กงจื่อโยวกลับเดินวนอยู่ที่โซนเครื่องสำอางไม่ยอมกลับ เอาแต่ทอดถอนใจไม่หยุดว่าชาดและแป้งทาผิวที่นี่ทำให้ประณีตมาก
“ถ้าหากข้าสามารถเอาของเหล่านี้ไปขายทางโน้นได้ ต้องได้รับความนิยมมากแน่”
การค้ามากมายภายใต้ชื่อสำนักทิงเสวี่ย หนึ่งในการค้าที่ทำเงินมากที่สุดก็คือชาดและแป้งทาผิว
โดยเฉพาะที่แคว้นถังใต้ ผู้คนมีข้อกำหนดที่เข้มงวดเรื่องความงามและมารยาทของหญิงสาวมาก แม้จะเป็นหญิงสาวธรรมดาทั่วไป เมื่อออกจากบ้านจำเป็นต้องทาแป้งและชาด
ถ้าหากไม่เขียนคิ้วและทาปาก เหล่าหญิงสาวกระทั่งอายที่จะออกจากบ้าน และจะถูกคนอื่นตำหนิว่าเสียมารยาท
กงจื่อโยวไม่ชอบกฎเกณฑ์ที่ผูกมัดผู้คนเช่นนี้ แต่เขารักความสวยความงามมาตั้งแต่เกิด คิดว่านี่คือธรรมชาติของมนุษย์
เขาหวังว่าเหล่าสาวๆจะแต่งหน้าเพื่อความสุขของตนเอง แต่ไม่ใช่เพื่อให้ผู้ชายชื่นชอบ
ร้านค้าของเขาได้ถ่ายทอดความคิดเช่นนี้ ชั่วขณะหนึ่งทำให้เขากลายเป็น’เพื่อนของผู้หญิง’ ดังนั้นชาดและแป้งทาหน้าจึงขายดีมาก ได้รับความนิยมจากสาวๆเป็นอย่างสูง
แต่ว่า ปกติแล้วกงจื่อโยวก็ให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวหน้า แต่กลับไม่เคยทาชาดและแป้งบนใบหน้าเลย
เขาเป็นคนหลงตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองหน้าตาดีมาตั้งแต่เกิด พวกชาดและแป้งกลับจะทำให้ใบหน้าเขาแปดเปื้อน
เดินเที่ยวอย่างตื่นเต้นอยู่ครึ่งวัน เห็นว่าข้างๆมีหวีหน้าตาแปลกๆวางโชว์อยู่มากมาย กงจื่อโยวหยิบขึ้นมาหวีผมที่รวบขึ้นเป็นหางม้าของตนเอง อาศัยตู้กระจกสะท้อนแสงที่อยู่ข้างๆเป็นกระจก
การกระทำนี้ดึงดูดสายตาของผู้คนได้ไม่น้อย เขายืดอกเชิดหน้า วางมาดอย่างเงียบๆ กลับได้ยินเสียง’คิกคัก’ของหญิงวัยรุ่นคนหนึ่งดังขึ้นมาทางด้านหลัง
เขารับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างเลือนราง สายตากวาดมองไป อ่านตัวอักษรยึกยือบนฉลากจนได้ความว่า แปรงสำหรับสัตว์เลี้ยง
กงจื่อโยว “......”
