เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1128

หลิวฉิงไม่ใช่คนบ้าผู้ชาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเผลอมองอยู่แวบหนึ่ง

ห้องของนางค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือกำแพงล้วนเป็นสีขาวดำสไตล์มินิมอล

ไม่ได้แฟนตาซีเหมือนเสวียนจี ไม่เหมือนอวิ๋นหลิงที่อบอุ่นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา และไม่ได้มีศิลปะหรูหรานุ่มนวลเหมือนหลงเย่

หลิวฉิงรู้สึกมาตลอดว่าห้องตัวเองน่าเกลียดมาก แต่นางก็ไม่ชอบเสียเวลาไปตกแต่งประดับประดา กระทั่งเสี้ยววินาทีที่เห็นกู้ฉางเซินนั่งอยู่ตรงนั้น จู่ๆก็ทำให้เกิดความรู้สึกราวกับภาพวาดหมึกที่มีเสน่ห์และสง่างามมาก

นางใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก เดินเข้าไปถามว่า “เค้กชิ้นนี้มีความหมายอะไร”

กู้ฉางเซินหันกลับมามองนาง น้ำเสียงทุ้มต่ำ “วันนี้เป็นวันเกิดของนาง ถ้าหากนางยังมีชีวิตอยู่ ก็น่าจะมีอายุหกสิบปีแล้ว”

หลิวฉิงเข้าใจทันทีว่า”นาง”ในคำพูดของเขาหมายถึงใคร

“คิดถึงท่านแม่หรือ” นางนั่งลงข้างกายกู้ฉางเซิน เบียดลงไปบนเก้าอี้โซฟาที่อ่อนนุ่มตัวเดียวกัน “เป็นเพราะได้ยินฉีเทียนเหอเอ่ยถึงต้าเฟิง แล้วรู้สึกสะเทือนใจใช่หรือไม่”

กู้ฉางเซินพยักหน้า “แม้ว่าตอนจบของนิทานจะทำให้รู้สึกเสียดาย แต่ที่จริงข้าอิจฉาเขามาก และอิจฉาปี้เฉิงด้วย”

อิจฉาฉีเทียนเหอที่มีแม่ที่รักเขาอย่างแท้จริง อิจฉาปี้เฉิงที่มีเสด็จปู่ที่อบอุ่นใจกว้าง

สีหน้าของหลิวฉิงมีความสับสนขึ้นมาบ้าง ในดวงตามีแววสงสารผุดขึ้นมาหลายส่วน

มารดาผู้ให้กำเนิดกู้ฉางเซิน เป็นไทฮองไทเฮาเสี้ยวเจินแห่งราชวงศ์เป่ยฉิน

ผู้หญิงที่มีความทะเยอทะยานและวิธีการคล้ายกับบูเช็กเทียน อำนาจในใจอยู่เหนือสิ่งอื่นใด

กู้ฉางเซินเติบโตมาจากสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดและโหดร้ายมาก ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน กระทั่งเหมือนศัตรูทางการเมือง

พูดถึงไทฮองไทเฮาเสี้ยวเจินคนนี้ เป็นถึงซูเปอร์บอสที่ซ่อนตัวอยู่ลึกสุดในวังหลวงของเป่ยฉิน พระพันปีที่เป็นแม่มดคนนั้นของเป่ยฉินเห็นอีกฝ่ายแล้วยังต้องขาสั่น

เมื่อก่อนหลิวฉิงคิดเสมอว่า ความวุ่นวายภายในแคว้นเป่ยฉินเกิดขึ้นเพราะตระกูลของสมุหราชเลขาธิการต้องการจะแย่งชิงบัลลังก์

กระทั่งกู้ฉางเซินมารักษาตัวในแคว้นต้าโจวจนหาย และกลับไปต่อสู้กับกบฏในวังของเป่ยฉิน จึงได้รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดคือมารดาแท้ๆของกู้ฉางเซิน

หญิงชราที่อายุใกล้จะหกสิบคนนี้มีวิธีการที่โหดเหี้ยมถึงขั้นไหนกัน

เพราะไม่อยากจะปล่อยอำนาจให้หลุดมือ หวังอยากจะเป็นจักรพรรดินี ไม่เสียดายที่จะยุยงกู้ฉางเซินที่เป็นลูกชายแท้ๆของตนเองและหลานแท้ๆอย่างกู้จื่ออวี๋ให้เกิดความขัดแย้งกันเอง กระทั่งจะเอาชีวิตของพวกเขา

แค่มองความคิดและความสามารถในการบริหารประเทศของกู้ฉางเซิน ก็รู้แล้วว่าเสี้ยวเจินเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมากแค่ไหน

ตอนที่นางเป็นฮองเฮาก็มักจะยุ่งกับเรื่องในราชสำนัก เป็นเพราะมีมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างกัน มักจะโต้แย้งกับสามีที่เป็นจักรพรรดิอยู่เสมอ ส่วนใหญ่จะลงเอยไม่ดีสักเท่าไหร่

เสี้ยวเจินมีความสามารถในการปกครองประเทศแข็งแกร่งมาก แต่นิสัยแข็งกระด้างเด็ดขาด นับไม่ได้ว่าเป็นที่โปรดปราน พระสนมที่สามีรักเป็นคนอื่น

