เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1108

ดังนั้น เฟิ่งเหมียนถูกเสวียนจีลากเข้าไปสู่การต่อสู้แบบคู่อย่างสับสนมึนงง กระทั่งยังไม่ทันเข้าไปฝึกฝนในค่ายฝึกหัดมือใหม่

“ตำแหน่งประจำที่ข้าใช้คือมือยิง ท่านใช้ตัวช่วยนี้เดินเลนล่างไปพร้อมกับข้าก็พอแล้ว ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ใช้ระบบอัตโนมัติอยู่ข้างหลังก็พอ”

“……”

เฟิ่งเหมียนถูกบังคับให้เล่นเกม ฝืนทำตามที่เสวียนจีสอน ควบคุมคนเล็กๆบนหน้าจอให้เคลื่อนไหว

การต่อสู้รอบแรกสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น จำได้แค่หน้าจอที่เต็มไปด้วยสีสันฉูดฉาดลายตา หน้าจอของตนเองดับแล้วสว่าง สว่างแล้วดับ ตัวละครตายไปในการต่อสู้แล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ สุดท้ายก็ได้รับชัยชนะ

เสวียนจีผ่อนลมหายใจออกมา “ไม่เล่นตั้งนาน ลำดับตกลงไปอยู่ที่ขั้นบรอนซ์แล้ว ฮึๆๆ......อย่างนี้ก็สะดวกพวกเราที่จะไล่ฆ่าตามอำเภอใจเลย”

แน่นอนว่า เฟิ่งเหมียนรับผิดชอบไล่ตาม นางรับผิดชอบการฆ่า

หลังจากชนะการต่อสู้สองสามรอบ พบว่าการต่อสู้ในระดับต่ำไม่ได้ยากอะไร เสวียนจีจึงแบ่งเวลาบางว่าส่วน บ่นพลางสอนเขาเล่นเกม

“เมื่อก่อนพวกเราสี่คนมักจะจับกลุ่มเล่นด้วยกัน ข้ารับผิดชอบตำแหน่งมือยิง ผู้หญิงเลวเป็นนักเวทย์ นายท่านหลีว์เป็นนักฆ่าในป่า พี่สามเป็นพี่เลี้ยงผู้ช่วยระดับเหรียญทองของข้า”

“ส่วนใหญ่ก็จะทำผลงานได้ไร้เทียมทาน ยังมีทีมนักกีฬาอีสปอร์ตเคยเชิญพวกเราไปร่วมด้วย เสียดายที่พวกเราสี่คนจับกลุ่มกัน ขาดหนึ่งคนที่เป็นผู้เล่นยืนเดี่ยวในหมวดรถถัง ถ้าไม่อย่างนั้นละก็ ก็สามารถสร้างทีมรบของตัวเองได้แล้ว......”

คำพูดหลายประโยคของเสวียนจีทำให้เฟิ่งเหมียนไม่เข้าใจ แต่เขาไม่ได้มีนิสัยเหมือนกงจื่อโยว

ดังนั้นจึงไม่พูดไม่จา ฟังด้วยสีหน้าตั้งใจ ในใจก็ครุ่นคิดความหมายในคำพูดเหล่านั้น

กระทั่งต่อสู้กันถึงรอบที่เจ็ด ในที่สุดเฟิ่งเหมียนก็หลุดพ้นจากสถานะของการเป็นตัวนำโชค สามารถใช้ทักษะบางอย่างได้บ้างแล้ว

เหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นในรอบที่แปด เสวียนจีปะทะกับทีมยอดฝีมือที่จับกลุ่มกันห้าคน

ศัตรูมองเห็นจุดบอดของเฟิ่งเหมียน พวกเขาร่วมมือกันล้อมโจมตีเลนล่างอยู่หลายครั้ง เพื่อนร่วมทีมเข้ามาช่วยไม่ทัน ทำให้ต้องใช้ไอเทมต่างๆในสถานการณ์ที่เสียเปรียบเพื่อจะเอาชนะ ความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ

นักเวทย์และนักฆ่าเหมือนจะเป็นคู่รักกัน ผู้ชายที่เป็นนักฆ่านิสัยใจร้อน เปิดไมค์ก่นด่าขึ้นมาทันที

“ให้ตายเถอะ ตัวช่วยเล่นเกมเป็นไหม แกเป็นเด็กประถมหรือไง”

“เล่นห่วยเหมือนตัวละครในเกมที่ไม่ได้ควบคุมเอง ออกมาเอาเปรียบคนอื่นเพื่อแก้แค้นสังคมหรือไง”

นิ้วของเฟิ่งเหมียนชะงักไปหนึ่งวินาที รับรู้ได้ว่าเหมือนตนเองจะเป็นตัวปัญหาทำให้เพื่อนร่วมทีมต้องลำบาก จึงเปิดไมค์เอ่ยขอโทษ

“พี่ชายท่านนี้ ขออภัย ข้าน้อยเล่นเป็นครั้งแรก......”

ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเสียงหงุดหงิดของนักฆ่าพูดกลบขึ้นมาก่อน

“เล่นเป็นแค่ตัวช่วยยังตายได้น่าสมเพชขนาดนี้ ให้ตายเถอะนี่มันตัวไร้ประโยชน์อะไรกันเนี่ย ยังจะพูดจาตอแหลอีก พี่ชายข้าน้อยอะไร สมองแกมีปัญหาใช่ไหม”

หลังจากนั้นก็มีเสียงด่าตามมาเป็นพรวน

เฟิ่งเหมียนสีหน้าขรึมลงเล็กน้อย แต่ติดที่ตนเองเป็นฝ่ายผิดก่อน จึงไร้ทางโต้แย้งได้

แต่เสวียนจีกลับโมโหขึ้นมาทันที เปิดไมค์”โต้วาที”กับอีกฝ่าย

“คืนนี้แกใช้ขี้แปรงฟันแทนยาสีฟันหรือไง ทำไมถึงได้ปากเหม็นอย่างนี้”

“ตัวเองมีฮีโร่ตัวเก่งอยู่แท้ๆแต่ไม่กล้าบุกเข้าไปในเขตของอีกฝ่าย พอไม่มีอะไรทำก็วิ่งมาหาประสบการณ์ที่เลนล่าง พออีกฝ่ายล้อมวงกันมาโจมตีก็หายหัวไปไหนไม่รู้ ยังมีหน้ามาว่าคนอื่นเล่นห่วยอีก”

ผู้เล่นคนนี้แค่ดูก็รู้ว่าเป็นพวกเก็บแต้ม ขี้ขลาดจะตาย หลายครั้งที่เฟิ่งเหมียนใช้ตัวละครที่ตัวเองควบคุมไปปกป้องเขา เขากลับทิ้งเพื่อนร่วมทีมแล้วหนีไป ทำเอาเฟิ่งเหมียนต้องถูกรุมโจมตีจนสะบักสะบอม

ทำตัวแบบนี้แล้วยังกล้าด่านกโง่ของนางอีก ช่างน่าโมโหจริงๆ

เสวียนจีหยุดเล่นและด่านักฆ่าด้วยความโมโห ชี้ข้อผิดพลาดในการควบคุมและกลยุทธ์ที่อีกฝ่ายใช้อย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด

ผู้เล่นที่เป็นนักล่าคนนั้นเสียหน้าต่อหน้าสาวๆในทีม รู้สึกอายจนโกรธขึ้นมา ปะทะคารมกับเสวียนจีขึ้นมา

เวลานี้ ผู้เล่นยืนเดี่ยวในทีมทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว

ผู้เล่นที่ใช้ชื่อ”กาแล็กซีแห่งดวงดาว”เปิดไมค์ เสียงของผู้ชายที่ฟังดูสบายๆและหยิ่งยโสดังขึ้น

“เล่นเกมที่ใช้ทักษะต่ำแล้วยังจะด่าเพื่อนร่วมทีมอีก ทำไมแกไม่ขึ้นสวรรค์ไปเลยล่ะ เล่นในระดับที่ต่ำกว่าก็ต้องมีมือใหม่อย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายจงใจสร้างบัญชีใหม่ขึ้นมารังแกผู้เล่นมือใหม่ จำเป็นต้องด่ากันรุนแรงขนาดนั้นเชียวหรือ”

“อีกอย่างน้องมือยิงก็พูดถูกต้อง นี่เป็นเกมของคนห้าคน แกไม่ให้ความช่วยเหลือเลยสักนิด คงบ้ามากถ้าเอาชนะได้”

“ฉันว่าแกคงจะมาสอนสาวที่ชอบเล่นเกมในระดับบรอนซ์ซะมากกว่า ตอนนี้แพ้แล้วตอแหลไม่ได้ ก็เลยพาลโกรธไปทั่วซะอย่างนั้น”

คำพูดประโยคสุดท้ายแทงใจดำผู้เล่นอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง อีกฝ่ายโกรธจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

“แก......”

