ฉีเทียนเหอรู้สึกตื่นเต้น เขาอยากพบกับท่านเซียนบรรพกาลในตำนานมานานแล้ว ก็อยากจะขอให้เขาชี้แนะหลายๆ เรื่อง
พวกเขาไม่รอช้า มาถึงลานแห่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในพระราชวัง ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเล่นกันของเด็กๆ อยู่แต่ไกล
“สูงขึ้นอีกหน่อย ท่านตาเล็กสูงขึ้นอีกหน่อย!”
เกี่ยวกับเต้าหวู๋ซินนั้น ฉีเทียนเหอได้รู้เรื่องราวของเต้าหวู๋ซินจากปากพี่น้องทั้งสี่คนมาไม่น้อย รวมถึงอดีตของอีกฝ่ายกับฉีไหวเซิง บรรพบุรุษของเขาด้วย
แต่เขาไม่ได้ถามละเอียดว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นอย่างไร
ดังนั้นเขาจึงมโนภาพลักษณ์ของนักพรตเฒ่าผู้เป็นเทพเซียนโดยสัญชาตญาณ ไม่นึกว่าตัวจริงจะอ่อนโยน สง่างาม และหล่อเหลา ดูแก่กว่าเขาเพียงไม่กี่ปี
ภายใต้แสงแดดยามสารทฤดู นักพรตสวมชุดคลุมสีครามเทายืนอยู่ข้างโต๊ะหิน รวมผมหางม้ายาวหนาขึ้นสูง กำลังโยนและรับเด็กน้อยอายุสามขวบด้วยรอยยิ้มพราย
ที่ข้างเท้าเขา ยังมีเด็กชายตัวเล็กผู้หนึ่งที่น่ารักและขาวดุจหิมะกำลังดึงขากางเกงและเรียกเขาด้วยเสียงตามประสาเด็ก
“ท่านตาเล็ก เสวี่ยถวนเอ๋อร์ก็อยากโบยบิน”
“นี่เป็นฝาแฝดของครอบครัวพี่สามเซียวหรือเปล่า” ฉีเทียนเหอเอ่ยขึ้นทันที อดถูมือไปมาไม่ได้ “จุ๊ๆ ดูน่ารักจริงๆ แฮะ ทำให้มันเขี้ยวอยากเอาใส่กระสอบกลับไปด้วย”
“ท่านแม่!”
เมื่อสังเกตเห็นรูปร่างของพวกเขา ฮั่วถวนเอ๋อร์พยายามกระโดดลงจากแขนของเต้าหวู๋ซิน ก้าวขาสั้นๆ โผเข้ากอดอวิ๋นหลิง
เขาจ้องมองฉีเทียนเหอด้วยสองตากลมโตสีดำ กะพริบตาปริบๆ อย่างสงสัยใคร่รู้ ทันใดนั้นก็เอ่ยพูดเสียงใส
“พี่ชาย ทำไมถึงอยากกินพระจันทร์ล่ะ”
ฉีเทียนเหออึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นเอื้อมมือไปบีบดวงหน้าเล็กอันนุ่มนิ่มของฮั่วถวนเอ๋อร์ “เด็กน้อย ทำไมถึงถามแบบนี้”
“เพราะท่านตาเล็กเคยบอกไว้ว่าสุนัขสวรรค์จะกินพระจันทร์”
ฉีเทียนเหอเลิกคิ้วแล้วพูดยิ้มๆ “หืม? หรือว่าผมดูเหมือนสุนัข?
ฮั่วถวนเอ๋อร์เตือนอย่างจริงจัง “ท่านตาเล็กบอกว่าเขาเคยเห็นปีศาจผมขาว พอถูกโบยตีกลับร่างเดิมก็เป็นสุนัขขาวตัวใหญ่ ดังนั้นพี่ชายจะต้องเป็นปีศาจสุนัขขนขาวตัวใหญ่แน่ๆ! อย่ากินพระจันทร์เป็นอันขาดนะ ไม่เช่นนั้นต่อไปพวกถวนถวนจะไม่มีขนมไหว้พระจันทร์ให้กินอีกแล้ว ถ้าทำชั่วจะถูกท่านตาเล็กโบยตีกลับร่างเดิม”
ตรรกะแปลกๆ ของเด็กมีจินตนาการอันบรรเจิดจนสามารถเชื่อมโยงสามเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันได้
อวิ๋นหลิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เจ้าบื้อน้อย เขาไม่ใช่ปีศาจ จากนี้ไปเรียกว่าพี่เทียนเหอ”
นางมองไปยังตงชิงที่อยู่ข้างหลัง โบกมือให้อีกฝ่ายพาเด็กทั้งสองออกไปก่อน
เด็กสองพี่น้องเดินไปสองสามก้าวก็หันกลับไปจ้องฉีเทียนเหอ เห็นชัดว่าอยากรู้เกี่ยวกับเขา
“พวกเจ้ามานั่งลงก่อนเถอะ”
เสียงอ่อนโยนของเต้าหวู๋ซินดังขึ้น ชี้ให้พวกเขาไปนั่งที่ข้างโต๊ะหิน
มีชาร้อนที่เพิ่งชงใหม่ๆ วางอยู่บนโต๊ะหิน มีถ้วยชาสี่ใบไม่มากไม่น้อยวางอยู่ข้างๆ พอดีราวกับคาดการณ์ไว้ว่าพวกเขาจะมาถึงล่วงหน้า
เซียวปี้เฉิงกล่าวว่า “อาจารย์หวู๋ซิน เขาก็คือฉีเทียนเหอที่ข้าเคยเอ่ยให้ท่านฟังก่อนหน้านี้”
เมื่อเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ผู้ลึกลับเช่นนี้ ฉีเทียนเหอแสดงท่าทีจริงจังอย่างหาได้ยาก เขาประสานมือคารวะอีกฝ่ายพร้อมกับกล่าวด้วยความเคารพ “สวัสดีครับท่านบรรพบุรุษ”
เต้าหวู๋ซินได้ยินเขาเรียกขานเช่นนี้ก็รู้สึกขบขัน “ไม่ต้องมากพิธี จะว่าไป ข้ามีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับตระกูลฉี เช่นนั้นทำตัวตามสบายเถิด”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...