หลิวฉิงไม่ใช่คนบ้าผู้ชาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเผลอมองอยู่แวบหนึ่ง
ห้องของนางค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือกำแพงล้วนเป็นสีขาวดำสไตล์มินิมอล
ไม่ได้แฟนตาซีเหมือนเสวียนจี ไม่เหมือนอวิ๋นหลิงที่อบอุ่นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา และไม่ได้มีศิลปะหรูหรานุ่มนวลเหมือนหลงเย่
หลิวฉิงรู้สึกมาตลอดว่าห้องตัวเองน่าเกลียดมาก แต่นางก็ไม่ชอบเสียเวลาไปตกแต่งประดับประดา กระทั่งเสี้ยววินาทีที่เห็นกู้ฉางเซินนั่งอยู่ตรงนั้น จู่ๆก็ทำให้เกิดความรู้สึกราวกับภาพวาดหมึกที่มีเสน่ห์และสง่างามมาก
นางใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก เดินเข้าไปถามว่า “เค้กชิ้นนี้มีความหมายอะไร”
กู้ฉางเซินหันกลับมามองนาง น้ำเสียงทุ้มต่ำ “วันนี้เป็นวันเกิดของนาง ถ้าหากนางยังมีชีวิตอยู่ ก็น่าจะมีอายุหกสิบปีแล้ว”
หลิวฉิงเข้าใจทันทีว่า”นาง”ในคำพูดของเขาหมายถึงใคร
“คิดถึงท่านแม่หรือ” นางนั่งลงข้างกายกู้ฉางเซิน เบียดลงไปบนเก้าอี้โซฟาที่อ่อนนุ่มตัวเดียวกัน “เป็นเพราะได้ยินฉีเทียนเหอเอ่ยถึงต้าเฟิง แล้วรู้สึกสะเทือนใจใช่หรือไม่”
กู้ฉางเซินพยักหน้า “แม้ว่าตอนจบของนิทานจะทำให้รู้สึกเสียดาย แต่ที่จริงข้าอิจฉาเขามาก และอิจฉาปี้เฉิงด้วย”
อิจฉาฉีเทียนเหอที่มีแม่ที่รักเขาอย่างแท้จริง อิจฉาปี้เฉิงที่มีเสด็จปู่ที่อบอุ่นใจกว้าง
สีหน้าของหลิวฉิงมีความสับสนขึ้นมาบ้าง ในดวงตามีแววสงสารผุดขึ้นมาหลายส่วน
มารดาผู้ให้กำเนิดกู้ฉางเซิน เป็นไทฮองไทเฮาเสี้ยวเจินแห่งราชวงศ์เป่ยฉิน
ผู้หญิงที่มีความทะเยอทะยานและวิธีการคล้ายกับบูเช็กเทียน อำนาจในใจอยู่เหนือสิ่งอื่นใด
กู้ฉางเซินเติบโตมาจากสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดและโหดร้ายมาก ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน กระทั่งเหมือนศัตรูทางการเมือง
พูดถึงไทฮองไทเฮาเสี้ยวเจินคนนี้ เป็นถึงซูเปอร์บอสที่ซ่อนตัวอยู่ลึกสุดในวังหลวงของเป่ยฉิน พระพันปีที่เป็นแม่มดคนนั้นของเป่ยฉินเห็นอีกฝ่ายแล้วยังต้องขาสั่น
เมื่อก่อนหลิวฉิงคิดเสมอว่า ความวุ่นวายภายในแคว้นเป่ยฉินเกิดขึ้นเพราะตระกูลของสมุหราชเลขาธิการต้องการจะแย่งชิงบัลลังก์
กระทั่งกู้ฉางเซินมารักษาตัวในแคว้นต้าโจวจนหาย และกลับไปต่อสู้กับกบฏในวังของเป่ยฉิน จึงได้รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดคือมารดาแท้ๆของกู้ฉางเซิน
หญิงชราที่อายุใกล้จะหกสิบคนนี้มีวิธีการที่โหดเหี้ยมถึงขั้นไหนกัน
เพราะไม่อยากจะปล่อยอำนาจให้หลุดมือ หวังอยากจะเป็นจักรพรรดินี ไม่เสียดายที่จะยุยงกู้ฉางเซินที่เป็นลูกชายแท้ๆของตนเองและหลานแท้ๆอย่างกู้จื่ออวี๋ให้เกิดความขัดแย้งกันเอง กระทั่งจะเอาชีวิตของพวกเขา
แค่มองความคิดและความสามารถในการบริหารประเทศของกู้ฉางเซิน ก็รู้แล้วว่าเสี้ยวเจินเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมากแค่ไหน
ตอนที่นางเป็นฮองเฮาก็มักจะยุ่งกับเรื่องในราชสำนัก เป็นเพราะมีมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างกัน มักจะโต้แย้งกับสามีที่เป็นจักรพรรดิอยู่เสมอ ส่วนใหญ่จะลงเอยไม่ดีสักเท่าไหร่
