เสมือนว่านางคาดการณ์ผลลัพธ์ของการหมั้นหมายครั้งนี้ได้ เสวียนจีจึงเลิกวิตกกังวลว่าจะพูดกับเฟิ่งเหมียนอย่างไร เพราะอย่างไรเสีย ในที่สุดก็ต้องมีคนช่วยเปลี่ยนใจเฟิ่งเหมียนแทนนางอยู่แล้ว
ขณะที่นางถอนหายใจด้วยความโล่งอก หัวใจก็รู้สึกวูบโหวงเล็กน้อย พลางทบทวนตนเองว่าในอดีตนางอาจทำตัวร้ายกาจเกินไปจริง ๆ
เสวียนจีตั้งใจแน่วแน่ ในอนาคตเพื่อรักษาเกียรติของจวนจินอ๋อง นางต้องเปลี่ยนแปลงตนเองเสียใหม่!
......
ในอีกไม่กี่วันถัดมา ทุกคนทยอยเลิกเล่นสนุก และเริ่มเตรียมสิ่งของที่จำเป็นต้องนำติดตัวไป
อวิ๋นหลิงจัดเตรียมกระเป๋าเดินทางหลายใบ โดยแยกประเภทของใช้ออกเป็นเครื่องใช้สำนักงาน ของใช้ในชีวิตประจำวัน เสื้อผ้าและเครื่องสำอาง ของว่างและสินค้าพื้นเมือง ตลอดจนยารักษาโรค
เมล็ดพันธุ์พืชและปุ๋ยที่ฉีเทียนเหอช่วยสั่งซื้อ ถูกบรรจุจนเต็มพื้นที่ห้วงมิติเก็บของของเซียวปี้เฉิง
ด้วยพื้นที่จัดเก็บมีจำกัด จึงไม่สามารถบรรจุได้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือต้องเก็บไว้ในห้องเก็บของในชั้นใต้ดิน เพื่อทยอยขนย้ายในภายหลัง
“ตรวจสอบดูสิว่าของในรายการตกหล่นหรือไม่ เช่น แบตสำรอง โทรศัพท์ โน้ตบุ๊กบางเฉียบ โคมไฟโต๊ะประหยัดพลังงาน เสื้อขนสัตว์ นมผงเด็กอ่อน ของเล่น..."
เพราะการกลับไปยังยุคปัจจุบัน ต่อไปเซียงถวนน้อยจะได้ดื่มนมผง โชคดีกว่าพี่ชายทั้งสองของนางมาก
อวิ๋นหลิงกลับมามีชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อันชาญฉลาดอีกครั้ง แม้ว่ายุคโบราณจะไม่มีไฟฟ้าหรือสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่ก็หาได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์
ด้วยพาวเวอร์แบงค์ที่พัฒนาอย่างล้ำยุค สามารถใช้งานได้ยาวนานถึงครึ่งเดือน
ด้วยสองสิ่งนี้ การทำงานของพวกเขาในอนาคตจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น แม้เซียวปี้เฉิงจะยังใช้ซอฟต์แวร์สำนักงานหลายตัวไม่เป็น แต่ก็ค่อยๆ สอนเขาได้
เวลาว่างก็สามารถเล่นเกม หรือชมอนิเมะและภาพยนตร์เพื่อฆ่าเวลาได้
โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่ซื้อให้พระเจ้าหลวง อวิ๋นหลิงดาวน์โหลดวิดีโอหลายร้อยกิกะไบต์ลงไป เป็นสารคดีที่พระองค์สนใจอย่าง "ประวัติย่อของโลก" และ "ประวัติศาสตร์จีนฉบับสมบูรณ์" รวมทั้งภาพยนตร์ปฏิวัติหลายเรื่อง เพียงพอให้พระองค์ใช้เวลายามว่างในตำหนักบรรทม
แม้พระเจ้าหลวงจะเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ศักดินา แต่พระองค์กลับโปรดปรานภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามต่อต้านการปลดแอกเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องที่เล่าถึงการล้มล้างราชวงศ์เก่าและการก่อตั้งประเทศใหม่ พระองค์ทรงชมซ้ำแล้วซ้ำเล่า และทรงแสดงความตื่นเต้นและศรัทธามากกว่าพวกอวิ๋นหลิงที่เติบโตในยุคสังคมนิยมเสียอีก
“แม้ยุคสมัยจะแตกต่างกัน แต่หลายเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ล้วนทำให้ข้ารู้สึกสะท้อนใจและได้รับแรงบันดาลใจ หากข้าได้ชมสิ่งเหล่านี้เมื่อยังหนุ่ม คงสามารถแก้ปัญหาหลายอย่างได้เหมาะสมยิ่งขึ้น บางทีต้าโจวอาจมีสภาพที่ต่างออกไป"
“อย่างไรก็ดี การที่ข้าได้มีโอกาสพบเห็นสิ่งเหล่านี้ตอนยังชีวิต นับเป็นพรจากสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว"
“เจ้าสาม เจ้ายังหนุ่มแน่น หนทางยังอีกยาวไกล และมีโชควาสนากว่าคนทั่วไปคาด จงรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ดี"
“การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด อย่าได้สิ้นเปลืองเวลา เจ้าอย่าได้มัวแต่เพลิดเพลินในความสุขของตำแหน่งจักรพรรดิ แต่จงเป็นผู้ที่สร้างประโยชน์แก่สังคมและประชาชน!"
