“สารอาหารพวกนี้ให้ผลแตกต่างจากปุ๋ย”
อวิ๋นหลิงชี้ไปยังถังไม้เหล่านั้นและพูดอธิบายหลักการให้อู๋อันกงฟังด้วยความอดทน พยายามทำให้ผู้อาวุโสที่มีอายุมากกว่าเจ็ดสิบปีคนนี้เข้าใจความหมายของนาง
“ตัวอย่างเช่นพวกถั่วเหลือง หรือถั่วลิสงซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ที่เป็นพืชน้ำมัน หลังจากต้มจนสุกแล้วทำไปบดใส่ลงไปในถังน้ำมัน เพิ่มน้ำและปิดให้สนิท จากนั้นก็นำไปวางตากแดดจนเกิดการหมัก รอให้เปลี่ยนสีแล้ว ก็จะกลายเป็นปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงมาก”
“อีกอย่างหนึ่งก็คือปลาแม่น้ำที่เรากินกันเป็นประจำ รวมไปถึงพวกกระดูกหมูกระดูกวัวเป็นต้น นำมาทำให้ละเอียดแล้วผสมเครื่องในของปลา ก็สามารถเติมน้ำเพื่อทำให้เกิดการหมักก็ได้”
พวกกระดูกและเกล็ดปลาเหล่านี้ เป็นปุ๋ยฟอสฟอรัสอย่างดี ยังมีแคลเซียมผสมอยู่ด้วย
คำพูดของอวิ๋นหลิงทำให้อู๋อันกงฟังแล้วไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคที่จะฟังอย่างยินดีและสนใจเป็นอย่างยิ่ง มีชีวิตอยู่มาจนป่านนี้ เขายังไม่เคยได้ยินเรื่องปุ๋ยที่แปลกประหลาดน่าอัศจรรย์เช่นนี้มาก่อน
“นางหนูหลิง เรื่องพวกนี้เจ้าไปเรียนมาจากไหน”
อวิ๋นหลิงย่อมไม่ได้บอกเขา ถ้าหากเป็นยุคปัจจุบัน เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งพื้นฐานที่พวกลุงๆป้าๆที่ชอบปลูกดอกไม้เขาทำกัน
“เมื่อก่อนเศษอาหารเศษกระดูกที่กินเหลือข้ามักจะเทไว้ในสวนดอกไม้ พอนานวันเข้าก็พบว่าดอกไม้นั้นเจริญเติบโตได้ดีกว่าบริเวณอื่นๆ”
อู๋อันกงพยักหน้าด้วยความเข้าใจขึ้นมาทันที “นางเด็กคนนี้ ดูไม่ออกเลยว่าจะละเอียดอ่อนขนาดนี้ แต่อาหารกินเหลือก็ควรจะนำไปเลี้ยงแมวเลี้ยงหมามิใช่หรือ ทำไมจึงเอาไปใส่ให้ดอกไม้เหล่า”
อวิ๋นหลิงมุมปากกระตุก เบี่ยงประเด็นสนทนา
“อู๋อันกง ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะปรึกษากับท่านมาตลอด ข้าอยากจะเปิดร้านยาในเมืองหลวง”
ชายฉลาดเป็นคนฉลาด เข้าใจความหมายของอวิ๋นหลิงทันที เขาโบกมือพลางพูดว่า “เจ้าสามเจ้าเด็กนั่นได้บอกกับข้าตั้งหลายครั้งแล้ว เจ้าอยากจะยืมชื่อของข้า เพื่อขายโสมหิมะน้ำค้างหยกที่ทำเลียนแบบขึ้นมา”
อวิ๋นหลิงเผยรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว “ในเมื่อท่านรู้แล้ว เช่นนั้นข้าก็ไม่ปิดบังอ้อมค้อมแล้ว”
นางเคยลองแนะนำเหล่าฮูหยินผู้สูงศักดิ์และคุณหนูทั้งหลายให้ลองใช้โสมหิมะน้ำค้างหยกที่ทำเลียนแบบขึ้นมา แต่ประสบการณ์จากงานแข่งเรือในเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างบอกกับนางว่า ผลที่ได้ไม่ดีนัก
เหตุผลที่ใหญ่ที่สุดคือ เพราะชื่อเสียงของฉู่อวิ๋นหลิงในเมืองหลวงนั้นเน่าเฟะเกินไป ฮูหยินและคุณหนูเหล่านั้น ส่วนมากต่างก็ไม่อยากจะสนทนาพาทีกับนาง
แม้ว่าตอนนี้ชื่อเสียงของนางจะดีขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ฉู่อวิ๋นหลิงที่เป็นเจ้าของร่างเดิมถูกเรียกว่าเป็นหญิงที่อัปลักษณ์ที่สุดในเมืองหลวงมาถึงสิบเจ็ดปี ภาพลักษณ์ที่ไร้ซึ่งคุณธรรมและความสามารถได้ฝังลึกอยู่ในความทรงจำไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายในชั่วพริบตา
ก่อนหน้านี้ต้องเสียเวลาพูดมากมายกว่าจะขายได้เกือบสิบขวด แต่กลับไม่มีลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำเลยสักคน
มีแต่สาวโง่อย่างหรงฉานเท่านั้นที่เอาแต่มาเซ้าซี้จะซื้อยากับนาง
เส้นทางของการเป็นเศรษฐีของอวิ๋นหลิงยังไม่ทันจะก้าวพ้นก้าวแรก ก็ต้องมาสะดุดกับอุปสรรคใหญ่
แต่ถ้าหากมีอู๋อันกงก็จะไม่เหมือนเดิม
อวิ๋นหลิงมองชายชราที่ไม่โกนหนวดดูไม่เป็นระเบียบคนนี้ด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่หวังชื่อเสียงเงินทอง ถ้าหากสามารถใช้ชื่อเสียงของอู๋อันกงในการขายยาเหล่านี้ ข้ายินดีจะแบ่งกำไรหนึ่งส่วนให้ท่าน”
อู๋อันกงค่อยๆส่ายหน้า “เรื่องนี้เจ้าไม่พูด ข้าก็ต้องช่วยเจ้า หลายปีมานี้เจ้าสามทำอะไรบ้าง ข้าเองก็รู้ดีแก่ใจมาตลอด”
เขารู้ว่าเซียวปี้เฉิงขาดสนเงินทอง ขัดสนมากด้วย
เหล่าทหารของแคว้นต้าโจวที่ออกรบจนได้รับบาดเจ็บหรือตายแต่ละปียากจะรวบรวมได้ แต่หลังจากที่พวกเขาถอยออกมาจากสนามรบ มักจะไม่ได้รับการดูแลที่ดีนัก
คนเหล่านั้นล้วนเคยเป็นผู้กล้าที่ยอมพลีชีพเพื่อแคว้นต้าโจว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรทอดทิ้งพวกเขาโดยไม่สนใจ
“ข้าไม่ขัดสน และไม่ต้องใช้เงิน สิ่งของนอกกายเหล่านี้ ตอนเกิดไม่ได้นำมาตอนตายก็นำไปไม่ได้ เจ้ากับเจ้าสามนำไปบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนแคว้นต้าโจวก็พอ”
อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยากออกมาอีกครั้ง “อู๋อันกงช่างมีคุณธรรมสูงส่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...