เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1107

อ่านรายงานที่เกี่ยวกับการตายของฉีไหวเซิงหมดแล้ว หลงเย่ก็เลื่อนไปอ่านบทความที่เกี่ยวกับองค์กร

หนึ่งในบทความนั้นถูกเผยแพร่เมื่อสามปีก่อน

‘สมาคมการแพทย์มอยเรได้ทำการทดลองมนุษย์อย่างผิดกฎหมาย’

หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ตึกมอยเรที่ตั้งอยู่ข้างสะพานริมทะเลของเมืองหลวงระเบิดขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ในคืนเดียวกันนั้น ผู้บริหารระดับสูงทุกคนในบอร์ดผู้ถือหุ้นกำลังจัดการประชุมภายใน การระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสยี่สิบกว่าคน ประธานในที่ประชุมตายคาที่ทันที

จากการตรวจสอบหลักฐาน การระเบิดครั้งใหญ่นี้เป็นการวางแผนโดยฝีมือคน และมีอาชญากรสองคนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ด้วย

หลังเกิดเรื่อง ทางตำรวจได้ทำการสอบสวนในเชิงลึก ก็ค้นพบอย่างไม่คาดคิดว่าองค์กรมอยเรได้แอบทดลองมนุษย์อย่างผิดกฎหมายและมีการตัดแต่งพันธุกรรม อีกทั้งยังได้กระทำการมากว่าสี่สิบปีแล้ว

เมื่อข่าวแพร่ออกไป สร้างความฮือฮาไปทั่วทุกวงการ ตอนนี้ทางตำรวจให้ความสำคัญกับคดีนี้มาก กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างเข้มงวด

……

หลงเย่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในรายงานฉบับนี้มีการเอ่ยถึงชื่อของอาชญากรสองคน น่าจะเป็นหลิวฉิงกับเสวียนจีอย่างไม่ต้องสงสัย

ตอนนั้นพวกนางถูกไล่ล่าและถูกบีบให้จนมุม จึงปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม เลือกที่จะตายไปด้วยกัน

ดังนั้นจึงได้เลือกคืนที่มีการประชุมผู้ถือหุ้นระดับสูง กวาดล้างเจ้าพวกจิตใจเหี้ยมโหดให้หมด

หลงเย่พลิกอ่านรายงานอีกสองสามหน้า มั่นใจว่าเหล่าสมาชิกผู้ถือหุ้นต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่ได้รับการรักษาทยอยตายไปแล้ว

การล่มสลายขององค์กรมอยเรนำมาซึ่งความตื่นตระหนกและโกลาหลแก่วงการต่างๆมากมาย

ตอนที่อวิ๋นหลิงวิจัยยาที่สามารถถอนพิษยาควบคุมระบบประสาทได้ ช่วยให้สมาชิกที่ถูกทำให้กลายเป็นมนุษย์ทดลองหนีรอดไปได้

ภายหลังคนพวกนี้ได้ใช้สถานะของการเป็นเหยื่อออกมายืนยันถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งปวงที่ทำโดยสมาคมการแพทย์

ซึ่งไม่จำกัดเพียงการทดลองที่ผิดกฎหมาย การวิจัยอาวุธชีวภาพ บ่อนการพนันและฟอกเงิน การสร้างกลุ่มทหารรับจ้างเพื่อรับงานลอบสังหารเป็นต้น......

