เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1115

“เช่นนั้นก็ดี”

พระเจ้าหลวงจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมา จากนั้นก็หันไปนับห่อของที่ตัวเองจัดเตรียมเอาไว้

อวิ๋นหลิงถามอย่างประหลาดใจว่า “ท่านจะเอาอะไรติดตัวไปด้วย”

“ข้าเอาเสื้อผ้าที่เก็บเอาไว้อย่างดี ปกติไม่กล้าเอาออกมาใส่ ครั้งนี้ไปบ้านเกิดของเจ้า ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อย จะได้ไม่ทำให้เจ้าขายหน้า”

อวิ๋นหลิงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า พระเจ้าหลวงที่ปกติจะเกียจคร้านแต่งตัวรุ่มร่าม วันนี้ไม่เพียงแต่หวีผมอย่างพิถีพิถัน หนวดก็ผ่านการจัดแต่งทรงมาแล้ว

ยังสังเกตเห็นด้วยความตาไวอีกว่า พระเจ้าหลวงตัดแต่งเล็บมือ แม้แต่เศษดินโคลนที่ติดอยู่ตามซอกเล็บก็จัดการทำความสะอาดอย่างหมดจด

นางรู้สึกทำหน้าไม่ถูก มองดูตาแก่น้อยที่มีสีหน้าจริงจัง รู้สึกสบายใจอยู่หลายส่วน

แม้จะเป็นพระเจ้าหลวงที่มีเกียรติสูงส่ง แต่ต่อหน้าพวกนาง อีกฝ่ายเป็นคุณปู่ธรรมดาที่ไม่สามารถธรรมดากว่านี้ได้แล้ว

“ท่านไม่ต้องเหนื่อยยากเรื่องเหล่านี้เลย รอให้ไปถึงทางนั้นแล้ว ข้าจะพาท่านไปซื้อชุดใหม่ เสื้อผ้าที่นั่นสวมใส่แล้วสบายมาก”

“ไม่ช้าก็จะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ถึงตอนนั้นก็เอาเสื้อผ้ากันหนาวมาเยอะหน่อย วันหลังท่านก็ไม่ต้องกลัวหนาวแล้ว”

เซียวปี้เฉิงก็พูดตามขึ้นมาได้ “การกลับไปครั้งนี้ หลิงเอ๋อร์ได้เตรียมวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะพาท่านไปเที่ยวที่ไหน จะซื้ออะไรกลับมา ล้วนจัดทำรายการออกมาหมดแล้ว”

พอพระเจ้าหลวงได้ยินเช่นนี้ ก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที วางห่อของลงก่อนจะพูดว่า “เร็วเข้า รีบเอามาให้ข้าดู”

เมื่อเอารายการไปดูแล้ว ก็พบว่าบนนั้นมีตัวอักษรเขียนเต็มหน้ากระดาษหลายหน้า ลายมือหนักแน่นเป็นระเบียบ

ฝีมือการอักษรพู่กันจีนของอวิ๋นหลิงเหมือนยันต์กันผี ดังนั้นจึงยกให้เป็นหน้าที่ของเซียวปี้เฉิง ตาแก่น้อยหรี่ตาลงเล็กน้อย ดูออกว่าตัวอักษรบนกระดาษนั้นคืออะไร

เพียงแต่ ไม่เข้าใจว่าของเหล่านี้ใช้ทำอะไร

เขาตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง อวิ๋นหลิงอธิบายอย่างอดทนโดยไม่รู้สึกรำคาญเลยสักนิด หนึ่งคนแก่สองคนหนุ่มสาวฆ่าเวลาด้วยเรื่องนี้ อดทนรอช่วงเวลาค่ำคืนที่จะมาถึง

ดวงอาทิตย์ตกดินพระจันทร์เคลื่อนคล้อย เมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่ค่ายกลจะเปิดขึ้นเป็นรอบที่สองแล้ว

อวิ๋นหลิงหอมแก้มของสองพี่น้องถวนถวน เอ่ยกำชับด้วยเสียงอบอุ่นว่า “ตอนที่พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้าน ต้องเชื่อฟังท่านตาเล็กและเหล่าพระสนมในวังหลัง อยู่โรงเรียนอนุบาลก็ต้องเป็นเด็กดี อย่าดื้อรู้ไหม”

ตอนนี้ถวนถวนทั้งสองคนได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนอนุบาลหลวงอย่างเป็นทางการแล้ว ปกติจะมีเหล่านางสนมในวังหลังเป็นคนช่วยดูแล

บวกกับเต้าหวู๋ซินที่มาพำนักอยู่ในวังหลวง อวิ๋นหลิงก็ไม่เป็นกังวลว่าถ้าลูกๆห่างจากพ่อแม่แล้วจะมีปัญหา

บางทีอาจเป็นเพราะงานในราชสำนักยุ่งมาก สองพี่น้องถวนถวนจึงคุ้นเคยกับสถานการณ์ที่ไม่มีพ่อแม่อยู่ข้างกายตลอดเวลาตั้งแต่ยังเล็ก ครั้งนี้เมื่อได้ยินว่าพวกเขาจะเดินทางไกล ก็ไม่มีท่าทีร้องไห้แต่อย่างใด

