เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1122

ผ่านไปหลายปี พระเจ้าหลวงก็ได้รับข่าวเกี่ยวกับเฟิงซ่านซิงในห้วงแห่งกาลเวลาที่แปลกประหลาดนี้ เขารู้สึกตื่นเต้นเหลือแสนจนดึงฉีเทียนเหอมาถามคำถามตั้งมากมาย

หลังจากที่ฉีเทียนเหอสงบลง เขาก็ปัดฝุ่นบนเสื้อผ้าออก สีหน้าไร้กังวลก็กลายเป็นจริงจังทันที

“ทุกท่านในที่นี่ ขอผมแนะนำตัวเองอีกครั้ง”

“ผมชื่อฉีเทียนเหอ เป็นคนตระกูลฉีครอบครัวแพทย์นั้นใช่เลย แต่ไม่ใช่หลานชายของฉีไหวเซิง ผมมาจากปี 3223 ก็คือหนึ่งพันปีต่อมา ผมเป็นผู้สืบทอดรุ่นที่สามสิบแปดของตระกูลฉี”

กงจื่อโยวอ้าปากกว้างเท่าไข่ไก่ทันที เขาก็ตกใจทำหน้าเหมือนอิโมติคอนหมีหัวแพนด้า

“คุณ คุณ คุณ...คุณกำลังพูดอะไร! คุณมาจากโลกหลังจากนี้หนึ่งพันปีหรือ คุณเป็นลูกของป้าเฟิงไม่ใช่หรือ พวกคุณก็มีวิชาทะลุมิติข้ามกาลเวลาได้ด้วยหรือ”

ไม่ต้องพูดถึงความไม่อยากจะเชื่อของกงจื่อโยว แม้แต่อวิ๋นหลิงก็ยังตกตะลึง

การทะลุมิติข้ามกาลเวลาเป็นเรื่องที่แม้แต่ผู้มีพลังจิตแข็งแกร่งก็ยังทำได้ยาก แล้วฉีเทียนเหอทำสำเร็จได้ยังไง

ฉีเทียนเหออธิบายว่า “ผมนั่งยานอวกาศมาที่นี่ แต่ไม่คิดว่าจะเจอฝนดาวตก การรบกวนของสนามแม่เหล็กทำให้ยานอวกาศพัง ตอนที่ปีนหลบหนีออกจากยาน ก็มาปรากฏตัวที่นี่”

หลงเย่ฉุกนึกถึงข่าวล่าสุดได้ทันที เกี่ยวกับเหตุการณ์ ‘ยูเอฟโอ’ ตกในป่าเยี่ยนเจียวของเมืองหลวงเมื่อไม่นานมานี้ที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา

“ที่แท้ยานอวกาศในข่าวเกี่ยวข้องกับคุณนี่เอง…”

หลิวฉิงเดาะลิ้น “เทคโนโลยีในอีกหนึ่งพันปีก้าวหน้าไปมากขนาดนี้เลยหรือ ทำให้ผู้คนทะลุมิติข้ามกาลเวลาได้ตามต้องการใช่หรือไม่”

หมายความว่าทุกคนมีความสามารถพิเศษเหมือนกับท่านพ่อหวู๋ซินหรือเปล่า

ฉีเทียนเหอเบ้ปาก แล้วพูดอย่างกลุ้มใจ “ไม่แน่หรอก ไม่งั้นตอนนี้ผมควรจะอยู่ในเมืองจินหยางของซีโจว ไม่ใช่ที่นี่! ที่รอดมาได้เพราะดวงแข็งล้วนๆ”

ส่วนกู้ฉางเซินจับประเด็นสำคัญจากข้อมูลที่กระจัดกระจาย “ที่คุณพูดเมื่อครู่นี้จะสื่อว่าคุณมาจากอนาคตหนึ่งพันปี และป้าเฟิงอาศัยอยู่ในโลกอีกหนึ่งพันปีข้างหน้า ได้คลอดคุณให้กับตระกูลฉีใช่หรือไม่”

พระเจ้าหลวงยืนเฉยๆ อยู่ด้านข้าง CPU ในสมองหยุดหมุนไปแล้ว ข้อมูลที่สับสนมากเกินไปทำให้ระบบความคิดของเขาเกิดความปั่นป่วน

ฉีเทียนเหอกวาดตามองพวกเขาแวบหนึ่ง แล้วถอนหายใจ “นั่งลงแล้วค่อยๆ พูดกันเถอะ”

เขารู้ว่าในใจทุกคนมีความสงสัยนับไม่ถ้วน เขาเองก็เช่นกัน แต่ก่อนจะหาคำตอบ เขาเลือกที่จะอธิบายก่อน

“แม่ผมชื่อเฟิงซ่านซิง คนที่รู้จักแม่จะบอกว่าแม่เป็นหญิงสาวที่ไม่เข้ากับคนรอบข้าง พอผมโตขึ้นก็ได้เห็นสมุดบันทึกที่แม่ทิ้งไว้ จึงรู้ว่าแม่ทะลุมิติมาจากสมัยโบราณอันห่างไกลมาก”

“ปีนั้นตอนที่พ่อผมเรียนจบปริญญาโท ได้ยินว่าในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนจะมีฝนดาวตกครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบหนึ่งพันปี จึงชวนเพื่อนๆ ไปตั้งแคมป์ชมดาวบนภูเขา ตอนนั้นเขาก็ได้พบกับแม่ผม...”