ยังไม่ทันด่าออกไป การต่อสู้ก็สิ้นสุดลง รอบนี้เห็นได้ชัดว่าแพ้แล้ว

เฟิ่งเหมียนรู้สึกเศร้าขึ้นมาทันที เม้มปากเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ขอโทษ ต้องโทษข้าที่ทำให้พวกเจ้าลำบาก ข้า......”

เหมือนเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปากอย่างไร

เสวียนจีเก็บอาการขุ่นเคืองบนใบหน้า รีบโบกมือพูดว่า “ไม่ๆๆ ไม่ใช่ความผิดของท่านเลย ท่านเป็นผู้เล่นมือใหม่ที่ทำให้ดีมากแล้ว ท่านดูซิผู้เล่นคนเมื่อกี้ยังยืนอยู่ฝ่ายพวกเราเลย”

เฟิ่งเหมียนกระตุกมุมปาก ซ่อนอารมณ์ที่ผิดปกติเอาไว้ “นี่ก็ดึกมากแล้ว รีบไปนอนเถอะ อย่ามัวแต่เล่นเลย”

หลังจากนั้น ก็มองเสวียนจีที่กระโดดโลดเต้นขึ้นไปบนชั้นสอง เขาจึงกลับไปยังห้องนอน สีหน้าดูเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด

การพ่ายแพ้เมื่อครู่ทำให้เสวียนจีต้องลำบากไปด้วย จะบอกว่าไม่เสียใจก็คงจะโกหก

เพียงแต่ไม่อยากจะให้เสวียนจีตำหนิตนเองเพราะเขาถูกคนอื่นด่า จึงได้แสร้งทำเป็นไม่สนใจ

เฟิ่งเหมียนไม่เคยคิดเลยว่า ตนเองจะยังมีช่วงเวลาที่ไร้ประโยชน์ถึงเพียงนี้

คิดถึงเมื่อครู่ที่เสวียนจีกับผู้ชายที่ชื่อกาแล็กซีแห่งดวงดาวคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่เขากลับพูดแทรกไม่ได้เลย รู้สึกอัดอั้นตันใจมาก

แต่ว่า เฟิ่งเหมียนไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ

หลังจากที่เศร้าใจไปครู่หนึ่ง เขาก็มีแววตามมุ่งมั่นในการล็อกอินเข้าเกมอีกครั้ง ทดลองเล่นกับ เอ็นพีซี ในเกมสองสามครั้ง และลองจับคู่เพื่อต่อสู้

หลังจากผ่านไปสามชั่วโมง เสียงของระบบแจ้งเตือนได้ดังขึ้นอย่างไร้เมตตา

‘คุณถูกรายงานหลายครั้งเกินไป ค่าชื่อเสียงต่ำกว่าหกสิบคะแนน ถูกระงับการเล่นเป็นเวลาสามวัน ’

เฟิ่งเหมียน “......”

......

ณ บ้านหรูอีกหนึ่งแห่ง

บนโซฟาในห้องรับแขก ชายหนุ่มนั่งเอาขาไขว่ห้าง โยนมือถือไปอีกทาง

เขาสวมกางเกงสีแดงเซ็กซี่และเสื้อเชิ้ตสีขาว เสริมให้สองขาดูเรียวยาว ผมสั้นถูกย้อมเป็นสีเงินเป็นประกาย ดูโดดเด่นมาก

บนจี้ที่ห้อยอยู่ตรงหน้าอก หินสีแดงที่ใสราวกับคริสตัลเปล่งประกายระยิบระยับ

“คิดไม่ถึงว่าเกมโบราณแบบนี้จะสนุกมาก”

ฉีเทียนเหอกำลังพึมพำ ผู้ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ช่วยเดินเข้ามาข้างกายเขาอย่างนอบน้อม

“คุณชายเทียนเหอ คุณมีคฤหาสน์บ้านเลขที่6หมู่บ้านทิวลิปเขตลี่สุ่ยที่ทำการโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว เฟอร์นิเจอร์สั่งทำจะติดตั้งแล้วเสร็จในอีกครึ่งเดือน”

ฉีเทียนเหอเลิกคิ้ว เอ่ยอย่างเกียจคร้านว่า “ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวกันเถอะ อีกครึ่งเดือนผม จะย้ายไป”

เขาไม่สามารถอยู่ในบ้านตระกูลฉีนี้ได้อีกต่อไปแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