“ปวดท้องขนาดนี้ คงยังไม่ได้กินข้าวเช้าใช่ไหม” อวิ๋นหลิงบอกให้เฟิ่งเหมียนนั่งพักก่อน “ถ้าจะกินยาตอนท้องว่างคงจะไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ข้าจะให้ทางครัวต้มโจ๊กมาให้ท่าน กินเสร็จแล้วค่อยกินยา นั่งพักอยู่ที่นี่เพื่อดูอาการก่อน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้วค่อยกลับห้อง”
บางคนที่ทานเผ็ดไม่ได้ หากบังเอิญทานเผ็ดหนักๆ ล่ะก็ อาจถึงขั้นต้องเข้าห้องฉุกเฉินเลยก็เป็นได้
“ต้องรบกวนท่านแล้ว”
เฟิ่งเหมียนตอบกลับด้วยใบหน้าซีดเผือด ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพราะครั้งนี้อาการของเขามันหนักจริงๆ
หลังจากจัดการเรื่องเฟิ่งเหมียนเรียบร้อยแล้ว อวิ๋นหลิงก็หันไปทำงานของตนเองต่อ
แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร พี่น้องตัวน้อยที่เพิ่งตื่นนอนก็วิ่งเข้ามาที่ห้อง ส่งเสียงร้องเอะอะเรียกแม่ให้มาอุ้ม
“เอาล่ะ ๆ แม่กำลังยุ่งอยู่นะ พวกลูกเล่นกันเองไปก่อนนะ”
เห็นเด็กสองคนจ้องมองเฟิ่งเหมียน อวิ๋นหลิงก็พูดเตือนออกมา “ลุงเฟิ่งเหมียนป่วยอยู่ อย่าไปรบกวนเขานะ ให้ตงชิงกูกูพาพวกลูกไปกินข้าวเป็นเพื่อนท่านปู่ทวดที่ตำหนักฉางหนิงดีไหม!”
“อ้าว ลุงเฟิ่งเหมียนป่วยอยู่หรือเนี่ย”
ฮั่วถวนและเสวี่ยถวนกะพริบตาปริบๆ ทั้งคู่วิ่งเข้าไปในห้องพลางคุ้ยหาบางสิ่ง จากนั้นก็นำเอาลูกอมหลากสีมากองข้าง ๆ เฟิ่งเหมียน
ฮั่วถวนไม่ลืมทำท่าทางเป็นผู้ใหญ่ตัวน้อย พูดเตือนด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่มว่า
“ต้องเชื่อฟังหมอนะ ถ้าไม่เชื่อฟังล่ะก็ ท่านแม่จะเอาเข็มแทงตรงก้น! เจ็บมากเลยนะ!”
เสวี่ยถวนเลื่อนลูกอมไปใกล้ ๆ เฟิ่งเหมียน “ถ้ายามันขมเกินไป ก็กินลูกอมพวกนี้ได้นะ นี่เป็นลูกอมที่ท่านตาให้มา อร่อยมากเลยล่ะ!”
เมื่อมองดูพี่น้องสองคนตรงหน้า เฟิ่งเหมียนที่ไม่ค่อยมีโอกาสใกล้ชิดกับเด็ก ๆ มาก่อนก็ดูเคอะเขินทำตัวไม่ถูก
“…ขะ ขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไร!”
เด็กน้อยสองคนดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเขาเสียอีก
อวิ๋นหลิงเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ “เอาล่ะ ไปกินข้าวกับท่านปู่ทวดได้แล้ว อย่าทำให้ท่านต้องรอนาน”
หลังจากโบกมือลา สองพี่น้องตัวน้อยก็วิ่งออกไปอย่างร่าเริง
ในห้องกลับมาสงบอีกครั้ง ร่างกายของเฟิ่งเหมียนที่เคยตึงเครียดก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง เขามองไปยังลูกอมหลากสีที่กองอยู่ข้างๆ
แม้จะเป็นน้ำใจจากเด็ก ๆ แต่เขาก็ไม่กล้าหยิบมากินจริง ๆ
เฟิ่งเหมียนมองสำรวจสิ่งรอบตัวอย่างเงียบๆ โดยไม่ส่งเสียงรบกวนใดๆ
ที่นี่แตกต่างจากห้องในพระราชวังที่เขาเคยเห็น ภายในห้องไม่ได้มีสิ่งของล้ำค่าอะไรเลย มีเพียงกองของเล่นเด็กกับของใช้ประจำวันทั่วไป
ทุกๆ มุมของห้อง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ แม้กระทั่งชั้นวางของ จะมีผ้านุ่มๆ หุ้มเอาไว้
มันไม่ได้หรูหราหรืองดงามเหมือนพระราชวังแห่งแคว้นตงฉู่ แต่กลับดูสะอาด อบอุ่น และเต็มไปด้วยบรรยากาศของชีวิตบ้าน ๆ
เฟิ่งเหมียนเองก็ไม่ได้ชอบความหรูหราเช่นกัน ที่พักของเขามักจะเรียบง่ายและสะอาดเสมอ เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งชีวิต
แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าที่พักของตนแตกต่างจากตำหนักหลักที่อวิ๋นหลิงและเซียวปี้เฉิงอาศัยอยู่
ไม่รู้ว่ามันต่างกันที่ตรงไหน แต่ที่นี่กลับให้ความรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก
เขาทำตามคำแนะนำของหมออวิ๋นหลิง เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จก็กินยาทันที เฟิ่งเหมียนนั่งสมาธิอย่างสงบนิ่งอยู่บนเบาะข้างๆ
เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาจากนอกตำหนัก พร้อมกับเสียงตะโกนของเฉียวเย่
“เร็วเข้า! บอกให้ห้องครัวรีบต้มน้ำร้อนเร็ว!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......