เสี้ยวเจินดูถูกความรัก และไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นที่โปรดปรานหรือไม่ หลังจากสามีตาย ลูกชายคนโตก็สืบทอดบัลลังก์ นางก็นั่งแท่นเป็นไทเฮาผู้ว่าราชการอยู่หลังม่าน ส่วนพระสนมซึ่งเป็นที่โปรดปรานและมักจะโอ้อวดอำนาจ เป็นปรปักษ์กับนางทุกเรื่องก็มีจุดจบที่น่าอนาถมาก

ผ่านไปนานมากกว่าทุกคนจะรู้ว่า ที่แท้การตายของจักรพรรดิองค์ก่อนเป็นฝีมือของเสี้ยวเจิน นางวางยาพิษสามี และใส่ร้ายพระสนมคนโปรดของเขา

ลูกๆของพระสนมคนโปรดล้วนถูกประหารชีวิต อีกฝ่ายยังถูกแขวนศพประจานอยู่หน้าเมืองหลวงเป็นเวลาหนึ่งเดือน

แต่ลูกชายคนหนึ่งของสนมคนโปรดที่ถูกบ่าวผู้รู้ใจช่วยเอาไว้ แกล้งตายและหนีออกไปจากวังหลวง หลายปีผ่านไปได้ก่อความวุ่นวาย เขาวางแผนแย่งชิงบัลลังก์และก่อเหตุนองเลือดในวังหลวง ฆ่าจักรพรรดิที่เป็นลูกชายของเสี้ยวเจินและองค์ชายอีกหลายคน

บอบช้ำด้วยกันทั้งสองฝ่าย เสี้ยวเจินเหลือลูกชายที่เป็นสายเลือดเพียงคนเดียวนั่นก็คือกู้ฉางเซิน และหลานแท้ๆกู้จื่ออวี๋

ภายใต้ความจนใจ เสี้ยวเจินสนับสนุนให้กู้จื่ออวี๋ที่อายุยังน้อยขึ้นครองบัลลังก์ ให้กู้ฉางเซินที่ยังเป็นวัยรุ่นทำหน้าที่เป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ตนเองกลายเป็นไทฮองไทเฮา

ฐานะที่เปลี่ยนไป ทำให้นางยากจะเป็นเหมือนแต่ก่อนได้ สามารถใช้อำนาจได้ตามอำเภอใจ

หลังจากที่เสี้ยวเจินรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เดาได้ว่ากู้ฉางเซินได้หลุดจากการควบคุมไปแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงวางยาหมายเอาชีวิตเขา เหลือเพียงกู้จื่ออวี๋เอาไว้เป็นหุ่นเชิดจักรพรรดิ

ที่ก็เป็นสาเหตุที่หลิวฉิงพาเขาไปหาอวิ๋นหลิงที่ซีโจวเพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน

ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเป่ยฉิน เสี้ยวเจินเห็นเขาที่หายดี มีฝีมือในการใช้ดาบไร้เทียมทาน ก็รู้สึกตกตะลึงมาก

เวลานี้ทุกคนจึงได้รับรู้ความจริงทุกอย่าง

จนถึงตอนนี้หลิวฉิงก็ยังไม่สามารถลืมสีหน้าของกู้ฉางเซินในตอนนั้นได้ สีหน้าสีขาวของเขา รวมไปถึงสายตาที่มีแววแตกสลาย ทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน

นั่นเป็นครั้งแรกที่นางเห็นกู้ฉางเซินร้องไห้

ครองอำนาจในราชสำนักมาครึ่งค่อนชีวิต ไทฮองไทเฮาเสี้ยวเจินในวัยห้าสิบแปดปีดื่มยาพิษฆ่าตัวตายในพระราชวังของเป่ยฉิน ช่วงเวลาก่อนตายยังนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร

“ท่านแม่......”

กู้ฉางเซินร้องเรียกนางทั้งน้ำตา อยากจะถามนางว่าเสือถึงจะร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง ทำไมจึงต้องทำเช่นนี้

เสี้ยวเจินเอาแต่ลูบบัลลังก์มังกร เสียงชราและแหบแห้งแฝงความรู้สึกทอดถอนใจและไม่พอใจ

“ชนะเป็นราชาแพ้เป็นโจร ที่สุดข้าก็แพ้แล้ว ช่างน่าผิดหวังจริงๆ ถ้าหากข้าเป็นชาย ต้องยืนหยัดเป็นผู้ชนะที่ยาวนานมากแน่ๆ”

“พวกเราไม่ควรเป็นแม่ลูกกัน เจ้าเองก็ไม่เหมือนลูกของข้า ใจอ่อนเกินไป”

เสี้ยวเจินมองลูกชายที่มีหน้าตาเหมือนตัวเองราวกับแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกันเงียบๆ สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนกัน ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นเปล่งประกายมากเกินไป ข้างในมีความรู้สึกซ่อนอยู่มากเกินไป

มุมปากมีรอยเลือดสีม่วงอมดำติดอยู่ นางพิงอยู่กับเก้าอี้มังกรและหยุดหายใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