ต้องเป็นบุคคลที่สร้างประโยชน์แก่สังคมและประชาชน หาใช่เป็นจักรพรรดิที่ดี อวิ๋นหลิงฟังแล้วอดไม่ได้ที่จะปรบมือให้พระเจ้าหลวง
ดูเถิด เพียงไม่กี่วัน พระองค์ก็มีความตระหนักรู้ในฐานะผู้สืบทอดแนวคิดสังคมนิยมถึงเพียงนี้
ในโลกยุคใหม่เพียงครึ่งเดือน พระเจ้าหลวงก็ปรับตัวได้โดยไม่มีความขัดแย้งหรือไม่สบายใจ หากอยู่ในชุมชน เขาสามารถเข้ากับกลุ่มคุณลุงที่นั่งเล่นหมากรุกริมถนนได้อย่างกลมกลืน
บุคลิกของเขากลายเป็นสงบสุขุมมากขึ้น แฝงด้วยความปล่อยวางและเปิดใจกว้างของผู้ที่ปลงกับเรื่องราวหลากหลายในชีวิต
หากกล่าวว่าพระเจ้าหลวงในอดีตทรงบารมีและน่าเกรงขามในแบบฉบับผู้ปกครองสูงสุด บัดนี้เขากลับดูเหมือนคุณลุงชาวจีนธรรมดา ๆ ผู้ที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย
เมื่อเตรียมตัวกลับต้าโจว ตาเฒ่าเล็กกลับยิ้มแย้มอารมณ์ดี สีหน้าไม่แสดงความอาวรณ์เหมือนเสวียนจี ที่ขมวดใบหน้าเล็ก ๆ ของนางเป็นลูกมะระด้วยความเสียดาย
“เวลาเที่ยวก็จงสนุกสนานให้เต็มที่ แต่เมื่อถึงเวลาหยุดเล่น ก็จงเรียกจิตกลับคืนมา เด็ก ๆ...กลับบ้านกันเถอะ"
ครึ่งเดือนผ่านไปในพริบตา ทุกคนมารวมตัวกันรอบสวนดอกไม้หลังบ้าน เพื่อรอค่ายกลเปิดตามเวลากำหนดอีกครั้ง
ในบรรดาทุกคน คนที่ตื่นเต้นที่สุดคงไม่พ้นฉีเทียนเหอ
พระเจ้าหลวงกล่าวพลางหัวเราะ ก่อนจะเดินเข้าสวนดอกไม้โดยมีเซียวปี้เฉิงช่วยประคอง
สวนหลังบ้านที่เคยคึกคักกลับเงียบสงบในเวลาไม่นาน
อ้ายเฟยแสดงสีหน้าราวกับจะร้องไห้อย่างน่าสงสาร พร้อมโบกผ้าเช็ดหน้าเล็กๆ ในมือ เสียงอิเล็กทรอนิกส์ของนางแฝงความน้อยใจและเศร้าสร้อย
“คุณหนูที่รักทั้งหลาย อย่าลืมกลับมาบ้านบ่อยๆ นะ อย่าลืมอ้ายเฟยล่ะ ข้าจะรอพวกเจ้าอยู่ที่นี่"
ใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน แสงในสวนดอกไม้ค่อยๆ เลือนลาง เหลือเพียงดวงดาวระยิบระยับแขวนอยู่บนผืนฟ้า
......
พระราชวังต้าโจว ดวงจันทร์ซ่อนตัวอยู่หลังเมฆหมอกอย่างขวยเขิน ไม่ปรากฏเงาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
กงจื่อโยวปีนออกมาจากบ่อน้ำก่อนจะยืดแขนขา "เห้อ... ในที่สุดก็กลับมาได้เสียที ลานนี่มืดเหลือเกิน ไม่มีแม้แต่โคมไฟสักดวง ทำเอาหวั่นใจไม่น้อย"
หลังจากเคยชินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สว่างไสวของเมืองหลวง บัดนี้กลับรู้สึกไม่คุ้นชินเสียแล้ว
เซียวปี้เฉิงมองไปรอบๆ กับภาพทิวทัศน์ที่คุ้นเคย พลางรู้สึกเหมือนหลุดพ้นกาลเวลามาอีกยุคหนึ่ง
“คืนนี้ทุกคนพักในวังไปก่อนเถอะ หากข้าจำไม่ผิด พรุ่งนี้กับวันถัดไปน่าจะเป็นวันหยุดพักผ่อน พวกเจ้าพักผ่อนให้เต็มที่เลย"
ในอดีต ขุนนางในราชสำนักต้องทำงานห้าวันหยุดหนึ่งวัน แต่เพื่อให้สอดคล้องกับจังหวะและรูปแบบของสำนักศึกษา จึงได้ปรับเปลี่ยนให้ทำงานห้าวันหยุดสองวัน โดยเริ่มงานตั้งแต่เก้าโมงเช้า
มาตรการนี้นับว่ามีความเอื้ออาทรต่อผู้คนยิ่งนัก ประกอบกับการแพร่หลายของเกวียนไม้ ทำให้เหล่าขุนนางไม่ต้องตื่นก่อนฟ้าสางมารอต่อคิวที่หน้าประตูพระราชวังอีกต่อไป สามารถรับประทานสำรับอาหารเช้าแล้วจึงเข้าวังได้อย่างไม่เร่งรีบ
เซียวปี้เฉิงโบกมือเรียกฉีเทียนเหอ "เทียนเหอ มาทางนี้ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงข้ากับหลิงเอ๋อร์จะพาเจ้าไปจวนตระกูลเฟิง"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...