เขาวางหวีลงเงียบๆ รีบเดินกลับไปข้างกายเสวียนจี
“พี่เขย ทำไมท่านไม่เดินเที่ยวแล้วล่ะ”
“......ไม่เดินแล้วไม่เดินแล้ว ข้าหิวแล้ว”
กงจื่อโยวแทบอยากจะหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ในใจเอาแต่ภาวนา หวังว่าจะไม่มีใครเห็นท่าทีน่าเกลียดของเขาเมื่อครู่นี้
เสวียนจียักไหล่ เห็นว่าในที่สุดความอยากในการซื้อของของเขาได้หายไปแล้ว จึงทำการจ่ายเงิน ให้ทางห้างสรรพสินค้าส่งของไปยังบ้านเลขที่6หมู่บ้านทิวลิป
เดินเที่ยวกว่าครึ่งค่อนวัน พอกินข้าวเสร็จก็เป็นเวลาสี่โมงกว่าแล้ว
บนถนนที่มีผู้คนพลุกพล่าน ทั้งสามเดินย่อยอาหาร พลางชื่นชมทัศนียภาพของเมืองนี้
“แม่สาวน้อย เดิมทีข้าคิดว่ารถม้าที่เจ้าทำสุดยอดมากแล้ว คิดไม่ถึงว่ายังมีสิ่งที่วิ่งได้เร็วกว่า......ที่ส่งเราออกมาจากบ้านวันนี้ ช่างทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ”
ทุกวินาทีหลังจากที่มาถึงโลกใบนี้ กงจื่อโยวยังไม่หยุดความอยากรู้และการสำรวจ
ยิ่งเข้าใจที่นี่มากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกตกตะลึง ยิ่งซาบซึ้งใจและชื่นชม
ซาบซึ้งที่หลงเย่ยอมสละชีวิตที่สุขสบายไร้กังวลของที่นี่ และเลือกที่จะอยู่กับเขาในโลกใบนั้นระยะยาว
และชื่นชมความมุ่งมั่นของพวกนาง
“บางครั้ง ข้าก็รู้สึกชื่นชมพวกเจ้าจริงๆ ภายใต้เงื่อนไขที่สามารถกลับมาได้ แต่ยังคงไม่ลืมอีกฝั่ง”
อวิ๋นหลิงกับหลิวฉิงทนที่จะไม่กลับมาทันทีได้อย่างไร
เสวียนจียิ้มจนเห็นฟันเขี้ยว “เพราะทางนั้นมีพวกท่านและท่านพ่อหวู๋ซินอยู่ จึงเป็นบ้านที่แท้จริง”
เมื่อเทียบกับกงจื่อโยวที่พูดมาก เห็นได้ชัดว่าเฟิ่งเหมียนดูเงียบและพูดจาน้อยมาก
เขามองดูรถราเสียงดังที่แล่นไปบนถนน และผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เดินทอดน่องช้าๆไปบนถนนโดยหยุดพักบ้างเป็นครั้งคราว ไม่ช้าก็กลับมาถึงสวนสาธารณะที่อยู่ด้านนอกของหมู่บ้านทิวลิป
เห็นว่าบริเวณลานน้ำพุมีคนรุมล้อมอยู่มากมาย กงจื่อโยวที่เดิมทีดูเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้างก็มีท่าทีกระตือรือร้นขึ้นมาทันที
“แม่สาวน้อย คนพวกนั้นทำอะไรกัน”
เสวียนจีกวาดตามอง ก่อนจะเอ่ยตอบว่า “นั่นเป็นมุมนัดหาคู่ พวกลุงป้าน้าอากำลังหาคู่ให้กับลูกของตัวเองอยู่”
บริเวณใกล้เคียงของหมูบ้านทิวลิปยังมีที่อยู่ระดับไฮเอนด์อยู่หมู่บ้านหนึ่ง ตรงกลางมีลานดอกไม้ขนาดใหญ่ มักจะได้เห็นคนแก่มาออกกำลังกายช่วงเช้าที่นี่ แน่นอนว่าย่อมขาดเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่สืบทอดมากว่าสามร้อยปีไม่ได้ นั่นก็คือมุมนัดหาคู่ในสวนดอกไม้
“อะไร นัดหาคู่กันที่นี่หรือ” กงจือโยวที่เป็นคนชอบความสนุกคึกคัก ยื่นคอยาวขึ้นมาทันที “ไปๆๆ พวกเราไปดูกันเถอะ”
ทั้งสามเดินไปใกล้กับบริเวณน้ำพุ ก็พบว่าตรงหน้าคนวัยกลางคนจำนวนมากบ้างก็มีกระดาษวางอยู่หนึ่งแผ่นบ้างก็หนึ่งปึก ข้างบนมีรูปถ่ายและข้อมูลพื้นฐานของคนที่จะนัดดูตัว
มีคนคิดว่าการหาคู่ต้องอาศัยวาสนา แค่กระดาษพิมพ์สีใบเดียวก็ถือว่าสิ้นเรื่องแล้ว ยังมีบางคนที่จัดทำข้อมูลของลูกเป็นหนังสือปกแข็ง ข้างในมีภาพถ่ายศิลปะควบคู่กับประวัติที่ยาวเหยียด
กงจื่อโยวที่มีหน้าตาโดดเด่น เขาเพิ่งจะเดินผ่านก็ดึงดูดสายตาผู้คนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
หนึ่งในนั้นเป็นป้าที่ท่าทางดูร่ำรวยคนหนึ่งกอดหนังสือปกแข็งตาเป็นประกาย เขยิบเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มสดใส
“แค่ดูก็รู้แล้วว่าต้องเป็นหนุ่มหน้าตาดีที่ถูกผู้หญิงมีเงินเลี้ยงดู เหลือเกินจริงๆ ไม่มีอะไรทำแล้วมาที่มุมนัดดูตัวทำไม”
กงจื่อโยว “......”
