เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1109

ผู้ช่วยที่สวมแว่นขอบทองเอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “ได้ครับ จะไปจัดการให้คุณเดี๋ยวนี้เลย หลังจากออกจากบ้านตระกูลฉีแล้วยังต้องการอะไรอีก ก็สามารถโทรหาผมได้ตลอดเวลา”

ฉีเทียนเหอพยักหน้า “หลายวันนี้ ต้องลำบากคุณกับลุงเหยาแล้ว”

“คุณชายไม่ต้องเกรงใจ นี่เป็นสิ่งที่ผมและพ่อสมควรทำ” ผู้ช่วยเหยายิ้มบางๆ “นี่ก็ดึกมากแล้ว รีบพักผ่อนเถอะครับ ผมขอตัวก่อน”

ผู้ช่วยเหยาไม่ได้คุ้นเคยกับฉีเทียนเหอ เพียงแต่พ่อเขาเป็นคนเก่าแก่ของ ตอนยังหนุ่มเคยเป็นถึงผู้ช่วยคนสนิทของนายท่านใหญ่แห่งตระกูลฉี

นายท่านใหญ่ตระกูลฉีมีพระคุณต่อพ่อของ ยังคงรู้สึกเสียดายที่ครอบครัวพวกเขาต้องประสบเหตุทางเครื่องบินตลอดมา

เวลาผ่านไปหลายปีแล้ว จู่ๆก็มีลูกนอกสมรสของนายท่านใหญ่ตระกูลฉีโผล่ออกมา ยังเกี่ยวโยงไปถึงคดีฆาตกรรม

พ่อของเขาตื่นเต้นมาก บอกว่าจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับครอบครัวลูกชายคนโต

แม้ว่าฉีเทียนเหอจะเป็นลูกนอกสมรส แต่ก็เป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวของนายท่านใหญ่ตระกูลฉี ดังนั้นจึงพยายามช่วยเขาให้ได้มาซึ่งมรดกที่นายท่านฉีไหวเซิงทิ้งเอาไว้

ตามพินัยกรรม ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลฉีต้องแบ่งให้ลูกหลานทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

หลังจากศาลตัดสินแล้ว ฉีเทียนเหอสืบทอดมรดกของครอบครัวลูกคนโตถึงร้อยละยี่สิบห้า ครอบครัวลูกคนรองแม้ว่าจะได้ร้อยละยี่สิบห้าเหมือนกัน แต่ว่าสองสามีภรรยาคู่นั้นมีลูกทั้งหมดสามคน

หลังความขัดแย้ง ฉีเทียนเหอกลับกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท

ผู้ช่วยเหยาดันแว่น คิดในใจว่าช่างเป็นกรรมตามสนองจริงๆ

ใครจะไปคิดว่า คนในครอบครัวลูกคนรองเหล่านั้นแย่งชิงกันมาตั้งนาน สุดท้ายล้วนแพ้ให้กับลูกนอกสมรสของครอบครัวลูกคนโต

……

ณ หมู่บ้านทิวลิปเขตลี่สุ่ย

เก้าโมงข้าวของวันที่สอง อ้ายเฟยร้องเพลงปลุกอย่างตรงเวลา

ตอนที่เสวียนจีเดินหาวลงมาจากชั้นบน พวกหลงเย่กำลังกินอาหารเช้ากันอยู่

รอบดวงตาของเฟิ่งเหมียนเขียวคล้ำอยู่บ้าง นางอดไม่ได้ที่จะถามอย่างเป็นห่วงว่า “ทำไมถึงดูเหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นข้าที่รบกวนเวลานอนของท่านเมื่อคืนใช่หรือไม่”

“ไม่ใช่ ข้าก็แค่ไม่คุ้นเคยกับห้องนอนเท่านั้น”

เฟิ่งเหมียนส่ายหน้า ก้มหน้ากินโจ๊กเงียบๆ

เสวียนจีหย่อนก้นนั่งลงข้างกายเขา สายตาเหลือบไปมองกงจื่อโยว “พี่เขย ทำไมท่านไม่กินข้าวล่ะ”

กงจื่อโยวไม่แตะต้องโจ๊กหมูสับไข่เยี่ยวม้าที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่คำเดียว เขานั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร กำลังยกมือถือที่ซื้อมาใหม่พยายามเซลฟี

มองกล้องมือถือโดยถ่ายเสยจากทางด้านล่างขึ้นมาด้านบน ประเดี๋ยวก็เผยรอยยิ้มมีเสน่ห์ออกมา ประเดี๋ยวก็แสร้งทำหน้าเศร้า

หลงเย่สีหน้าไร้อารมณ์ มือที่ถือช้อนกำเอาไว้แน่น เอ่ยปากด้วยเสียงเย็นชา น้ำเสียงไม่ได้อ่อนโยนเหมือนก่อนหน้านี้

“ถ้าขืนท่านยังเล่นอีก หลังจากนี้ก็ไม่ต้องกินข้าวเช้าอีกต่อไป”

นางยอมเขาเลยจริงๆ เมื่อคืนหลังจากกลับเข้าไปในห้องก็เซลฟีจนดึกกว่าจะนอน ทำไมยังเล่นไม่พออีก