ในปีนั้นเฟิงซ่านซิงอายุสิบแปดปี เพิ่งเดินออกจากกรงในเมืองหลวงอย่างอิสระราวกับนกที่ไร้กังวล

นางอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลกภายนอกมาตั้งแต่เด็ก ชอบอ่านบันทึกการเดินทางเกี่ยวกับภูเขาแม่น้ำ โหยหาความรักแนวกำลังภายในของหนุ่มสาวในยุทธภพอย่างในหนังสือนวนิยาย

เฟิงซ่านซิงได้รับการศึกษาจากตระกูลขุนนางด้วยความรัก แตกฉานทั้งพิณ หมากล้อม พู่กัน และวาดภาพสารพัดอย่างนอกจากนี้ยังเชี่ยวชาญทั้งขี่ม้าและวิทยายุทธ์อีกด้วย

หลังจากปฏิเสธความคาดหวังของพระเจ้าหลวง นางก็สะพายกระบี่ใช้ชีวิตด้วยการอาศัยบุญคุณความแค้นท่องไปทั่วแดน

ไม่นานพวกเขาก็ตกหลุมรักกัน

“แต่ว่าในไม่ช้าปู่ย่าก็เจอแม่ผม และต่อต้านเรื่องนี้อย่างมาก”

รอยยิ้มตรงมุมปากของฉีเทียนเหอจางหายไป แววตาที่สดใสเจิดจ้าราวกับดวงดาวก็เศร้าหมองเล็กน้อย

“ถึงแม่ผมจะอาศัยเสน่ห์และความสามารถของตัวเองทำเรื่องที่กล้าหาญและผดุงความยุติธรรมมาหลายครั้ง ได้ปรากฏตัวในรายการวาไรตี้และข่าวมากมาย กลายเป็นไอดอลที่ผู้คนมากมายรักชื่นชอบ แต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับจากตระกูลฉี”

“เพราะว่าสถานะของแม่ผมในโลกนั้นเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อแม่กับไม่มีภูมิหลังครอบครัว และปู่ย่าผมก็หวังให้พ่อผมแต่งงานกับลูกสาวของครอบครัวแพทย์อีกตระกูลหนึ่ง”

แม้ว่าตระกูลฉีจะเป็นตระกูลแพทย์ที่ร่ำรวย แต่หลังจากผ่านไปหลายชั่วอายุคน ลูกๆ ก็มีส่วนร่วมในธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่พ่อของเขาก็ยังเรียนด้านการจัดการธุรกิจด้วย

ตระกูลฉีมีกฎประจำตระกูลว่า แต่ละรุ่นจะต้องมีลูกที่มีพรสวรรค์อย่างน้อยหนึ่งคนที่ศึกษาวิชาแพทย์จะดีที่สุด เพื่อสืบสานมรดกของตระกูลฉี

บังเอิญว่ารุ่นของพ่อฉีโม่เสวี่ย มีลูกเพียงคนเดียว แต่เพื่อสืบทอดธุรกิจครอบครัวขนาดใหญ่ เขาจึงไม่สามารถประกอบอาชีพแพทย์ได้ ดังนั้นญาติผู้ใหญ่จึงตัดสินใจเกี่ยวดองกับตระกูลแพทย์อีกตระกูลหนึ่ง

การผสมผสานระหว่างผลประโยชน์กับอำนาจคือความจริงที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่พันปีก็ตาม

“เพื่อตัดความเป็นไปได้ระหว่างพวกเขา ปู่ย่าถึงกับพูดต่อหน้าสื่อทีวีว่า ไม่ว่ายังไงก็ตามจะไม่ยอมรับการแต่งงานของแม่ผม พูดตรงๆ เลยว่าแม่ผมไม่คู่ควรกับพ่อ”

ฟังถึงตรงนี้ ตาแก่น้อยที่อยู่ข้างๆ ก็พ่นลมจนหนวดพะเยิบด้วยความโกรธขึ้ง ก่อนตบโต๊ะน้ำชาดังฉาด

“ให้มันได้อย่างนี้สิ! ซ่านซิงเป็นคนที่สามารถเป็นฮองเฮาได้ แล้วไฉนถึงไม่คู่ควรกับพ่อของพ่อหนุ่ม ตระกูลของพวกพ่อหนุ่ม มีบัลลังก์ให้สืบทอดด้วยหรือ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