไปอีก
เต้าหวู๋ซินหัวเราะเบา ๆ "คนหนุ่มสาว ต้องรักษาคำพูดสิ อย่างไรเสียเจ้าก็รับปากกับนางไว้แล้ว เจ้าจะมานึกเสียใจทีหลังได้อย่างไรกัน"
สีหน้าของเฟิ่งเหมียนดูอึดอัด เขาพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ซับซ้อนว่า "ขออภัยท่านอาวุโส ข้าแค่กังวลว่านางอาจจะสร้างเรื่องใหญ่โตจนเกิดปัญหาขึ้นกับตนเอง"
เต้าหวู๋ซินพยักหน้าด้วยท่าทางที่เข้าอกเข้าใจ พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ซ่อนความหมายแฝงเอาไว้ “ใช่แล้ว นางหนูคนนี้มีนิสัยที่น่าปวดหัวจริง ๆ ข้ากับอวิ๋นหลิงไม่สามารถเฝ้าดูนางได้ทุกวัน ต่อไปคงต้องรบกวนเจ้าให้ช่วยดูแลนางแล้วล่ะ”
เฟิ่งเหมียนได้แต่รับปากไปอย่างช่วยไม่ได้ "ผู้อาวุโสก็เกรงใจเกินไป ข้าย่อมต้องดูแลเสวียนจีอยู่แล้ว"
การที่เต้าหวู๋ซินฝากฝังเสวียนจีไว้กับเขา รู้สึกไม่เหมือนตอนที่อวิ๋นหลิงฝากฝังนางกับเขาเลยสักนิด
เขารู้สึกว่าภาระหน้าที่บนบ่าดูหนักขึ้นในทันที
อีกด้านหนึ่ง เสวียนจีวิ่งพรวดเข้าไปในห้องของเต้าหวู๋ซิน ราวกับเป็นหนูที่ตกลงไปในคลังข้าว นางขนขนมและลูกอมออกมากองใหญ่
ทั้งช็อกโกแลต ลูกอมเปาะแปะ เนื้อตากแดด เยลลี่ มันฝรั่งทอด ล่าเถียว...
ทุกอย่างล้วนเป็นของโปรดของนางทั้งนั้น!
เต้าหวู๋ซินยืนอยู่หน้าประตู จ้องมองนางด้วยคิ้วที่ยกขึ้น "นางหนูคนนี้จะไม่เกรงใจกันบ้างเลยหรือ"
เพื่อเอาใจเด็ก ๆ เขาถึงกับต้องจัดห้องเล็กๆ นี้ให้เหมือนร้านขายของชำ
ชาวตงฉู่โดยทั่วไปทานอาหารรสอ่อน มักชอบอาหารรสหวาน จึงไม่ได้ทานอาหารรสเผ็ดเท่าใดนัก
ขนมในถุงมีลักษณะที่แปลกๆ มันเป็นแท่ง ๆ แถมชุ่มด้วยน้ำมันพริกแดง ซึ่งไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร
เฟิ่งเหมียนกัดไปหนึ่งคำจนหน้าแดงก่ำเพราะความเผ็ด น้ำตาแทบจะไหลออกมา
แต่เมื่อนึกได้ว่านี่เป็นอาหารที่ผู้อาวุโสให้มา มิหนำซ้ำตัวเองก็ซีกถุงออกมาแล้ว หากไม่กินก็เสียของแย่
ท้ายที่สุด เขาจึงต้องกัดฟันกินจนหมด
……
เช้าวันรุ่งขึ้น อวิ๋นหลิงมีคนไข้หน้าซีดเพิ่มขึ้นมาอีกคน
นางส่งขวดยาให้เขาพลางอุทานว่า “อะไรนะ ล่าเถียวรสไก่ระเบิดนั่นน่ะหรือ ท่านกินหมดถุงเลยเนี่ยนะ ไม่แปลกใจเลยที่มุมปากจะแดงขนาดนี้... ท่านเป็นนักรบตัวจริง”
ล่าเถียวรสนั้นแม้แต่นางยังกินได้ทีละครึ่งถุงเท่านั้น เจ้าเด็กคนนี้ช่างหัวแข็งเสียจริงๆ แต่เสียดายที่กระเพาะของเขาไม่ได้แข็งเท่าใดนัก
เฟิ่งเหมียนกุมท้องพลางฝืนยิ้มออกมา “...ไม่แปลกใจเลยที่เป็นอาหารของเซียน ข้าคงยังห่างชั้นกับท่านผู้อาวุโสอีกมาก”
อวิ๋นหลิง: “…”
ที่แท้ท่านพ่อหวู๋ซินก็เป็นคนแนะนำล่าเถียวรสนี้ด้วยตัวเองสินะ แม้แต่เซียนก็ยังชอบขนมนี่!
แต่เขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเฟิ่งเหมียนกินเผ็ดไม่ค่อยเก่งสิ แล้วเหตุใดถึงยังจงใจแนะนำขนมนั่นให้เฟิ่งเหมียนอีกกัน
อวิ๋นหลิงแอบคิดอยู่ภายในใจ นี่มันต้องเป็นแผนของท่านพ่อหวู๋ซินอย่างแน่นอน
อืม… ดูท่าภายใต้รูปลักษณ์อันใจดีและอ่อนโยนของท่านพ่อหวู๋ซิน ในใจกลับแอบแฝงไปด้วยความขี้เล่นอยู่ด้วยสินะ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...