ในฐานะที่เป็นสมาคมการแพทย์ระดับนานาชาติ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องอื้อฉาวที่น่าตกใจระดับโลกเลยทีเดียว

ฉีไหวเซิงก็ตกสู่ความขัดแย้งของสาธารณะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย เพราะองค์กรมอยเรเดิมก็เป็นการก่อตั้งขึ้นของเขาตั้งแต่ตอนยังเป็นหนุ่ม

แต่เมื่อพิจารณาถึงผลงานอันโดดเด่นทางการแพทย์ของชายชราคนนี้ บวกกับเขาสติเลอะเลือนมาตั้งนานแล้ว ไม่ได้ดูแลรับผิดชอบสมาคมการแพทย์แล้ว ดังนั้นในโลกออนไลน์ได้โต้เถียงกันถึงเรื่องนี้อย่างร้อนแรงอยู่หลายเดือน และค่อยๆสงบลงแล้ว

แต่ว่า ในบรรดาคนที่น่าสงสารซึ่งตกเป็นเหยื่อในการทดลอง ก็มีบางส่วนที่ยินดีจะเป็นสุนัขรับใช้ขององค์กรมอยเร ช่วยคนเลวทำเรื่องชั่วไม่น้อย หลังจากเกิดคดีระเบิดก็กลายเป็นผู้หลบหนีที่ถูกออกหมายจับ

แม้ว่าคนเหล่านั้นจะมีพลังจิตที่ถือว่าไม่ได้แข็งแกร่งมาก มีจำนวนคนไม่ถึงห้าร้อยคน แต่พลังที่ไม่ธรรมดาเหล่านี้ก็นำมาซึ่งความโกลาหลแก่โลกใบนี้อยู่บ้าง

เสวียนจีเอ่ยเหมือนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “สามปีที่ท่านพ่อหวู๋ซินไม่ได้มาหาพวกเรา น่าจะจัดการกับคนพวกนี้กระมัง”

หลงเย่พยักหน้า “ดูจากรายงานเหล่านี้แล้ว ทางตำรวจเคยรับรู้เรื่องพลังจิตจากปากคำของคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่เคยพบเห็นความสามารถผิดธรรมชาติบนตัวผู้ร้ายเหล่านี้มาก่อน ที่สุดก็ระบุว่าพวกเขาน่าจะเป็นโรคหลงผิด ด้วยเหตุนี้จึงสันนิษฐานว่าพลังจิตไม่มีอยู่จริง”

คิดว่าคงเป็นฝีมือของเต้าหวู๋ซิน

ทำลายข้อมูลการวิจัยพลังจิตที่หลงเหลืออยู่ภายนอก ทำการปิดกั้นพลังจิตของผู้ที่สร้าง”รากเหง้าแห่งจิตวิญญาณเทียม” ทำการลบล้างความทรงจำของผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง

เรื่องราวมาถึงตอนนี้ โลกใบนี้ก็กลับคืนสู่ความสงบอย่างแท้จริงแล้ว

สีหน้าของหลงเย่ผ่อนคลายคงอย่างเห็นได้ชัด

กงจื่อโยวสามารถรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่ดีขึ้นของนาง “หลงเอ๋อร์ เช่นนี้ก็หมายความว่า หลังจากนี้พวกเจ้าสามารถมีชีวิตอยู่ภายใต้แสงแดดของโลกใบนี้อย่างที่ใจปรารถนาได้แล้ว ใช่หรือไม่”

หลงเย่ยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางพยักหน้าพูดว่า “อืม”

“เช่นนั้นก็ดีมากจริงๆ จะว่าไปแล้วพวกเจ้าจากไปตั้งสามปีกว่าจะกลับมา จะไม่ทักทายเพื่อนๆหน่อยหรือ”

“เพราะองค์กรเป็นเหตุ พวกเราไม่มีเพื่อนเลย......พอใกล้ชิดกับคนทั่วไปมากเกินไป เป็นเรื่องที่ไม่ดีกับพวกเขา”

สถานะของพวกนางในตอนนี้ ล้วนเป็นนามแฝงที่ใช้เพื่อจะได้ทำงานอย่างสะดวก แต่ว่าตอนนี้ได้กลายเป็นชื่อจริงไปแล้ว

สำหรับพวกหลงเย่แล้ว นี่ถือว่าเป็นเรื่องดี เครือข่ายความสำคัญระหว่างบุคคลแบบง่ายๆทำให้พวกนางไม่ต้องกังวลใจว่าจะอธิบายเรื่องที่หายหน้าไปสามปีอย่างไรดี

