พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 117

สรุปบท ตอนที่ 117 พวกเราแยกย้ายกันเถอะ: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน ตอนที่ 117 พวกเราแยกย้ายกันเถอะ – จากเรื่อง พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali

ตอน ตอนที่ 117 พวกเราแยกย้ายกันเถอะ ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน Anchali เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ลมพัดเย็นในคืนฤดูร้อน พระจันทร์เสี้ยวลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า

เซียวปี้เฉิงรออยู่ที่หน้าประตูวังหลวงเป็นเวลานานแล้ว ทุกวินาทีที่ผ่านในใจไม่สงบเลย รู้สึกเหมือนเวลาช่างยาวนานมาก

ไม่ง่ายเลยกว่าจะเห็นเงาร่างของอวิ๋นหลิง เขารีบกระโดดลงจากรถม้า ถามอย่างรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยว่า “ทำไมเพิ่งจะออกมา เสด็จพ่อทรงพูดอะไรกับเจ้าบ้าง”

อวิ๋นหลิงมุมปากโค้งขึ้นด้วยความเคยชิน “ไม่มีอะไร ไปกินอาหารที่ตำหนักของพระเจ้าหลวงมา จึงเสียเวลาไปหน่อย”

เซียวปี้เฉิงแอบสังเกตดูอวิ๋นหลิง นางสวมผ้าคลุมใบหน้า มองสีหน้าได้ไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่น้ำเสียงฟังแล้วดูอารมณ์สงบนิ่งปกติ

เขารู้สึกไม่แน่ใจขึ้นมาชั่วขณะ

หรือว่าเสด็จพ่อไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องของเวินหวยหยู

เซียวปี้เฉิงคิดเช่นนี้ รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ยื่นมือไปประคองนาง “เจ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่ ให้ข้าประคองเจ้า”

อวิ๋นหลิงเบี่ยงตัวหลบมือของเขา จับขอบรถม้าเดินขึ้นไปบนรถม้าเอง “ไม่ต้อง ข้าเดินเองได้”

สังเกตเห็นถึงความเย็นชาผิดปกติของนาง เซียวปี้เฉิงสีหน้าแข็งค้าง ในใจเกิดความรู้สึกทำอะไรไม่ถูกและเกิดความตื่นตระหนกไม่สบายใจกรูขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

เขามุดตามเข้าไปในรถม้า อวิ๋นหลิงนั่งอย่างเรียบร้อยอยู่ที่มุมของรถม้า ดึงระยะห่างออกจากเขาไปหลายนิ้ว

บรรยากาศที่เงียบงันทำให้เกิดความหนักอึ้งอย่างผิดปกติ

เขากัดฟันพูด ด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยแววง้องอนอยู่หลายส่วนโดยที่ตนเองไม่รู้ตัว “ดูเจ้าสีหน้าไม่ค่อยจะดีเลย เหนื่อยแล้วใช่หรือไม่ คืนนี้หลับจวนไปก็รีบพักผ่อนเถอะ”

อวิ๋นหลิงเหลือบตาขึ้นมามองเขา ไม่พูดจา จากนั้นก็หยิบพัดที่อยู่ข้างๆขึ้นมาโบก

ทั้งๆที่ไม่ร้อน แต่ไม่รู้ทำไมในใจของนางจึงรู้สึกเหมือนมีไฟสะกดกลั้นเอาไว้ไม่ได้

เซียวปี้เฉิงยิ่งรู้สึกร้อนใจขึ้นมา ทำตัวไม่ถูก “เจ้า......เจ้าเป็นอะไร”

ในที่สุดอวิ๋นหลิงก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเนิบช้าไม่รีบร้อน “ไม่มีอะไร เมื่อครู่ข้ากำลังครุ่นคิดบางเรื่องอยู่”

“เรื่องอะไร”

“ข้ามาคิดทบทวนอย่างละเอียดแล้ว พวกเราแยกย้ายกันเถอะ”

เซียวปี้เฉิงชะงักไปราวกับถูกสายฟ้าฟาด เหมือนถูกทุบที่ศีรษะหนักๆหนึ่งที ทุบจนเขารู้สึกเวียนหัวตาลาย

“แยกย้าย”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า ก้มหน้าลงจัดระเบียบชายกระโปรงที่ดูยุ่งเหยิง ในสายตามีแววอธิบายไม่ถูก

“เมื่อก่อนข้าเคยบอกท่านมิใช่หรือ ถ้าหากวันนี้ท่านต้องการจะแต่งเมียน้อย เช่นนั้นพวกเราก็แยกย้าย ข้ารู้เรื่องของเวินหวยหยูจากฮ่องเต้แล้ว”

“ดังนั้น” อวิ๋นหลิงหยุดไปชั่วครู่ น้ำเสียงฟังไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน “พรุ่งนี้พวกเรารีบทำเรื่องหย่าให้เรียบร้อยเถอะ เจอกันด้วยดีจากกันด้วยดี ใครก็อย่าทำอีกฝ่ายเสียเวลาเลย”

เหมือนได้ตัดสินใจแล้ว แม้แต่คำว่า “เสด็จพ่อ” นางก็ไม่เรียกแล้ว หัวใจของเซียวปี้เฉิงเหมือนจมลงไปในทะเลสาบที่เย็นเฉียบ

นอกรถม้า ลู่ฉีที่ตามมาคุ้มครองได้ยินประโยคนี้แว่วๆ ก็รู้สึกตกใจมาก ดีกันอยู่แท้ๆทำไมจู่ๆจึงจะแยกย้ายกันเล่า

“ท่าน......”

