ดังนั้น ในที่สุดฉีเทียนเหอก็ขึ้นไปบนยานอวกาศขนาดเล็กอย่างไม่ลังเล
เขากับพ่อเขาล้วนไม่มีความทะเยอทะยานที่จะสืบทอดและพัฒนาตระกูลฉีแต่อย่างใด
ครอบครัวแพทย์ตระกูลหนึ่ง หลังจากผ่านมาหลายรุ่นล้วนกลายเป็นนักธุรกิจและนักการเมือง ไม่มีใครศึกษาวิจัยทางการแพทย์อีกต่อไปแล้ว
ตระกูลฉีไม่มีบัลลังก์ฮ่องเต้ให้สืบทอด คุณพ่อบอกว่าถ้าหากเขาเดินทางข้ามเวลาได้สำเร็จ กลับมาไม่ได้ ภายหน้าหากตายไปจะบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดที่มี
คิดไม่ถึงจริงๆว่า เขาทำสำเร็จแล้ว แต่ก็ล้มเหลวเช่นกัน
“คิดไม่ถึงจริงๆ ที่จริงฝนดาวตกในมิติเวลาก็มีผลกระทบต่อการระบุตำแหน่งของจุดยึด ผมย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งพันปีก่อนด้วยความสับสนมึนงง มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ”
จู่ๆฉีเทียนเหอก็มีสีหน้ายากจะอธิบาย เป็นคนวิจัยความลึกลับของเวลามาหลายปี ที่จริงเขาถือเรื่องพวกนี้มาก
“พวกคุณคงเข้าใจได้ใช่ไหม ถ้าหากผมทำอะไรบางอย่างไปโดยไม่ระวัง ทำให้เกิดทฤษฎีผลกระทบผีเสื้อ เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์เดิมที่เคยมีอยู่ นั่นมันร้ายแรงถึงชีวิตทีเดียว ถ้าหากโชคชะตาในภายหน้าของตระกูลฉีเปลี่ยนแปลงไปแล้ว อนาคตอาจไม่มีผมกำเนิดขึ้นมา”
“แต่หลังจากที่ผมลงจอดยานอวกาศ ให้ตายเถอะผมกลับพบเข้ากับคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลฉีอย่างน่าประหลาดใจ ถูกลุงเหยาเก็บกลับไป”
พูดถึงเรื่องนี้ ฉีเทียนเหอยังรู้สึกเสียใจไม่หาย
ตอนที่ยานอวกาศเกิดอุบัติเหตุ เขาได้ลงจอดอย่างปลอดภัยด้วยวิธีฉุกเฉิน แต่ไม่รู้เลยว่าตัวเองเดินทางข้ามมิติไปถึงที่ไหน
ตอนที่เดินออกมาจากป่า เขาเห็นว่ายังมีสิ่งก่อสร้างในยุคปัจจุบัน ก็คิดว่าการข้ามมิติเวลาล้มเหลวแล้ว
ดังนั้นตอนที่มีคนมาเจอและถามเขา เขาก็ตอบตามความจริงโดยไม่ได้คิดอะไรมาก บอกว่ามาจากตระกูลฉีที่เป็นครอบครัวทางการแพทย์ ให้อีกฝ่ายช่วยติดต่อพ่อของเขาให้หน่อย
ดีมาก ติดต่อคนของตระกูลฉีได้แล้ว แต่ไม่ใช่คนตระกูลฉีคนนั้นแล้ว
สีหน้าของฉีเทียนเหอเต็มไปด้วยความหมดอาลัยตายอยาก “ตอนแรกผมถูกไล่ออกมาเหมือนนักต้มตุ๋นคนหนึ่ง และเพิ่งจะรู้ตัวว่าเวลาที่ตัวเองอยู่นั้นไม่ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้นคือ หลังจากนั้นผมได้พบกับทนายคนหนึ่งโดยบังเอิญ นำพาผมเข้าสู่คดีฆาตกรรมจากความแค้นของบรรพบุรุษไฮโซของผม”
หลังจากที่ลุงเหยาได้ยินเรื่องที่เขาถูกคนตระกูลฉีคิดว่าเป็น”นักต้มตุ๋น” ก็พาเขาไปตรวจดีเอ็นเอ
แม้ว่าตระกูลฉีจะสืบทอดกันมาสามสิบกว่ารุ่นแล้ว แต่ทุกรุ่นล้วนมีผู้ชาย แม้ว่าตัวระบุความคล้ายคลึงกันระหว่างพ่อลูกจะไม่ได้สูงมากขนาดนั้นก็ตาม แต่โครโมโซมวายของเขาก็เป็นของจริงแท้แน่นอน
เรื่องราวดำเนินไปอย่างรวดเร็วและเกินไปมาก พอได้สติกลับมาเขาก็กลายเป็นลูกชายนอกสมรสที่ถูกทอดทิ้งของครอบครัวลูกชายคนโตแห่งตระกูลฉีไปแล้ว
ให้ตาย โลกทั้งสองใบล้วนหนีไม่พ้นโชคชะตาที่ต้องสืบทอดมรดกร้อยล้าน
“ดังนั้นผมจึงกลัวว่าการปรากฏตัวของตนเองจะกระทบต่อประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษตระกูลฉีทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง พอได้เงินแล้วก็รีบไสหัวไป”