กงจื่อโยววางมือถือลงทันที นั่งตัวตรงอย่างเชื่อฟัง หลังจากกินโจ๊กไปได้หนึ่งคำ เขาก็ถามขึ้นอย่างไม่สามารถระงับความคาดหวังได้ “หลงเอ๋อร์ เจ้าบอกว่าวันนี้จะออกไปข้างนอก เจ้าจะพาพวกเราไปเที่ยวที่ไหนหรือ”

หลงเย่กวาดตามองพวกเขาแวบหนึ่ง “ให้เสวียนจีพาพวกท่านไปเดินเล่นแถวๆนี้ก่อน คุ้นเคยกับพื้นที่รอบๆแล้วค่อยว่ากัน”

กงจื่อโยวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง มองนางด้วยสายตาน่าสงสาร “หลงเอ๋อร์ เจ้าไม่พาข้าไปด้วยหรือ”

หลงเย่น้ำเสียงอ่อนโยนลง “ข้าจะออกไปทำธุระ พวกท่านไปด้วยจะไม่สะดวก”

“เอาเถอะ......”

เฟิ่งเหมียนเหลือบตาขึ้นมามอง พยักหน้าก่อนจะพูดว่า “ระวังหน่อยก็ดี ในสถานการณ์ที่ยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่ จะได้ไม่ทำตัวแปลกๆต่อหน้าคนอื่น”

เสวียนจีรีบตบอกพลางพูดว่า “ไม่มีปัญหา มอบให้เป็นหน้าที่ข้าเถอะ รับรองว่าพวกเขาต้องจำทางกลับบ้านได้แน่”

นางโบกมือและพูดอย่างใจป้ำว่า “ชอบอะไรก็ซื้อ ไม่ต้องเกรงใจ”

แม้ว่าสิ่งของเหล่านี้แค่กดสั่งซื้อในอินเทอร์เน็ตก็ได้ แต่คนที่มาเดินเที่ยวในห้างสรรพสิ่งข้าไม่เคยลดลงเลย ความสุขจากการซื้อแล้วก็ซื้อเช่นนี้ไม่มีใครจะต้านทานได้

“นกโง่ ท่านอยากจะได้อะไรก็บอกมา วันนี้ข้าเลี้ยงเอง”

รถเข็นของกงจื่อโยวกองเป็นภูเขาย่อมๆแล้ว เฟิ่งเหมียนกลับสองมือว่างเปล่า

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยเสียงต่ำว่า “ของเหล่านี้ดูแล้วราคาแพงมากทีเดียว จะทำให้เจ้าสิ้นเปลืองเกินไปหรือไม่”

เฟิ่งเหมียนยังไม่ค่อยเข้าใจราคาสินค้าของโลกใบนี้ แต่เขาสามารถเข้าในตัวเลยอารบิกแล้ว มองเห็นราคาบนฉลากที่มีเลขสามสี่ตำแหน่ง เขาที่ไม่เคยสนใจสิ่งของนอกกายตลอดมา กลับเป็นครั้งแรกที่รู้สึกเจ็บใจขึ้นมา

“มีสมองที่ฉลาดขนาดนี้อยู่ ไม่ต้องห่วงว่าจะหาเงินไม่ได้ ฮึๆๆ......แอบกระซิบให้ท่านรู้ ข้าเป็นมหาเศรษฐีนะ ร้ายกายใช่ไหมล่ะ”

เสวียนจีเคาะศีรษะของตนเอง สีหน้าภูมิใจ

นางเป็นสุดยอดแฮ็กเกอร์ คนที่มีความสามารถด้านเทคนิคเช่นนี้จะขาดเงินได้อย่างไร แต่นางมีนิสัยชอบเล่น น้อยมากที่จะร่วมงานกับคนอื่น

ก่อนหน้านี้ได้รับการเชื้อเชิญได้เข้าร่วมการวิจัยพัฒนาหุ่นยนต์อัจฉริยะที่ใช้ในบ้าน แค่ความร่วมมือครั้งนี้ก็สามารถได้รับค่าตอบแทนถึงแปดหลัก

เฟิ่งเหมียนได้ยินเช่นนั้น คิ้วที่ขมวดแน่นก็คลายลงเล็กน้อย พยักหน้าอย่างจริงจัง

“อืม ร้ายกาจมาก ทอดสายตามองทั้งสองโลก ยังไม่เห็นมีใครมีความสามารถเช่นนี้เหมือนเจ้าเลย”

ถูกเขาชมอย่างจริงจัง เสวียนจีกลับรู้สึกกระดากใจอยู่บ้าง แลบลิ้นพลางเอ่ยว่า “เมื่อก่อนตอนที่อยู่แคว้นตงฉู่ข้าใช้เงินของท่านไปไม่น้อย มาที่นี่ไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้า”

ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่ก่อเรื่อง ล้วนเป็นเฟิ่งเหมียนที่คอยช่วยนางแก้ปัญหา นับไม่ถ้วนแล้วว่าใช้เงินของอีกฝ่ายไปมากเท่าไหร่

เฟิ่งเหมียนยิ้มบางๆ มองซ้ายมองขวาอยู่นาน ก่อนจะหยิบตุ๊กตาแมวสีดำขาวปนสีเทาตัวหนึ่งมาจากโซนของเล่น ลูบไปมาอย่างไม่ยอมปล่อยมือ

เขาเคยเห็นแมวตัวนี้จากภาพวาดบนกำแพงของเสวียนจี ดวงตาสีดำกลมโต ดูซุกซนน่ารัก เหมือนกับนางมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