เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1123

แน่นอนว่าครอบครัวของฉีเทียนเหอไม่มีบัลลังก์ให้สืบทอด แต่มีทรัพย์สินนับแสนล้านที่ต้องการคนมาดูแล

ปู่ย่ารู้สึกว่าเฟิงซ่านซิงไม่เคยร่ำเรียนมหาวิทยาลัย ไม่สามารถแก้สมการกำลังสองขั้นพื้นฐานที่สุดได้ด้วยซ้ำ เทียบกับคุณหนูเรียนเก่งคนอื่นไม่ได้เลย ดังนั้นจึงพยายามขัดขวางเรื่องนี้ทุกวิถีทาง

เขาพูดเสียงเศร้า “ครับ ไม่มีบัลลังก์ให้สืบทอด ทำไมถึงยอมรับแม่ผมไม่ได้ล่ะ...แต่แม่ผมก็เป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นกัน ในเมื่อตระกูลฉีดูถูกดูแคลนทุกวิถีทาง แม่ผมก็ไม่เคยก้มหัวประจบคนพวกนี้เลย จึงเอ่ยเลิกกับพ่อผมอย่างเด็ดขาด”

พระเจ้าหลวงดูเหมือนจะฉุกนึกบางอย่างได้ แล้วถอนใจยาว “เฮ้อ ด้วยนิสัยของซ่านซิง นี่เป็นเรื่องที่นางสามารถทำได้จริงๆ”

หากปฏิเสธตำแหน่งฮองเฮาได้ แล้วจะยังสนใจตำแหน่งภรรยาของซีอีโอขี้ปะติ๋วด้วยหรือ

“แต่พ่อผมไม่ยอมแพ้ ไม่ว่ายังไงก็จะอยู่กับแม่ผม แถมยังหลอกแม่ให้จดทะเบียนสมรสด้วย”

เวลานั้นเฟิงซ่านซิงอยู่ในยุคปัจจุบันมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว ไม่รู้แนวคิดทั่วไปหลายอย่าง จึงถูกชักชวนให้จดทะเบียนสมรสด้วยวิธีที่สับสน

แม้ว่าจะรู้สึกโมโห แต่นางก็ปลาบปลื้มใจเช่นกัน

เพราะนางพบว่าในยุคอนาคตนี้ ท่าทีของผู้คนต่อการแต่งงานและความสัมพันธ์แตกต่างจากความรู้ความเข้าใจที่นางได้รับมาตั้งแต่เด็กอย่างสิ้นเชิง

ทั้งชายหญิงมักจะเปลี่ยนคู่ตามใจชอบ ผู้คนจำนวนมากมีแค่ความรักแต่ไม่แต่งงานกัน บางคนแต่งงานแล้วไม่มีลูก และบางคนมีลูกแต่ไม่ได้แต่งงาน

เนื่องจากปัญหาการแบ่งทรัพย์สินในการหย่าร้าง รวมถึงกระแสทัศนคติทางสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้คนแสวงหาความรักที่แท้จริงได้ยากขึ้น ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่เหลวไหลเหล่านี้ ขณะที่หลายคนต่างมองว่าสมเหตุสมผลแล้ว

ในฐานะสตรีที่ถือกำเนิดในแคว้นต้าโจว เฟิงซ่านซิงเคยเป็นผู้หญิงแนวหน้าที่องอาจสุขุมในสมัยก่อน แต่ลึกๆ แล้วท่าทีของนางต่อการแต่งงานยังคงค่อนข้างดั้งเดิม

นางคิดว่าฉีโม่เสวี่ยก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น ดังนั้นจึงข่มกลั้นความเจ็บปวดถอนตัวออกจากความสัมพันธ์นี้อย่างเฉียบขาด

ไม่นึกว่าฉีโม่เสวี่ยก็เป็นผู้ชายที่ฟังเสียงเรียกของหัวใจแสวงหารักแท้อย่างลึกซึ้ง ยินดีสัญญาว่าจะแต่งงานกับนาง

เฟิงซ่านซิงจึงหวั่นไหว สุดท้ายก็ยอมรับความสัมพันธ์นี้ เลือกจะเผชิญหน้ากับพายุโลกภายนอกร่วมกับเขา

“พ่อผมก็เลยต่อต้านแรงกดดันโลกภายนอก จัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษให้กับแม่ผม ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนมหาศาลในปีนั้น สองปีหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกันผมก็ลืมตาดูโลก”

เล่าถึงตรงนี้ ฉีเทียนเหอก็หยุดครู่หนึ่ง แล้วมองไปยังจี้หินอุกกาบาตในมือของพระเจ้าหลวง