โลกกำลังเสื่อมโทรม ใจคนก็เสื่อมถอยลงจริงๆ
เขาเป็นถึงท่านอ๋องจินผู้มั่งคั่งแห่งแคว้นต้าโจว คิดไม่ถึงว่าจะมีวันที่ถูกคนอื่นมองว่าเป็นผู้ชายขายบริการ
กงจื่อโยวเศร้าใจมาก เสวียนจีที่อยู่ข้างๆมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น หัวเราะจนงอหาย
แม้แต่เฟิ่งเหมียนยังสะกดกลั้นความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่ ดวงตามีแววยิ้มขำ
แต่แล้วรอยยิ้มของเขาคงอยู่ได้ไม่นาน คุณป้าที่ดูร่ำรวยคนเมื่อครู่ได้เดินมาข้างกายเขา
“พ่อหนุ่ม เธออายุเท่าไหร่แล้ว ที่บ้านมีใครบ้าง แต่งงานหรือยัง”
มีเสียงกระซิบจากคนรอบข้าง “เธอดูคนข้างๆสิ ท่าทางไม่เลว ดูไม่เหมือนผู้ชายขายบริการ”
พูดจบ ก็ล้อมวงเข้าไป
ไม่ช้าเฟิ่งเหมียนก็พบกับสถานการณ์ที่ถูกห้อมล้อมพูดคุยเหมือนกงจื่อโยวเมื่อครู่นี้ รอยยิ้มแข็งค้างไปทันที
แต่มีตัวอย่างก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ช้าเขาก็พูดคล้อยตามสถานการณ์ “เป็นคนนอกพื้นที่ ปีนี้อายุยี่สิบแปด เป็นลูกคนเดียว พ่อแม่ยังอยู่ ไม่เคยแต่งงาน ช่วงนี้มาเป็นแขกที่บ้านเพื่อน อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านทิวลิปชั่วคราว”
คนรอบข้างลดความสนใจลงไปกว่าครึ่ง แต่คุณป้าที่ดูร่ำรวยคนนั้นยังคงถามอย่างเป็นกันเองว่า “เป็นคนที่ไหน ที่บ้านทำธุรกิจอะไร”
เฟิ่งเหมียนนิ่งคิด ก่อนจะยิ้มอย่างขออภัย “ผมมาจากบ้านนอก ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึง ที่บ้านเปิดเป็นสถานปฏิบัติธรรม”
ไหนเลยจะคิดว่า สายตาของอีกฝ่ายเป็นประกายขึ้นมาทันที
ผู้คนรอบข้างก็เกิดความสนใจขึ้นมาอีกครั้ง “ที่บ้านเป็นสถานปฏิบัติธรรม ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลย พ่อหนุ่มเธอถ่อมตัวมากไปแล้ว”
คนที่ครอบครัวมีวัดหรือสถานปฏิบัติธรรม เป็นพวกเจ้าพ่อ ประเภทที่มีทรัพย์สมบัติหลายร้อยล้านแน่ๆ
“จุ๊ๆ พ่อหนุ่มมาทำอะไรที่เมืองหลวง มาคุยธุรกิจกับเพื่อนเหรอ”
“เอ่อ......จะว่าอย่างนั้นก็ได้” เฟิ่งเหมียนเผลอมองไปทางเสวียนจีที่อยู่ห่างออกไป “คิดว่าจะเปิดร้านขายของเล่นกับเพื่อน......”
คุณป้าที่ดูร่ำรวยอุทานออกมา “ร้านขายของเล่น ที่แท้เธอก็มีธุรกิจของตัวเองนี่นา”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...