แต่พวกครอบครัวลูกคนรองมักจะคอยตามตอแย ทำให้เขารู้สึกกลุ้มใจมาก
เซียวปี้เฉิงนั่งฟังฉีเทียนเหอพูดอย่างเงียบๆ รู้สึกว่าหมัดของตนเองถูกกำแน่นขึ้น
ช่างน่าโมโหนัก เป็นครั้งแรกที่พบกับคนที่ไม่ยินดีที่จะสืบทอดมรดกร้อยล้านเช่นนี้
อวิ๋นหลิงกลับเอามือลูบคาง เอ่ยราวกับคิดอะไรบางอย่าง “จะว่าไป ข้ากับท่านพ่อหวู๋ซินก็เคยหารือกันถึงปัญหาทางด้านนี้ เขาบอกว่าการเกิดในโลกคู่ขนานนั้นเป็นเรื่องยากลำบากมาก ร่องรอยของประวัติศาสตร์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆโดยอาศัยพลังของคนคนเดียว”
ต้าโจวในตอนนี้สำหรับเต้าหวู๋ซินแล้ว ก็คือโลกคู่ขนานของบ้านเกิดเขาอย่างแท้จริง
แม้เขาจะเป็นบุรุษผู้มีความสามารถเก่งกาจเหมือนเทพ ก็ไม่สามารถกลับไปในอดีต เพื่อช่วยไม่ให้แผ่นดินนั้นล่มสลายได้
อีกทั้งเขายังร่อนเร่อยู่ในมิติแห่งกาลเวลามานานจนไม่อาจนับได้ จนได้ค้นพบกับโลกคู่ขนานที่เหมือนกับบ้านเกิด และหยุดการร่อนเร่พเนจร
เห็นได้ชัดว่า แม้ฉีโม่เสวี่ยจะอยากกลับไปในอดีต ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถช่วยเฟิงซ่านซิงเอาไว้ได้
เรียนประวัติศาสตร์มาตั้งหลายปี เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นฮ่องเต้ตัวเป็นๆ พระเจ้าหลวง
ฉีเทียนเหอตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก “คุณปู่......ไม่ๆๆ องค์จักรพรรดิติ้งหวู่ น้อมรับการคำนับจากผมด้วย โชคชะตาแห่งกาลเวลาหนุนนำ ทำให้พวกเรามาพบกันถือเป็นวาสนา คุณปู่ได้โปรดให้เกียรติผม รับผมเป็นน้องคนหนึ่ง น้องคนนี้สาบานว่าจะติดตามพี่ชายตลอดชีวิต”
เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับพระเจ้าหลวง พูดออกไปคงเป็นเกียรติมาก
หากอยู่ในโลกของเขา ต้องมีเพียงหนึ่งเดียวแน่นอน
ได้พบกับลูกชายของเพื่อนเก่า แม้พระเจ้าหลวงจะรู้สึกตื่นเต้นยินดีอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะหางตากระตุกขึ้นมา คิดในใจว่าเจ้าเด็กคนนี้ตื่นเต้นจนต้องสั่งสอนกันสักหน่อยแล้วกระมัง
เซียวปี้เฉิงสีหน้าดำคล้ำลง ลุกขึ้นกดเขาให้นั่งลงบนโซฟา
“เด็กน้อย ปากเจ้ายังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเลย ก็อยากจะเป็นเพื่อนกับท่านปู่ข้าแล้วหรือ”
เขาสงสัยอย่างมีเหตุผลว่าเป็นเพราะเมื่อครู่ฉีเทียนเหอถูกเขาต่อย ดังนั้นจึงได้จงใจเอาเปรียบเขาอย่างนี้
ฉีเทียนเหอรีบคุกเข่าลงอย่างจริงจังทันที ยิ้มอย่างกระดากอาย “พี่ชายอย่าโมโห ผมไม่กล้าเอาเปรียบ ผมเห็นในละครเขาแสดงกันแบบนี้ ก็เลยพูดตามเท่านั้น พูดตามบทละคร......”
“เอาล่ะเอาล่ะ เจ้าสามเจ้าอย่าทำตัวเป็นเทพหน้าดำ เสี่ยวเทียนตกใจหมดแล้ว”
พระเจ้าหลวงกระแอมในลำคอ แล้วมองไปทางฉีเทียนเหออย่างเมตตา
“เจ้าสามเป็นหลานของข้า โตกว่าเจ้าหนึ่งปี พวกเจ้าสองคนสาบานเป็นพี่น้องกันก็พอแล้ว ถือเสียว่า......ทำให้ความคิดในตอนนั้นของข้าเป็นจริง”
ถ้าหากเฟิงซ่านซิงได้เป็นฮองเฮา ด้วยนิสัยของอีกฝ่าย ก็คงไม่มีทางทำร้ายต่อแม่บังเกิดเกล้าของเซียวปี้เฉิง ไม่แน่ทั้งสองคนอาจเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันจริงๆ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...