พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 115

เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิจาวเหริน ฮองเฮาเฟิงที่นิ่งอยู่บนบัลลังก์ก็เก็บรอยยิ้ม มองเซียวปี้เฉิงด้วยสายตาอึมครึม

เวินหวยหยูคนนี้......เดิมทีนางคิดว่าประทานงานแต่งงานให้กับผู้ชายในตระกูลเวินจะดีที่สุด

คิดไม่ถึงว่าจักรพรรดิจาวเหรินจะไม่พูดพร่ำทำเพลงยกนางให้เป็นพระชายารองของเซียวปี้เฉิงเลย กระทั่งไม่ปรึกษากับนางเลยด้วยซ้ำ

อวิ๋นหลิงไม่รู้ว่าจักรพรรดิจาวเหรินคิดอะไรอยู่ในใจ จึงตอบรับไป นางพึมพำกับเซียวปี้เฉิงเบาๆว่า “ครั้งนี้เสด็จพ่อของท่านคงต้องจ่ายหนักมาก บ้านที่ถนนจูเชี่ยแพงมาเลย”

แต่ว่านางก็เป็นถึงหลานกำพร้าของขุนนางผู้ภักดี ก็สมแล้วที่จะได้รับความรักจากจักรพรรดิจาวเหรินและพระพันปี

เซียวปี้เฉิงฝืนยิ้มที่มุมปาก “......อืม”

เมื่อเห็นว่าอวิ๋นหลิงรู้ตัวช้ามาก เหมือนไม่รับรู้ถึงความหมายของจักรพรรดิจาวเหรินเลย เขาไม่เพียงแต่จะไม่รู้สึกโชคดี ดวงใจกลับยิ่งรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาอีก

เมื่อนึกถึงเจตนาของจักรพรรดิจาวเหรินที่เรียกอวิ๋นหลิงไปพบเป็นการส่วนตัว เขาจะนิ่งต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ ความรู้สึกไม่สบายใจเช่นนี้มาถึงจุดสูงสุดตอนที่อวิ๋นหลิงออกไปจากงานเลี้ยง

เซียวปี้เฉิงมองเงาร่างของอวิ๋นหลิงที่เดินออกไป เขาแทบจะนั่งไม่ติดที่

คงไม่ใช่ว่าผ่านคืนนี้ไปแล้ว ภรรยาของเขาก็หนีเขาไปกระมัง

อวิ๋นหลิงนั่งอยู่ในงานเลี้ยงตั้งนาน ไม่ได้แตะต้องอาหารเลย และรู้สึกหิวตั้งนานแล้ว นางเดินตามหลังจักรพรรดิจาวเหริน หยิบเอาขนมกุ้ยฮัวออกมาจากถุงผ้าชิ้นหนึ่งยัดเข้าไปในปากอย่างไร้สุ้มไร้เสียง

เมื่อจักรพรรดิจาวเหรินเข้าไปในพระที่นั่งบำรุงฤทัย เพิ่งจะหมุนตัวก็เห็นความเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆทั้งหมดของอวิ๋นหลง มุมปากกระตุกขึ้นมาหลายครั้งอย่างควบคุมไม่ได้

เอาเถอะ ไม่อยากจะถือสากับเด็กสาวที่ไร้มารยาทเช่นนี้

กระแอมไอเล็กน้อย จักรพรรดิจาวเหรินก็พูดเข้าเรื่องตรงประเด็นเลยว่า “สะใภ้ของเจ้าสาม ตอนต้นปีเจ้ากับเจ้าสามแต่งงานกันฉุกละหุก งานแต่งงานก็จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ข้ามาคิดดูแล้ว เมื่อเทียบกับงานแต่งงานของเจ้าใหญ่ ถือว่าปฏิบัติต่อพวกเจ้าไม่ยุติธรรมจริงๆ”

อวิ๋นหลิงได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล

“มิกล้ามิกล้า การจัดการเรื่องงานแต่งเป็นเรื่องเล็ก คำอวยพรของเสด็จพ่อต่างหากที่ล้ำค่าที่สุด”

ปากนางก็พูดไปตามมารยาท แต่ในใจกลับไม่คิดว่าจักรพรรดิจาวเหรินจะเกิดมีจิตสำนึกขึ้นมา เสียใจที่ตนเองไม่ได้ปฏิบัติต่อลูกชายของตนเองอย่างเท่าเทียมกัน

ไหนว่าจะมอบหมายเรื่องของเวินหวยหยูไม่ใช่หรือ ทำไมจู่ๆถึงพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

สายตาของจักรพรรดิจาวเหรินมองไปที่นาง ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ข้าคิดว่าจะชดเชยเจ้าเป็นเงินหนึ่งแสนตำลึง เจ้าคิดว่าอย่างไร”

คิ้วบางของอวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะเลิกสูงขึ้น เอ่ยอย่างตกตะลึงว่า “ไม่ใช่ ทรงมีเงินมากไม่เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเพคะ”

อยู่ๆก็มาทำดีด้วย ต้องหวังผลอะไรแน่ๆ

เพียงแต่ตอนที่จักรพรรดิจาวเหรินพูดประโยคนี้ออกมา ปฏิกิริยาแรกของอวิ๋นหลิงกลับไม่ใช่ความแปลกใจที่ทำไมจู่ๆจึงอยากจะชดเชยให้นาง

แต่เป็นการสงสัยว่าฮ่องเต้ยาจกคนนี้มีเงินมากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงได้ใจป้ำขนาดนี้

สีหน้าของจักรพรรดิจาวเหรินดำคล้ำขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าคนทั้งราชสำนักจะรู้ว่าเขาไม่มีเงิน แต่ก็ไม่มีใครโง่พอที่จะพูดออกมาตรงๆเช่นนี้

“เจ้าไม่ต้องสนใจ ในเมื่อยอมรับเงินก้อนนี่เอาไว้แล้ว เช่นนั้นเรื่องของเวินหวยหยูก็ตกลงตามนี้แล้วกัน”

ในที่สุดความรู้สึกที่เชื่องช้าของนางก็รับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากล “จวิ้นจู่เวินหวยหยู เรื่องอะไรของนาง”

จักรพรรดิจาวเหรินขมวดคิ้วขึ้นมา “ตอนนี้หลังบ้านของเจ้าสามเงียบเหงา ข้าต้องการจะมอบเวินหวยหยูให้ไปเป็นพระชายารองของเขา เมื่อครู่เจ้าฟังที่ข้าพูดไม่เข้าใจหรือไง”

อวิ๋นหลิงนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ในใจเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดบอกไม่ถูกสายหนึ่งวาบผ่านไป

นางมีลางสังหรณ์ตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องมีวันนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมาถึงเร็วมาก

“เวินหวยหยูเป็นลูกกำพร้าของตระกูลเวิน ข้าไม่อาจปฏิบัติต่อนางอย่างไร้ความยุติธรรมได้ แต่เจ้าสามบอกว่างานแต่งงานของเขากับเจ้าจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายเกินไป เกรงว่าเจ้าจะไม่พอใจ ข้าก็เลยให้ความเสมอภาคกัน”

ได้ยินคำพูดประโยคนี้ ในใจของอวิ๋นหลิงมีความรู้สึกบางอย่างที่บรรยายไม่ถูก รู้สึกแค่ว่าบริเวณหน้าอกมีความลนลานอย่างไม่รู้สาเหตุ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