“คืนที่ผมเกิด มีฝนดาวตกที่หายากมาก แม่ผมรู้สึกว่านี่คือวาสนาของแม่กับสวรรค์ จึงตั้งชื่อผมว่าฉีเทียนเหอ”

คือดวงดาวที่ประดับอยู่บนฟากฟ้า จึงเป็นที่มาชื่อของเขา

“เพื่อเป็นการรำลึกถึงการพบกับแม่ พ่อผมใช้เงินจำนวนมากซื้อหินอุกกาบาตหายากที่มีคนพบหลังฝนดาวตกครั้งนี้ ก็เป็นจี้ที่อยู่ในมือคุณลุง”

นี่คือหินอุกกาบาตที่มีลักษณะเฉพาะเพียงหนึ่งเดียว ไม่เหมือนอุกกาบาตที่น่าเกลียดเม็ดอื่นๆ มันแดงราวกับเลือดนกพิราบ แวววาวยิ่งกว่าทับทิมที่สวยที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ฉีโม่เสวี่ยทุ่มทุนประมูลหินอุกกาบาตเม็ดนี้มอบให้กับเฟิงซ่านซิง ขอบคุณโชคชะตาที่ส่งนางมาหาเขา

ถ้าเรื่องราวหยุดอยู่แค่นี้ เช่นนั้นทุกอย่างคงจะสวยงามราวกับเทพนิยาย

แต่เทพนิยายไม่ใช่เรื่องจริงเลย

“พ่อผมทะเลาะกับครอบครัวเรื่องแต่งงานกับแม่ผม จากนั้นก็ไม่เคยกลับไปที่บ้านเก่าเลย จนกระทั่งหลังจากที่ผมเกิด ปู่ย่าก็เริ่มมาหาผม”

คุณหนูครอบครัวแพทย์คนนั้นถือเป็นคนรักในวัยเด็กของฉีโม่เสวี่ย แอบหลงรักเขามาหลายปีแล้ว

แม้ว่าฉีโม่เสวี่ยไม่ต้องการแต่งงานกับเธอ แต่เธอก็คิดว่าได้มีลูกกับคนที่ชอบก็โอเค แต่ในยุคนี้ไม่มีใครเต็มใจจะแต่งงาน มีผู้หญิงมากมายที่เลือกไปธนาคารอสุจิเพื่อตั้งครรภ์ลูกหลาน

แต่เฟิงซ่านซิงไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ มันดูไร้สาระเหลือเกินสำหรับนาง!

สามีของนางที่เห็นชัดว่าทุ่มเทให้นางนั้น กลับไปมีลูกกับผู้หญิงคนอื่นอย่างลึกลับ?

“แม่ผมรับไม่ได้ พ่อผมก็โกรธมากเหมือนกัน ดังนั้นจึงฟ้องผู้หญิงคนนั้นและปู่ย่า ความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้เกิดขึ้นในตระกูลฉี”

ตามกฎหมายในขณะนั้น หากคุณหนูตระกูลมั่งคั่งตั้งครรภ์ไม่ถึงสามเดือน ศาลอาจยุติการตั้งครรภ์ได้

แต่ปู่ย่าเป็นตายก็ไม่ยอม พยายามรักษาเด็กคนนั้นไว้อย่างเต็มที่ ทั้งสองฝ่ายไม่พอใจกันอย่างมาก ความสัมพันธ์ก็แย่ลงกว่าเดิม

“ปู่ย่าตำหนิแม่ผม บอกว่าแม่เห็นแก่ตัวเกินไป ทั้งที่ยอมรับแม่เป็นลูกสะใภ้ตระกูลฉีแล้วแท้ๆ แต่แม่ดันไม่อนุญาตให้พวกเขาคำนึงถึงอนาคตของตระกูลฉี”

ในฐานะคนจากสองยุค ช่องว่างทางความคิดระหว่างทั้งสองฝ่ายจึงห่างกันมาก ย่อมนำไปสู่ความขัดแย้งที่ไม่มีทางลงรอยกันได้เลย

แม้แต่คุณหนูตระกูลชนชั้นสูงที่เคยพบหน้ากันก็พลอยเกลียดเฟิงซ่านซิงไปด้วย คิดว่านางอิจฉาและชั่วร้าย คิดจะฆ่าลูกผู้บริสุทธิ์ของเธอ

“แต่สุดท้ายแล้วเด็กคนนั้นไม่ได้เกิดมา ตัวเล็กแคระแกร็นจึงแท้งเมื่อตั้งครรภ์ได้สี่เดือน พ่อผมก็ทำลายอสุจิแช่แข็งที่เหลืออยู่ในโรงพยาบาลด้วย”

“ปู่ย่าทำอะไรไม่ถูก ความหวังสุดท้ายพังทลายลง พวกเขาจึงพาลเกลียดแม่ผมไปเลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