พวกพระเจ้าหลวงและอวิ๋นหลิงต่างก็มองหน้ากัน ถูกเรื่องความแค้นระหว่างตระกูลผู้ดีที่แต่งขึ้นอย่างไม่มีที่มาจากแอคเคาท์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อโจมตีทำเอาตกใจจนไม่รู้จะพูดอะไรดี
กงจื่อโยวแอบนึกถึงคำพูดประโยคหนึ่งที่เพิ่งจะเรียนรู้จากการท่องเว็บไซต์ วงการไฮโซช่างวุ่นวาย
ฉีเทียนเหอเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลุ้มใจ “เรื่องนี้มีผลกระทบต่อจิตใจแม่ผมมาก ตอนที่เกิดเรื่องผมอายุสามขวบแล้ว แม่อยู่กับคุณปู่คุณย่าอย่างรักใคร่กลมเกลียวกันสามปี ในใจย่อมมีความผูกพัน คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะจบด้วยเหตุการณ์แบบนี้”
พระเจ้าหลวงได้ยินแล้ว ก็รู้สึกสงสารอยู่ในใจ นั่งอยู่บนโซฟาถอนหายใจไม่หยุด
“ใช่ว่าข้าอยากจะด่าพวกเขาว่าเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ขัดต่อหลักคุณธรรม นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ซ่านซิงเป็นอย่างไรบ้าง นางยังสบายดีอยู่หรือไม่”
ฉีเทียนเหอมุมปากกระตุก “คุณปู่ แม่ผมตายไปตั้งแต่ผมอายุเจ็ดขวบแล้ว”
พูดจบ บรรยากาศก็เงียบสงบลงในชั่วพริบตา
“เอ๋”
พระเจ้าหลวงจ้องมองเขาอย่างนิ่งอึ้ง จี้ที่อยู่ในมือร่วงหล่นไปบนพื้น ราวกับยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ได้ยิน “ซ่านซิงนาง นาง......อายุยังน้อยทำไมจึงตายแล้วล่ะ”
ฉีเทียนเหอก้มลงเก็บจี้ห้อยคอเงียบๆ สายตาของจ้องมองไปยังรูปถ่ายของหญิงสาวที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
“ที่จริงตั้งแต่แต่งงานกับพ่อผม แม่ผมก็มักจะคิดถึงคนที่บ้านเกิด ตอนที่ผมเกิดมีเหตุการณ์ฝนดาวตก ยิ่งทำให้ความคิดถึงในหัวใจของแม่เริ่มเติบโตอย่างบ้าคลั่ง”
“ตอนนั้นแม่ผมเป็นที่นิยมชมชอบของคนนอกวงการมาก ก่อนหน้านี้แม่เคยเป็นดารารับเชิญในภาพยนตร์และซีรีส์ประเภทประวัติศาสตร์อยู่หลายเรื่อง ล้วนเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมมากทั่วประเทศ หลายคนหวังว่าแม่จะไม่ฝังกลบความสามารถของตนเองเอาไว้ พัฒนาอาชีพนักแสดงของตัวเอง แต่แม่ผมกลับหลงใหลในดาราศาสตร์อย่างไม่อาจถอนตัวได้”
แม่อยากจะทำความเข้าใจว่า ตนเองจะสามารถกลับไปยังโลกที่เป็นบ้านเกิดได้หรือไม่ เพื่อพบกับพ่อและพี่น้องที่ห่างหายกันไปนานอีกครั้ง ปลดพันธนาการที่ขวางกั้นในอดีต
ในความทรงจำ ตอนที่เขายังเด็กไม่รู้ความ แม่มักจะพูดถึงคนและเรื่องราวที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนอยู่เสมอ
หลังจากที่เรื่องยืมสเปิร์มเพื่อมีลูกถูกเปิดเผย เฟิงซ่านซิงแตกหักกับสองผู้อาวุโสของตระกูลฉี ความคิดถึงบ้านเกิดจึงอยู่นอกเหนือการควบคุมไปแล้ว ความหลงใหลที่มีต่อดาราศาสตร์ก็ถึงขั้นสุดขีด
ฉีเทียนเหอพูดด้วยนำเสียงสงบว่า “ในยุคสมัยของผม การทะลุมิติเวลาเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมมาก ตามทฤษฎีแล้วเมื่อความเร็วเกินความเร็วแสง เวลาสามารถย้อนกลับได้ ดังนั้นจึงมีการวิจัยที่เกี่ยวข้องในหลากหลายสาขา”
“แม่ผมถูกผู้หญิงคนนั้นหลอกลวง ได้ยินว่ามีทีมวิจัยได้พัฒนาเครื่องย้อนเวลาที่สามารถทำให้คนทะลุมิติได้ ดังนั้นผมจึงอาศัยโอกาสที่พ่อผมไม่รู้เรื่อง เซ็นสัญญาทดลองโดยไม่ต้องมีความรับผิดชอบใดๆ”
