เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1120

พระเจ้าหลวงตบต้นขาทีหนึ่ง “โธ่เอ๊ย! ไม่ต้องเกรงใจ เสี่ยวเทียนมากับลุง เดี๋ยวลุงจะพาไปดูเอง!”

เขายังชมชอบชายหนุ่มคนนี้ที่เป็นคนร่าเริง มีอารมณ์ขัน พูดเก่ง และเป็นกันเอง เวลานี้มีคนหนุ่มสาวที่คุยเก่งและเต็มใจจะพูดคุยกับผู้สูงอายุอย่างฉีเทียนเหอไม่มากนัก

พระเจ้าหลวงเป็นคนชอบความครึกครื้นและช่างพูด แต่บรรดาคนรุ่นเยาว์ในวังก็มีชีวิตเป็นของตัวเองและงานราชการยุ่งรัดตัว ยามปกติเขามักจะรู้สึกเบื่อหน่าย ก็จะไปพูดคุยกับผู้คนที่ถนน

เมื่อได้พูดคุยกับชายหนุ่มผมขาวคนนี้เพียงครึ่งชั่วโมง เขาก็เกิดนึกชมชอบ และรู้สึกว่าถูกชะตา

อีกฝ่ายมีนิสัยร่าเริงสดใส คนก่อนหน้านี้ที่มีนิสัยเช่นนี้ก็คือลูกสาวของตาเฒ่าเฟิง

ในห้องครัว ขณะหลงเย่กำลังปรุงน้ำซุปก็อ่านเสียงความคิดของฉีเทียนเหอไปด้วย

“บ้านพักหลังนี้ดูแล้วก็ไม่มีอะไรพิเศษ แล้วจะเกิดพลังงานแปรปรวนได้อย่างไร...เขารู้อะไรบางอย่างจริงๆ!”

เมื่อเห็นฉีเทียนเหอเอ่ยอยากดูสวนดอกไม้ด้านหลัง พระเจ้าหลวงก็พาเขาออกไป เซียวปี้เฉิงก็ใจหายวาบ

“ข้าจะไปเฝ้าดูเสด็จปู่!”

เขากังวลว่าชายผมขาวที่ไม่ทราบที่มาผู้นี้จะเป็นตัวอันตราย เขาจึงรีบเดินออกจากครัว

หลงเย่มองผ่านหน้าต่างไปก็เห็นฉีเทียนเหอเดินตรงไปยังแปลงดอกไม้ เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “น้องเขยสาม เจ้าจับเขาไว้ทันที อย่าปล่อยให้เขาเข้าใกล้ค่ายกล!”

ในสวนดอกไม้ด้านหลัง ฉีเทียนเหอและพระเจ้าหลวงกำลังเดินพลางพูดคุยและหัวเราะ

“เป็นแปลงดอกไม้ที่ใหญ่โตมาก ที่นี่ปลูกดอกไม้อะไรบ้างครับ”

เขาพูดแบบสบายๆ แสร้งทำเป็นอยากรู้อยากเห็นแล้วเดินไปใกล้แปลงดอกไม้ ดูเหมือนสองมือสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่ในใจเขารู้สึกงุนงงมาก

ทั้งที่ตอนอยู่ใกล้ที่นี่เมื่อคืนนี้ จี้หินอุกกาบาตนั้นร้อนมากชัดๆ แต่ทำไมเมื่ออยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาจึงไม่ตอบสนอง

ระหว่างคิด ฉีเทียนเหอก็รู้สึกว่าแขนถูกคนจับไว้อย่างเจ็บปวดทันที แล้วเขาก็ทรุดล้มลงกับพื้นหมุนไปรอบๆ ต่อหน้าต่อตา

ก่อนที่พระเจ้าหลวงจะนึกถึงเหตุผลจะห้ามฉีเทียนเหอไม่ให้เข้าใกล้แปลงดอกไม้ ก็เห็นเขาถูกเซียวปี้เฉิงจับกดไหล่ลงไปที่พื้น จากนั้นก็เบิกตากว้างทันที

“เจ้าสาม นี่เจ้าจะทำอะไร”

“โอ๊ย แม่งเอ๊ย! ซี้ด...พี่ชายทำแบบนี้หมายความว่าไง”

ฉีเทียนเหอร้องด้วยความเจ็บปวด มองชายหน้าดำหล่อเหลาที่อยู่ข้างๆ ด้วยความมึนงง ดวงตาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่

ใบหน้าของเซียวปี้เฉิงเย็นชาดุดัน บีบแขนอีกฝ่ายไว้อย่างไร้ความปรานี

“บอกมา! ใครส่งคุณมาที่นี่ คุณจงใจเข้าใกล้ที่นี่มีจุดประสงค์อะไร”

“โอ๊ยโย่ๆๆๆ...พี่ชายเบาๆ หน่อยสิ! แขนผมจะหักอยู่แล้ว!”