นางอารมณ์แจ่มใส มองเสวียนจีพลางเอ่ยอย่างสบายใจว่า “ตอนนี้ปัญหาที่จำเป็นต้องแก้ไขมากที่สุดคือ ทำให้พวกเขามีตัวตนถูกต้องตามกฎหมายในโลกใบนี้ เรื่องนี้มอบให้เป็นหน้าที่เจ้าแล้วกัน”

เขาพิมพ์ตัวอักษรโดยการสะกดพินอินไม่เป็น แต่สิ่งที่เรียกว่ามือถือนี้น่าอัศจรรย์มาก ใช้นิ้วเขียนตัวอักษรบนมือถือก็ได้แล้ว

ภายใต้การเร่งเร้าของเสวียนจี เฟิ่งเหมียนเขียนชื่อของตนเองลงไปอย่างจริงใจตามที่สอน

เพิ่งจะเข้าสู่หน้าจอ ยังไม่ทันที่จะปรับสายตาให้คุ้นเคยกับภาพที่วุ่นวายจนทำให้ตาลาย จู่ๆระบบก็มีข้อความแจ้งเตือนส่งเข้ามา

‘”มือปืนอัจฉริยะสามขวบ”ส่งคำขอเป็นเพื่อนให้คุณ’

เสวียนจีรีบตะโกนขึ้นมาทันที “เร็วเข้า ข้าเพิ่มท่านเป็นเพื่อนแล้ว กดปุ่มยืนยันนั่นเร็ว”

เฟิ่งเหมียนนิ่งอึ้งไป เอ่ยอย่างไม่เข้าใจ “ชื่อนี่ คือเจ้าหรือ”

ช่างน่าประหลาดจริงๆ......

“โธ่เอ๊ย นอกจากข้าแล้วยังจะมีใครอีก พวกเรารีบผูกบัญชีคู่รักกันเถอะ”

เฟิ่งเหมียนตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที

“คู่ คู่รัก นี่เจ้าจะทำอะไร......”

“อย่าโอ้เอ้อยู่เลย เหลือเวลากิจกรรมอีกแค่สามชั่วโมงสุดท้ายแล้ว พวกเรารีบจับทีมดูโอ้ไปเอารางวัลสกินกัน”

เฟิ่งเหมียนชะงักค้าง “......”

แม้จะไม่รู้ว่าแม่สาวน้อยจะทำอะไร แต่ที่สามารถแน่ใจได้ก็คือ เมื่อครู่เขาน่าจะคิดมากเกินไป

เห็นเฟิ่งเหมียนยังคงนิ่งอึ้งอยู่ เสวียนจีก็ร้อนใจมาก จึงแย่งมือถือไปใช้การเคลื่อนไหวที่เร็วที่สุดทำภารกิจผูกบัญชีคู่รักให้เสร็จสิ้น จากนั้นก็เติมเงินซื้อฮีโร่ที่เป็นตัวช่วยในการทำสงครามให้เขา

“ทางค่ายเกมได้มีการออกสกินลิมิเต็ดในวันแห่งความรัก ปีนี้วนมาถึงตัวละครที่ข้าชอบที่สุดและใช้บ่อยที่สุด เงื่อนไขคือจำเป็นต้องผูกบัญชีคู่รักและจับคู่กันเอาชนะให้ได้สิบครั้งจึงจะได้รับสกิน เวลาไม่มากแล้ว พวกเราจะแพ้ไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว”

การต่อสู้หนึ่งรอบ ใช้เวลานานสุดถึงยี่สิบนาที สั้นสุดก็ยังต้องใช้สิบห้านาที

กิจกรรมจะสิ้นสุดเวลาเที่ยงคืนของคืนนี้ ภายในสามชั่วโมงนี้ นางจำเป็นต้องรีบสู้ให้จบ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