เห็นได้ชัดว่าการทะลุมิตินั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องหลอกลวง
“เครื่องย้อนเวลา”ลอกเลียนแบบคุณภาพต่ำเกิดเรื่องขึ้น เฟิงซ่านซิงถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนหายใจรวยรินอยู่ในห้องไอซียู
ฉีเทียนเหอที่อยู่นอกห้องซึ่งกั้นด้วยกระจกใส เป็นครั้งแรกที่เห็นแม่ที่สวยงามมีสภาพ”ขี้เหร่”ที่สุด ตกใจจนร้องไห้โฮ
……
ข้างเตียงคนไข้ ชายหนุ่มภูมิฐานหน้าตาหล่อเหลาสวมแว่นตาขอบทอง กุมมือของภรรยาเอาไว้เบาๆ
เฟิงซ่านซิงหันไปมองเขาอย่างยากลำบาก พยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีแต่ก็เคลื่อนไหวได้เพียงองศาเล็กๆเท่านั้น
เธอพยายามฉีกยิ้มออกมาจากใบหน้าที่ถูกไฟคลอกจนได้รับบาดเจ็บ น้ำเสียงบางเบาดุจขนนก “คุณคะ ฉันโง่มากใช่ไหม ทั้งๆที่รู้ว่ามีปัญหา แต่ก็ยังจะไป”
ฉีโม่เสวี่ยไม่พูดจา เขารู้ดี ภรรยาไม่ได้เป็นคนโง่
ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้มาสิบปีแล้ว เธอพยายามอย่างหนักที่จะเรียนรู้และทำตัวให้กลมกลืนกับที่นี่ ไม่ใช่สาวน้อยที่ไร้เดียงสาในตอนนั้นแล้ว
เธอก็แค่ป่วย เป็นโรคทางใจที่ไม่มียาใดๆบนโลกใบนี้สามารถรักษาให้หายได้ แม้ว่าเขาจะเป็นรุ่นหลังตระกูลฉีที่เชี่ยวชาญทางการแพทย์ พยายามอย่างสุดความสามารถก็ไม่สามารถรักษาโรคนี้ได้
“ฉันก็แค่อยากจะเดิมพันสักครั้ง ถ้าหาก......ถ้าหากว่า......เสียดายที่ฉันไม่ค่อยจะมีโชคสักเท่าไหร่ ครั้งนี้แพ้เดิมพันแล้ว”
ตอนที่ยังเป็นหญิงสาวไม่ออกเรือน เธอแอบอ่าน”หนังสือต้องห้าม”ที่ซื้อมาจากข้างนอกอยู่ในห้องของตนเอง จินตนาการว่าตนเองจะสามารถเป็นเหมือนนางเอกในหนังสือนับครั้งไม่ถ้วน
มีประสบการณ์โชกโชนในยุทธภพ มีชายอันเป็นที่รักยื่นมือมาช่วยเธอจากภัยพิบัติ พัฒนาเป็นความรักที่ร้อนแรงและน่าจดจำ
หวนนึกถึงสิบปีที่ผ่านมา เธอได้ทำความฝันในวัยเยาว์ให้เป็นจริงแล้ว นี่เป็นอุบัติการณ์แห่งโชคชะตาของเธอ
สายตาของเฟิงซ่านซิงค่อยๆล่องลอย น้ำเสียงเบาหวิวลงเรื่อยๆ
“คุณคะ......ฉันคิดถึงพ่อแม่แล้ว ยังมีพวกพี่ชายกับน้องสาว......แต่ว่า แต่ว่า......ฉันก็อยากจะอยู่กับคุณตลอดไป ฉันโลภมากจริงๆ......”
ฉีโม่เสวี่ยจูบที่ดวงตาของเธอ นี่เป็นดาวตกที่สว่างไสวที่สุดในชีวิตเขา ทำให้วันเวลาของเขาสดใส ดวงดาวนับพันนับหมื่นก็เทียบไม่ได้
แต่ดาวตกนั้นไม่สามารถคว้าเอาไว้ได้ สว่างเพียงชั่ววูบแล้วผ่านไป
ไม่นานนัก ฉีเทียนเหอที่มีอายุเจ็ดขวบถูกผู้ใหญ่จูงเข้าไปในห้องคนไข้
เขาเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ คุณพ่อที่มีท่าทีเด็ดเดี่ยวเสมอมา เฉยเมยห่างเหินเย็นชาราวกับภูเขาหิมะ ตอนนี้ดวงตาแดงก่ำราวกับจะไหลออกมาเป็นสายเลือด น้ำตานองหน้า
“เสี่ยวเทียน มาลาคุณแม่เป็นครั้งสุดท้ายเถอะ”
ฉีเทียนเหอจ้องมองเฟิงซ่านซิงด้วยความนิ่งอึ้ง เห็นคุณแม่ยิ้มให้เขาเบาๆ
“เสี่ยวเทียน หอมแม่หน่อยได้ไหม”
เขาที่ยังเด็กเหมือนจะรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง สะอึกสะอื้นร้องไห้โผเข้าไปหา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็ได้เรียนรู้ถึงความเจ็บปวดที่โหดร้ายที่สุดของการจากลา
……

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...