เสี้ยวเจินมีความสามารถในการปกครองประเทศแข็งแกร่งมาก แต่นิสัยแข็งกระด้างเด็ดขาด นับไม่ได้ว่าเป็นที่โปรดปราน พระสนมที่สามีรักเป็นคนอื่น
เสี้ยวเจินดูถูกความรัก และไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นที่โปรดปรานหรือไม่ หลังจากสามีตาย ลูกชายคนโตก็สืบทอดบัลลังก์ นางก็นั่งแท่นเป็นไทเฮาผู้ว่าราชการอยู่หลังม่าน ส่วนพระสนมซึ่งเป็นที่โปรดปรานและมักจะโอ้อวดอำนาจ เป็นปรปักษ์กับนางทุกเรื่องก็มีจุดจบที่น่าอนาถมาก
ผ่านไปนานมากกว่าทุกคนจะรู้ว่า ที่แท้การตายของจักรพรรดิองค์ก่อนเป็นฝีมือของเสี้ยวเจิน นางวางยาพิษสามี และใส่ร้ายพระสนมคนโปรดของเขา
ลูกๆของพระสนมคนโปรดล้วนถูกประหารชีวิต อีกฝ่ายยังถูกแขวนศพประจานอยู่หน้าเมืองหลวงเป็นเวลาหนึ่งเดือน
แต่ลูกชายคนหนึ่งของสนมคนโปรดที่ถูกบ่าวผู้รู้ใจช่วยเอาไว้ แกล้งตายและหนีออกไปจากวังหลวง หลายปีผ่านไปได้ก่อความวุ่นวาย เขาวางแผนแย่งชิงบัลลังก์และก่อเหตุนองเลือดในวังหลวง ฆ่าจักรพรรดิที่เป็นลูกชายของเสี้ยวเจินและองค์ชายอีกหลายคน
บอบช้ำด้วยกันทั้งสองฝ่าย เสี้ยวเจินเหลือลูกชายที่เป็นสายเลือดเพียงคนเดียวนั่นก็คือกู้ฉางเซิน และหลานแท้ๆกู้จื่ออวี๋
ภายใต้ความจนใจ เสี้ยวเจินสนับสนุนให้กู้จื่ออวี๋ที่อายุยังน้อยขึ้นครองบัลลังก์ ให้กู้ฉางเซินที่ยังเป็นวัยรุ่นทำหน้าที่เป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ตนเองกลายเป็นไทฮองไทเฮา
ฐานะที่เปลี่ยนไป ทำให้นางยากจะเป็นเหมือนแต่ก่อนได้ สามารถใช้อำนาจได้ตามอำเภอใจ
หลังจากที่เสี้ยวเจินรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เดาได้ว่ากู้ฉางเซินได้หลุดจากการควบคุมไปแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงวางยาหมายเอาชีวิตเขา เหลือเพียงกู้จื่ออวี๋เอาไว้เป็นหุ่นเชิดจักรพรรดิ
ที่ก็เป็นสาเหตุที่หลิวฉิงพาเขาไปหาอวิ๋นหลิงที่ซีโจวเพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน
ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเป่ยฉิน เสี้ยวเจินเห็นเขาที่หายดี มีฝีมือในการใช้ดาบไร้เทียมทาน ก็รู้สึกตกตะลึงมาก
เวลานี้ทุกคนจึงได้รับรู้ความจริงทุกอย่าง
จนถึงตอนนี้หลิวฉิงก็ยังไม่สามารถลืมสีหน้าของกู้ฉางเซินในตอนนั้นได้ สีหน้าสีขาวของเขา รวมไปถึงสายตาที่มีแววแตกสลาย ทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน
นั่นเป็นครั้งแรกที่นางเห็นกู้ฉางเซินร้องไห้
ครองอำนาจในราชสำนักมาครึ่งค่อนชีวิต ไทฮองไทเฮาเสี้ยวเจินในวัยห้าสิบแปดปีดื่มยาพิษฆ่าตัวตายในพระราชวังของเป่ยฉิน ช่วงเวลาก่อนตายยังนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร
“ท่านแม่......”
กู้ฉางเซินร้องเรียกนางทั้งน้ำตา อยากจะถามนางว่าเสือถึงจะร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง ทำไมจึงต้องทำเช่นนี้
เสี้ยวเจินเอาแต่ลูบบัลลังก์มังกร เสียงชราและแหบแห้งแฝงความรู้สึกทอดถอนใจและไม่พอใจ
“ชนะเป็นราชาแพ้เป็นโจร ที่สุดข้าก็แพ้แล้ว ช่างน่าผิดหวังจริงๆ ถ้าหากข้าเป็นชาย ต้องยืนหยัดเป็นผู้ชนะที่ยาวนานมากแน่ๆ”
“พวกเราไม่ควรเป็นแม่ลูกกัน เจ้าเองก็ไม่เหมือนลูกของข้า ใจอ่อนเกินไป”
มุมปากมีรอยเลือดสีม่วงอมดำติดอยู่ นางพิงอยู่กับเก้าอี้มังกรและหยุดหายใจ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...