เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1126

ดังนั้น ในที่สุดฉีเทียนเหอก็ขึ้นไปบนยานอวกาศขนาดเล็กอย่างไม่ลังเล

เขากับพ่อเขาล้วนไม่มีความทะเยอทะยานที่จะสืบทอดและพัฒนาตระกูลฉีแต่อย่างใด

ครอบครัวแพทย์ตระกูลหนึ่ง หลังจากผ่านมาหลายรุ่นล้วนกลายเป็นนักธุรกิจและนักการเมือง ไม่มีใครศึกษาวิจัยทางการแพทย์อีกต่อไปแล้ว

ตระกูลฉีไม่มีบัลลังก์ฮ่องเต้ให้สืบทอด คุณพ่อบอกว่าถ้าหากเขาเดินทางข้ามเวลาได้สำเร็จ กลับมาไม่ได้ ภายหน้าหากตายไปจะบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดที่มี

คิดไม่ถึงจริงๆว่า เขาทำสำเร็จแล้ว แต่ก็ล้มเหลวเช่นกัน

“คิดไม่ถึงจริงๆ ที่จริงฝนดาวตกในมิติเวลาก็มีผลกระทบต่อการระบุตำแหน่งของจุดยึด ผมย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งพันปีก่อนด้วยความสับสนมึนงง มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ”

จู่ๆฉีเทียนเหอก็มีสีหน้ายากจะอธิบาย เป็นคนวิจัยความลึกลับของเวลามาหลายปี ที่จริงเขาถือเรื่องพวกนี้มาก

“พวกคุณคงเข้าใจได้ใช่ไหม ถ้าหากผมทำอะไรบางอย่างไปโดยไม่ระวัง ทำให้เกิดทฤษฎีผลกระทบผีเสื้อ เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์เดิมที่เคยมีอยู่ นั่นมันร้ายแรงถึงชีวิตทีเดียว ถ้าหากโชคชะตาในภายหน้าของตระกูลฉีเปลี่ยนแปลงไปแล้ว อนาคตอาจไม่มีผมกำเนิดขึ้นมา”

“แต่หลังจากที่ผมลงจอดยานอวกาศ ให้ตายเถอะผมกลับพบเข้ากับคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลฉีอย่างน่าประหลาดใจ ถูกลุงเหยาเก็บกลับไป”

พูดถึงเรื่องนี้ ฉีเทียนเหอยังรู้สึกเสียใจไม่หาย

ตอนที่ยานอวกาศเกิดอุบัติเหตุ เขาได้ลงจอดอย่างปลอดภัยด้วยวิธีฉุกเฉิน แต่ไม่รู้เลยว่าตัวเองเดินทางข้ามมิติไปถึงที่ไหน

ตอนที่เดินออกมาจากป่า เขาเห็นว่ายังมีสิ่งก่อสร้างในยุคปัจจุบัน ก็คิดว่าการข้ามมิติเวลาล้มเหลวแล้ว

ดังนั้นตอนที่มีคนมาเจอและถามเขา เขาก็ตอบตามความจริงโดยไม่ได้คิดอะไรมาก บอกว่ามาจากตระกูลฉีที่เป็นครอบครัวทางการแพทย์ ให้อีกฝ่ายช่วยติดต่อพ่อของเขาให้หน่อย

ดีมาก ติดต่อคนของตระกูลฉีได้แล้ว แต่ไม่ใช่คนตระกูลฉีคนนั้นแล้ว

สีหน้าของฉีเทียนเหอเต็มไปด้วยความหมดอาลัยตายอยาก “ตอนแรกผมถูกไล่ออกมาเหมือนนักต้มตุ๋นคนหนึ่ง และเพิ่งจะรู้ตัวว่าเวลาที่ตัวเองอยู่นั้นไม่ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้นคือ หลังจากนั้นผมได้พบกับทนายคนหนึ่งโดยบังเอิญ นำพาผมเข้าสู่คดีฆาตกรรมจากความแค้นของบรรพบุรุษไฮโซของผม”

หลังจากที่ลุงเหยาได้ยินเรื่องที่เขาถูกคนตระกูลฉีคิดว่าเป็น”นักต้มตุ๋น” ก็พาเขาไปตรวจดีเอ็นเอ

แม้ว่าตระกูลฉีจะสืบทอดกันมาสามสิบกว่ารุ่นแล้ว แต่ทุกรุ่นล้วนมีผู้ชาย แม้ว่าตัวระบุความคล้ายคลึงกันระหว่างพ่อลูกจะไม่ได้สูงมากขนาดนั้นก็ตาม แต่โครโมโซมวายของเขาก็เป็นของจริงแท้แน่นอน

เรื่องราวดำเนินไปอย่างรวดเร็วและเกินไปมาก พอได้สติกลับมาเขาก็กลายเป็นลูกชายนอกสมรสที่ถูกทอดทิ้งของครอบครัวลูกชายคนโตแห่งตระกูลฉีไปแล้ว