ยังไม่ทันได้พูดออกมา เยี่ยเจ๋อเฟิงก็รีบเอามือปิดปากลู่ฉีเอาไว้ ถลึงตาให้เขาเป็นการเตือน

ทั้งสองส่งสายตาให้กันแวบหนึ่ง ก็ค่อยๆแอบฟังบทสนทนาขึ้นมา

“ในเมื่อดวงตาของท่านก็หายดีแล้ว ในฐานะที่รู้จักกันข้าก็จะไม่เก็บค่ารักษากับท่าน ใช่แล้ว......ขาของเจ้าเด็กเยี่ยนอ๋อง ข้าจะยังคงทำการรักษาให้เขาเหมือนเดิม”

เสด็จพ่อได้พูดเรื่องที่จะประทานเวินหวยหยูให้แต่งงานกับเขาจริงๆด้วย

เวลานี้ เซียวปี้เฉิงไม่มีเวลาไปคิด ว่าทำไมจู่ๆจักรพรรดิจาวเหรินจึงได้มีเงินให้เขาจัดงานแต่งงาน

เมื่อได้ยินอวิ๋นหลิงพูดกระทั่งเรื่องที่วางแผนไว้ในภายหน้าแล้ว เขาก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้นมาทันที

เสด็จปู่ ท่านสมกับเป็นเสด็จปู่ของข้าจริงๆ

รถม้าหยุดอยู่หน้าประตูจวนจิ้งอ๋อง อวิ๋นหลิงพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะกระโดดลงจากรถม้าไป ลู่ฉีที่กำลังแอบฟังอยู่ด้านนอกล้มหงายลงไปกับพื้นทันที

ลู่ฉีรีบลุกขึ้นมา เผยรอยยิ้มประจบออกมา ทันใดนั้นก็ถูกสายตาที่น่ากลัวของอวิ๋นหลิงทำเอาตกใจจนหุบยิ้ม

“พระๆๆๆ......ชายา......”

อวิ๋นหลิงเหลือบตามองเขาอย่างไร้อารมณ์แวบหนึ่ง หมุนตัวเดินเข้าไปในจวน กลับไปยังเรือนหลันชิงโดยไม่ผ่อนฝีเท้าลงเลย

เซียวปี้เฉิงรีบกระโดดลงจากรถม้าไปตามนาง “อวิ๋นหลิง รอก่อน”

ลู่ฉีปาดเหงื่อบนหน้าผาก กระตุกแขนเสื้อของเยี่ยเจ๋อเฟิงด้วยใจที่หวาดผวา “องครักษ์เยี่ย สายตาของพระชายาเมื่อครู่ช่างน่าตกใจจริงๆ”

ช่างน่าแปลกจริงๆ ทั้งๆที่พระชายาไม่ได้โกรธ ทำไมจึงยังรู้สึกว่าสายตาที่มองเขาจึงได้น่ากลัวมาก

“ก่อนเข้าวังพวกเขายังพูดจาหัวเราะกันอยู่เลย ทำไมไปเข้าร่วมงานเลี้ยงกลับมาจึงกลายเป็นเช่นนี้”

แม้ว่าหน้าตาของพระชายาจะน่ากลัวอยู่บ้าง แต่ลู่ฉีก็รู้สึกว่า มีอวิ๋นหลิงเป็นนายหญิงของจวนจิ้งอ๋องก็ดีมากเลย

ตั้งแต่อวิ๋นหลิงแต่งงานเข้ามาอยู่ในจวนจิ้งอ๋อง ท่านอ๋องก็นับว่ามีชีวิตชีวาขึ้นมาหลายส่วน ไม่เงียบขรึมเหมือนแต่ก่อน......

เยี่ยเจ๋อเฟิงไม่พูดจา เขามองไปยังทิศทางที่ทั้งสองคนจากไปอย่างเป็นกังวล ขมวดคิ้วแน่น

เซียวปี้เฉิงเดินอย่างรวดเร็วไปที่หน้าประตูเรือนหลันชิง แต่กลับพบว่าถูกปิดประตูไม่รับแขก

“ข้าง่วงแล้วอยากจะนอน มีเรื่องอะไรไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้เถอะ” ทิ้งคำพูดนี้เอาไว้ อวิ๋นหลิงก็ดับไฟในเรือน

เซียวปี้เฉิงร้อนใจราวกับถูกไฟลน เดินไปมาอยู่หน้าประตูนานมาก อดไม่ได้ที่จะยิ้มขมขื่นออกมา

เคยเห็นแต่คนหักหลังพ่อ หักหลังแม่ แต่คนที่หักหลังหลานตัวเองอย่างพระเจ้าหลวง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