สรุปเนื้อหา ตอนที่ 113 ไม่จำเป็นต้องปลอมตัวต่อไปแล้ว – พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali
บท ตอนที่ 113 ไม่จำเป็นต้องปลอมตัวต่อไปแล้ว ของ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Anchali อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
“พระชายาเหมาะสมกับสีแดงเช่นนี้มาก ให้ข้าช่วยท่านมวยผมนะเพคะ”
ก่อนที่แม่นมเฉินจะถูกส่งไปรับใช้พระเจ้าหลวง ก็เคยเป็นคนที่คอยช่วยเหล่านางสนมในวังทำผมโดยเฉพาะ มีฝีมือที่น่าทึ่งมากทีเดียว
ตงชิงที่อยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า “เอ๋ แม่นมเฉิน มวยผมทรงนี้ที่ท่านทำงดงามแปลกใหม่มากเลยเจ้าค่ะ แต่ดูไม่ค่อยเหมือนอย่างที่ชาวแคว้นต้าโจวชอบทำกัน”
แคว้นต้าโจวทำศึกอยู่เสมอไม่ว่างเว้น ทรงผมของเหล่าหญิงสาวในเวลาปกติก็จะเรียบง่ายสบายๆ ทรงผมที่แม่นมเฉินทำให้อวิ๋นหลิงนั้นจะมีความประณีตกว่า แต่ก็ไม่ซับซ้อน
แม่นมเฉินยิ้ม “เจ้านี่มันสายตาไม่เลวเลย นี่เป็นทรงผมที่ได้รับความนิยมมากในวังของแคว้นเป่ยฉิน เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน”
นางทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย นำมารวมกับทรงผมที่หญิงสูงศักดิ์แห่งแคว้นต้าโจวชอบทำกัน ทำให้ดูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร และไม่ละทิ้งเสน่ห์แบบดั้งเดิมของแคว้นต้าโจวด้วย
อวิ๋นหลิงมองกระจก นำผ้าคลุมใบหน้าโปร่งแสงสีเดียวกันขึ้นมาสวม ในกระจกทองแดงสะท้อนดวงตางดงามคู่หนึ่ง ดวงตาไหวระริก
“แม่นมเฉินเคยไปแคว้นเป่ยฉินหรือ”
“ข้า.....ตอนเด็กๆเคยใช้ชีวิตอยู่ที่แคว้นเป่ยฉินช่วงหนึ่ง”
แม่นมเฉินมองทรงผมของนาง ในสายตามีแววคิดถึงวาบผ่าน ไม่ช้าก็กลายเป็นแววหม่นหมองโศกเศร้า แค่แวบเดียวเท่านั้น
นอกประตู ลู่ฉีร้อนใจจนอดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้นมาว่า “พระชายาพ่ะย่ะค่ะ อีกนานหรือไม่กว่าท่านจะเสร็จ รถม้าที่วังหลวงส่งมารออยู่ที่หน้าประตูนานแล้ว”
ผู้หญิงช่างยุ่งยากจริงๆ ทำผมประแป้งทุกวัน ต้องเสียเวลากว่าครึ่งชั่วยาม ถ้ามีเวลาทำเรื่องพวกนี้ ไม่สู้ไปนอนพักผ่อนไม่ดีกว่าหรือ
อีกอย่างลู่ฉีคิดว่า ด้วยใบหน้าเช่นนั้นของพระชายา แม้ว่านางจะแต่งอย่างไรก็เหมือนเดิม......
แน่นอน คำพูดนี้เขาไม่กล้าจะพูดออกมา
“ออกมาเดี๋ยวนี้แหละ”
อวิ๋นหลิงลุกขึ้นมาจัดระเบียบกระโปรง กำลังจะก้าวออกจากประตู นึกอะไรบางอย่างได้ก็กลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง นำขนมกุ้ยฮัวทั้งสองจานเทลงไปในถุงผ้า เหน็บเอาไว้ที่เอว
เหลืออีกสองชิ้นใส่เข้าไปไม่ได้ นางก็นำมาห่อไว้ที่ผ้าเช็ดหน้า
“พระชายา ในที่สุดท่านก็......”
อวิ๋นหลิงเพิ่งจะก้าวออกมายังลานบ้าน ลู่ฉีเพิ่งจะตะโกนขึ้นมาได้ครึ่งประโยคก็ต้องชะงักค้างไปทันที เขาเบิกตากว้าง มองอวิ๋นหลิงอย่างคาดไม่ถึง
นี่ยังใช่พระชายาของพวกเขาที่ครึ่งหนึ่งของใบคล้ายผี อัปลักษณ์จนน่าตกใจหรือไม่ ผ้าคลุมหน้าปกปิดปานบนใบหน้าเอาไว้ มองแวบแรก เหมือนเทพธิดาที่ลงมาจากสวรรค์
มีเสี้ยววินาทีหนึ่ง ลู่ฉีกระทั่งสงสัยว่าคนที่เดินออกมาจากในเรือนคือคนอื่น
“เจ้าชอบกินขนมกุ้ยฮัวมากมิใช่หรือ สองชิ้นนี้เป็นรางวัลของเจ้า”
อวิ๋นหลิงยื่นผ้าเช็ดหน้าที่ห่อขนมกุ้ยฮัวเอาไว้ให้เขา ลู่ฉีกลับไม่ยอมรับไป นางเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ยกมือขึ้นดีดไปที่ศีรษะของเขาทีหนึ่ง
“อุ๊ยโอ้ย”
ลู่ฉีรู้สึกเจ็บ กุมศีรษะเอาไว้ได้สติคืนมาทันที มองอวิ๋นหลิงด้วยอาการแยกเขี้ยวยิงฟัน
แรงเยอะขนาดนี้ ต้องเป็นพระชายาแน่ไม่ต้องสงสัย
จนถึงตอนนี้เขายังจำวันที่สองที่พระชายาแต่งงานเข้ามาในจวนได้ดี ไม่รู้ว่าทำไมจึงตบท่านอ๋องไปสองที
รอยฝ่ามือ ใช้เวลาสองวันเต็มๆจึงจะหายไป
“ยังจะยืนบื้ออยู่ทำไม รับไปซิ”
“ออ ออ......”