ให้ตาย โลกทั้งสองใบล้วนหนีไม่พ้นโชคชะตาที่ต้องสืบทอดมรดกร้อยล้าน

“ดังนั้นผมจึงกลัวว่าการปรากฏตัวของตนเองจะกระทบต่อประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษตระกูลฉีทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง พอได้เงินแล้วก็รีบไสหัวไป”

แต่พวกครอบครัวลูกคนรองมักจะคอยตามตอแย ทำให้เขารู้สึกกลุ้มใจมาก

เซียวปี้เฉิงนั่งฟังฉีเทียนเหอพูดอย่างเงียบๆ รู้สึกว่าหมัดของตนเองถูกกำแน่นขึ้น

ช่างน่าโมโหนัก เป็นครั้งแรกที่พบกับคนที่ไม่ยินดีที่จะสืบทอดมรดกร้อยล้านเช่นนี้

อวิ๋นหลิงกลับเอามือลูบคาง เอ่ยราวกับคิดอะไรบางอย่าง “จะว่าไป ข้ากับท่านพ่อหวู๋ซินก็เคยหารือกันถึงปัญหาทางด้านนี้ เขาบอกว่าการเกิดในโลกคู่ขนานนั้นเป็นเรื่องยากลำบากมาก ร่องรอยของประวัติศาสตร์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆโดยอาศัยพลังของคนคนเดียว”

ต้าโจวในตอนนี้สำหรับเต้าหวู๋ซินแล้ว ก็คือโลกคู่ขนานของบ้านเกิดเขาอย่างแท้จริง

แม้เขาจะเป็นบุรุษผู้มีความสามารถเก่งกาจเหมือนเทพ ก็ไม่สามารถกลับไปในอดีต เพื่อช่วยไม่ให้แผ่นดินนั้นล่มสลายได้

อีกทั้งเขายังร่อนเร่อยู่ในมิติแห่งกาลเวลามานานจนไม่อาจนับได้ จนได้ค้นพบกับโลกคู่ขนานที่เหมือนกับบ้านเกิด และหยุดการร่อนเร่พเนจร

เห็นได้ชัดว่า แม้ฉีโม่เสวี่ยจะอยากกลับไปในอดีต ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถช่วยเฟิงซ่านซิงเอาไว้ได้

เรียนประวัติศาสตร์มาตั้งหลายปี เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นฮ่องเต้ตัวเป็นๆ พระเจ้าหลวง

ฉีเทียนเหอตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก “คุณปู่......ไม่ๆๆ องค์จักรพรรดิติ้งหวู่ น้อมรับการคำนับจากผมด้วย โชคชะตาแห่งกาลเวลาหนุนนำ ทำให้พวกเรามาพบกันถือเป็นวาสนา คุณปู่ได้โปรดให้เกียรติผม รับผมเป็นน้องคนหนึ่ง น้องคนนี้สาบานว่าจะติดตามพี่ชายตลอดชีวิต”

เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับพระเจ้าหลวง พูดออกไปคงเป็นเกียรติมาก

หากอยู่ในโลกของเขา ต้องมีเพียงหนึ่งเดียวแน่นอน

ได้พบกับลูกชายของเพื่อนเก่า แม้พระเจ้าหลวงจะรู้สึกตื่นเต้นยินดีอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะหางตากระตุกขึ้นมา คิดในใจว่าเจ้าเด็กคนนี้ตื่นเต้นจนต้องสั่งสอนกันสักหน่อยแล้วกระมัง

เซียวปี้เฉิงสีหน้าดำคล้ำลง ลุกขึ้นกดเขาให้นั่งลงบนโซฟา

“เด็กน้อย ปากเจ้ายังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเลย ก็อยากจะเป็นเพื่อนกับท่านปู่ข้าแล้วหรือ”

เขาสงสัยอย่างมีเหตุผลว่าเป็นเพราะเมื่อครู่ฉีเทียนเหอถูกเขาต่อย ดังนั้นจึงได้จงใจเอาเปรียบเขาอย่างนี้

ฉีเทียนเหอรีบคุกเข่าลงอย่างจริงจังทันที ยิ้มอย่างกระดากอาย “พี่ชายอย่าโมโห ผมไม่กล้าเอาเปรียบ ผมเห็นในละครเขาแสดงกันแบบนี้ ก็เลยพูดตามเท่านั้น พูดตามบทละคร......”

“เอาล่ะเอาล่ะ เจ้าสามเจ้าอย่าทำตัวเป็นเทพหน้าดำ เสี่ยวเทียนตกใจหมดแล้ว”

พระเจ้าหลวงกระแอมในลำคอ แล้วมองไปทางฉีเทียนเหออย่างเมตตา

“เจ้าสามเป็นหลานของข้า โตกว่าเจ้าหนึ่งปี พวกเจ้าสองคนสาบานเป็นพี่น้องกันก็พอแล้ว ถือเสียว่า......ทำให้ความคิดในตอนนั้นของข้าเป็นจริง”

ถ้าหากเฟิงซ่านซิงได้เป็นฮองเฮา ด้วยนิสัยของอีกฝ่าย ก็คงไม่มีทางทำร้ายต่อแม่บังเกิดเกล้าของเซียวปี้เฉิง ไม่แน่ทั้งสองคนอาจเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันจริงๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