ฮั่วถวนเชิดอกเล็กๆขึ้นมา กอดคอของอวิ๋นหลิงเอาไว้ หอมไปที่แก้มของนางหลายที

“ท่านแม่วางใจได้ ถวนถวนจะดูแลน้องชายกับน้องสาวอย่างดี ท่านกับท่านพ่อเดินทางอย่างสบายใจเถอะ ถวนถวนเป็นหนุ่มน้อยแล้ว”

เสวี่ยถวนก็พยักหน้าตาม เอ่ยอย่างจริงจังว่า “รอให้ท่านกับท่านพ่อกลับมา ข้าก็ท่องบทกลอนในหนังสือทั้งหมดได้แล้ว”

อวิ๋นหลิงบีบแก้มของเขา “ดี สัญญาแล้วนะ ถ้าเจ้าทำได้ ตอนที่แม่กลับมา จะเอาของเล่นใหม่และของกินเล่นมาให้เจ้าเยอะๆเลย”

“ได้เลย ท่านแม่เยี่ยมที่สุด” ฮั่วถวนร้องขึ้นมาด้วยความดีใจ “เช่นนั้นท่านแม่กับท่านพ่อรีบไปเถอะ จะได้รีบเอาของเล่นกลับมา”

ว่าแล้ว เจ้าตัวเล็กที่แสนฉลาดก็โบกมือให้ เร่งเร้าให้นางรีบไป

เซียวปี้เฉิงพูดยิ้มๆว่า “ไปเถอะหลิงเอ๋อร์ เสด็จปู่รอจนร้อนใจแล้ว แม้แต่ลูกยัง’ไล่’เจ้าแล้ว”

ดังนั้น อวิ๋นหลิงจึงถูกลูกๆ’ไล่’ออกจากตำหนักบูรพาเช่นนี้เอง

สองสามีภรรยาหลิวฉิงและพระเจ้าหลวงได้รออยู่ที่ข้างบ่อน้ำแล้ว

ท้องฟ้าไม่ได้มือสลัวไร้แสงสว่างเหมือนครั้งที่แล้ว แต่มีพระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า ที่เหมือนกันคือปากบ่อมีประกายแสงระยิบระยับเปล่งออกมา

พระเจ้าหลวงแบกห่อผ้าเล็กๆไว้ห่อหนึ่ง กำลังออกกำลังอุ่นร่างกาย เอ่ยอย่างตื่นเต้นดีใจว่า “ในเมื่อมากันครบแล้ว เช่นนั้นข้าก็ไปก่อนแล้วกัน”

พระเจ้าหลวงเบิกตากว้าง “พวกเจ้าไม่ได้จุดตะเกียงน้ำมัน ทำไมในบ้านจึงได้สว่างราวกับเป็นเวลากลางวันเลยเล่า”

อวิ๋นหลิงยิ้มพลางชี้ไปบนฝ้าเพดานและมุมกำแพง “ท่านดู เส้นขาวๆที่เหมือนกันเหล่านั้นเป็นอุปกรณ์ส่องสว่างภายในบ้าน”

“หา นั่นคือไฟหรือ”

พระเจ้าหลวงรู้สึกประหลาดใจมาก ยื่นคอยาวอย่างอยากรู้อยากเห็น เปลี่ยนมุมในการสำรวจดูไปทั่ว

“นี่เป็นของที่ดีมากจริงๆ ถ้าหากพระราชวังสามารถใช้ได้ก็คงจะดี มิเช่นนั้นข้าคงเป็นห่วงพวกเจ้าสองคนที่อยู่แต่ในห้องตำราทุกวันจนดึกดื่น นอนดึกจนตาเสียหมดแล้ว”

“แต่ว่า เหมือนข้าจะเคยได้ยินเจ้าบอกว่า ไฟของที่นี่ไม่ใช่น้ำมัน แต่เป็นไฟฟ้าใช่หรือไม่”

หลังจากตาแก่น้อยรู้สึกตกตะลึงและอิจฉาแล้ว ก็คิดแทนพวกเขาขึ้นมาทันที อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกซาบซึ้งใจ

“มีหลอดประหยัดไฟแบบชาร์จไฟได้ ประเดี๋ยวพวกเราซื้อสักสองสามอันเอาไปใช้ในวังหลวง รูปแบบพลังงานใหม่ชาร์จหนึ่งครั้งสามารถใช้ได้เจ็ดสิบสองชั่วโมง นั่นก็เท่ากับสามวันเต็มๆ”

“วันหน้าหากท่านต้องลุกขึ้นมาช่วงกลางดึก มีอุปกรณ์ส่องสว่างนี้จะทำให้สะดวกมากขึ้น”

พระเจ้าหลวงมีสุขภาพไม่เลว แต่สายตาของเขาไม่ค่อยจะดีนัก ปกติเขาไม่ชอบให้คนมากมายมาคอยปรนนิบัติ ครั้งที่แล้วตื่นขึ้นมากลางดึกและสะดุดเข้ากับกระโถนจนหกล้ม ทำให้พวกเขาตกใจกันมาก

พระเจ้าหลวงยิ้มจนหุบไม่ลง “ดี ดี......”

เขาไม่แม้แต่จะกะพริบตา สังเกตทุกจุดอย่างอยากรู้อยากเห็นมาก

กระทั่งอ้ายเฟยเดินถือถาดที่มีขนมคุกกี้ออกมาจากห้องครัว

“เอ๋ แขกที่รักของฉัน ยินดีต้อนรับ”

ดวงตาของพระเจ้าหลวงเบิกกว้างขึ้นยิ่งกว่าเดิม “มัน มันพูดได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