ไม่ง่ายเลยกว่าลู่ฉีจะเคลื่อนสายตาตกตะลึงออกจากใบหน้าของอวิ๋นหลิง กำลังจะยื่นมือไปรับผ้าเช็ดหน้า จู่ๆสีหน้าก็เปลี่ยนไป กระโดดตัวลอยถอยห่างออกไป แค่ชั่วพริบตาก็ออกห่างจากอวิ๋นหลิงมากกว่าห้าเมตร
“นี่ๆๆ.....นี่มันขนมกุ้ยฮัว ข้าน้อยไม่เอา”
ใช้คุณสมบัติพิเศษเช่นนี้ ตอนที่องค์การทำการฝึกฝนพวกนาง ปกติแล้วจะใช้การลงโทษด้วยการให้ทนหิวเป็นหลัก
ความรู้สึกเช่นนั้นมันทรมานมาก
“ทั้งขาไปและกลับ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสามชั่วยาม ไม่เตรียมของว่างรองท้องสักหน่อยคงไม่ได้”
งานเลี้ยงในวังหลวงมีอาหารดีๆมากมายวางอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับไม่สะดวกที่จะกินอาหารเหล่านั้นเพราะสวมผ้าคลุมหน้าได้แต่นั่งมองเฉยๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเสียเปรียบ
พอเซียวปี้เฉิงคิดได้ สีหน้าก็มีแววเจ็บปวดขึ้นมาแวบหนึ่ง “เป็นข้าที่ละเลยเจ้า ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก ควรจะให้แม่นมเตรียมกล่องอาหารให้เจ้า ใส่พวกของว่างกับกับข้าวเล็กๆน้อยๆไป”
“ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น มีขนมกุ้ยฮัวพวกนี้รองท้องก็พอแล้ว”
นางไม่เลือกกิน แค่ไม่ต้องทนหิวก็พอ
เซียวปี้เฉิงกลับรู้สึกไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย ดวงตามองไปที่ใบหน้าของอวิ๋นหลิง อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ปานบนใบหน้าของเจ้ายังต้องปลอมไปถึงเมื่อไหร่”
“ทำไม รังเกียจที่ข้าขี้เหร่ ทำท่านขายหน้าหรือ”
“ย่อมไม่ใช่ เพียงแต่เจ้าใช้ใบหน้านี้ ทำให้ทำงานไม่สะดวก”
อีกทั้งยังต้องทนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร้เหตุผลกับสายตาที่มองมาอย่างแปลกประหลาด ครั้งที่แล้วตอนงานแต่งงานของรุ่ยอ๋อง เขาก็ต้องกล้ำกลืนไฟโทสะเอาไว้ แทบอยากจะตัดลิ้นของพวกที่พูดจาเรื่อยเปื่อยเหล่านั้นออกมาให้หมด
ริมฝีปากที่อยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าโค้งขึ้น “ที่ข้ายังต้องรักษาใบหน้าปลอมเอาไว้ เดิมทีเพราะคิดว่าข้านั้นอยู่ในที่แจ้ง ส่วนคนที่วางยาพิษอยู่ในมุมมืด เกรงว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นจึงจำเป็นต้องทำเช่นนี้”
“แต่เรื่องมาจนถึงป่านนี้แล้ว......ในเมื่อแน่ใจแล้วว่าพิษนี้มีที่มาอย่างไร อีกทั้งสถานะของคนที่วางยานั่น ก็ไม่มีเหตุผลที่จำเป็นต้องใช้ใบหน้าปลอมอีกต่อไปแล้ว”
สองสามวันนี้อวิ๋นหลิงก็เคยคิด หลังจากเกิดเรื่องกลิ่นสลายวิญญาณ นางก็ไม่คิดจะปลอมตัวอีกต่อไป ไม่เช่นนั้นการแต่งแต้มบนใบหน้าทุกวันก็ลำบากมาก
“เพียงแต่ใบหน้าข้าจะหายดีในชั่วพริบตาก็ไม่สมเหตุสมผล เลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้คนอื่นประหลาดใจ ดีที่อู๋อันกงกลับมาแล้ว ผ่านไปอีกสักพักข้าจะบอกกับคนภายนอกว่า เป็นเขาที่หายาที่มีฤทธิ์อัศจรรย์กลับมา รักษาปานบนใบหน้าข้าจนหายดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...