ฉีเทียนเหอกัดฟันด้วยใบหน้าเจ็บปวด บิดตัวดิ้นรนอยู่บนพื้นเหมือนหนอนผีเสื้อสีแดง

เซียวปี้เฉิงขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกว่าตัวเขาไม่มีทั้งวรยุทธ์หรือพลังจิต ในใจก็รู้สึกนึกฉงนเล็กน้อย

นักฆ่าคนนี้ไม่มีฝีมือเลยสักนิด ทำไมถึงกล้าบุกเข้าถ้ำเสือขนาดนี้

เมื่อนึกถึงว่าบนถนนในโลกนี้ดูเหมือนจะมีสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ทุกหนทุกแห่ง เขาก็ไม่พูดมากความอีก ฉวยโอกาสนี้ลากฉีเทียนเหอกลับไปที่บ้านพักตรงหน้าก่อน

“ไม่ได้นะ นี่พวกคุณจะทำอะไร ลักพาตัวเรียกค่าไถ่เหรอ”

“แม่งเอ๊ย! ฉันคงไม่โชคร้ายถึงขนาดต้องเข้าไปอยู่ในรังโจรหรอกใช่ไหม”

“นี่ๆๆ พี่ชายอย่าได้คิดมากเลย อย่าคิดว่าจะแบล็กเมล์เพราะผมได้รับมรดกของตระกูลฉี อย่าลืมว่าผมเป็นลูกนอกสมรส! ลูกนอกกฎหมาย!”

“ถ้าคุณโทรหาคนตระกูลฉีละก็ พวกเขาจะไม่มีวันเอาเงินมาจ่ายค่าไถ่ผม คงอยากให้ตัวประกันอย่างผมถูกฆ่าตายซะมากกว่า…”

“...ผมจะเป็นใครได้อีก ผมชื่อฉีเทียนเหอไง? ไม่นะ พี่สาวคนนี้ หรือว่าไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าผมเป็นใคร ก็บุ่มบ่ามลักพาตัวกักขังกันซะแล้วเหรอ”

ฉีเทียนเหอมึนงงกับการกระทำของอีกฝ่าย ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

พูดตามตรง ในฐานะคุณชายตระกูลร่ำรวยระดับสูง เขาถูกพวกอันธพาลเอาปืนชี้ใส่ไม่ใช่ครั้งสองครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกกระบี่เล่มใหญ่ชี้ไปที่คอ

ต้องบอกว่าวิธีลักพาตัวแบบนี้เจ๋งจริงๆ

หลงเย่ไม่มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนและเป็นมิตรบนใบหน้าอย่างเมื่อครู่แล้ว ก่อนจะพูดตรงประเด็น “เลิกแสร้งทำเป็นสับสน คุณจะไม่ลองใช้วิธีถามจี้พวกเราหน่อยเหรอ เห็นเมื่อกี้คุณเอ่ยถึงพลังงานแปรปรวน จะสื่อถึงอะไร”

ทันใดนั้นฉีเทียนเหอก็ลืมตาขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ และจ้องมองไปที่เธอ

เขาคิดว่าตอนที่ตัวเองพูดคุยอยู่นั้นก็ไม่ได้ปากโป้ง แล้วพี่สาวเหล่านี้รู้ได้ยังไงว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่าในโลกนี้จะมีวิชาอ่านใจ?

ราวกับได้ยินเสียงพึมพำภายในใจของฉีเทียนเหอ หลงเย่ก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นไปได้ทั้งนั้น ดังนั้นคุณควรบอกความจริงอย่างตรงไปตรงมาซะเถอะ จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว”

ฉีเทียนเหอใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะตั้งสติได้ ทันใดนั้นเขาก็ปวดหัวแทบระเบิด

“ให้ตายเถอะ ผมเจอเทพเซียนอะไรหรือเปล่าเนี่ย หยุดๆๆ...พี่สาว โปรดขยับมีดเชือดหมูออกไปที ผมได้รับการเลี้ยงดูเอาอกเอาใจจนเคยตัว ผิวหนังที่บอบบางเนียนนุ่มทนทรมานไม่ไหวหรอก”

“บอกแล้วบอกแล้ว! ผมอธิบายทุกอย่างเลย จริงๆ แล้วผมรู้สึกถึงพลังงานแปรปรวนจึงมาบ้านหลังนี้โดยเฉพาะ แค่อยากจะมาดูลาดเลาเฉยๆ ไม่มีเจตนาร้ายกับพวกคุณแต่อย่างใด...”

“เดี๋ยวก่อน จะว่าไป ทำไมพวกคุณถึงรู้พลังงานแปรปรวนด้วยล่ะ”

ฉีเทียนเหอรู้สึกว่าสมองของเขาสับสนไปหมด อยากจะถามพวกอวิ๋นหลิงมากกว่า

เวลานี้เอง พระเจ้าหลวงเดินลากรองเท้าแตะเข้ามา แล้วเบียดเสียดตรงเข้าไปในฝูงคน

“เสี่ยวเทียน รู้จักซ่านซิงด้วยหรือ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