แม้ว่าจะดับตะเกียงแล้วแต่อวิ๋นหลิงก็ไม่ได้ถอดเสื้อผ้าชาววังที่ทั้งหนักทั้งหนาออก แต่นางกลับรื้อของและจัดสัมภาระ
เมื่อเห็นแบบนั้นตงชิงก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ “พระชายา! ท่านคงไม่ไปจริงๆ ใช่ไหมเพคะ!”
ในใจของอวิ๋นหลิงเต็มไปด้วยโกรธที่ระบายออกมาไม่ได้ นางอยากจะตอบออกไปว่าใช่ แต่เมื่อกำลังจะเอ่ยออกมานางก็เปลี่ยนคำพูดโดยไม่รู้ตัว
“ข้าจะกลับไปอยู่ที่เรือนท่านแม่สักสองวัน”
ตงชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้ว่าหัวใจของนางจะหายตกใจแล้ว แต่ดวงตาของนางยังคงมองไปที่นายหญิงอย่างเศร้าสร้อย
จิ้งอ๋องจะแต่งพระชายาอีกคน นางรู้ว่าพระชายาไม่สบายใจ เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่สามารถทักทายสามีที่พาหญิงอื่นเข้าเรือนได้ด้วยรอยยิ้มหรอก
แต่โลกใบนี้ไม่ยุติธรรมกับสตรีเอาเสียเลย มีชายคนไหนที่ไม่มีเล็กมีน้อยบ้าง
แค่ในผู้ชายตระกูลฉู่ยังหาได้ยากเลย แม้แต่จวนเหวินกั๋วกงที่ผู้คนชื่นชมก็ยังบ่มเพาะคนที่ทำลายมาตรฐานอย่างรัฐทายาทผู้เฒ่า
“พระชายา ให้บ่าวถอดอาภรณ์ให้แล้วพักผ่อนเถิดเพคะ”
เวลานี้คำพูดปลอบโยนคงไม่จำเป็น ตงชิงก้าวมาข้างหน้าเพื่อถอดเครื่องประดับและเสื้อคลุมให้นาง
“เจ้าเองก็ไปพักผ่อนเถอะ”
หลังจากบอกให้ตงชิงกลับไป อวิ๋นหลิงก็นอนลงบนเตียงนุ่ม แต่นางก็นอนไม่หลับและได้แต่พลิกตัวไปมา
ผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดนางก็สัมผัสได้ถึงพลังจิตของเซียวปี้เฉิงในลานห่างไกลออกไป นางจึงลุกขึ้นนั่งช้าๆ
ไหนๆ ก็นอนไม่หลับแล้ว นางจึงหยิบหินอุกกาบาตสีแดงก้อนนั้นออกมาและคิดจะฝึกตนตลอดทั้งคืน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คืนนี้นางไม่สามารถทำใจให้สงบและเข้าสู่ห้วงสมาธิได้
คำพูดของจักรพรรดิจาวเหรินและเซียวปี้เฉิงปรากฏขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในความคิดของนางและอวิ๋นหลิงก็ปวดหัวจนต้องเปิดหน้าต่างแกะสลักออก
แสงจันทร์สีเงินส่องลงมาราวกับน้ำไหลเชี่ยว ลมกลางคืนพัดผ่านใบหน้าของนางจนนางตัวสั่นและความคิดก็สงบลงมาก
“วันนี้เป็นอะไรไปนะ”
คุณสมบัติทางจิตใจที่แข็งแกร่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของผู้ใช้พลังจิต ไม่ว่าจะต้องเจออุปสรรคมากมายเพียงใด นางก็ยังรักษาสภาพจิตใจที่มั่นคงและไม่ตื่นตระหนกเอาไว้ได้
แต่เมื่อครู่นี้ แม้แต่ห้วงสมาธิที่ง่ายที่สุดนางยังเข้าไม่ได้
นี่มันผิดปกติ ผิดปกติมากๆ!
ความสับสนและความหดหู่บางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเกลื่อนกลาดอยู่ในหัวใจของนาง
ราวกับรับรู้ถึงอารมณ์หดหู่ของอวิ๋นหลิง พลังจิตวิญญาณที่เบาบางและอ่อนวัยสองดวงในท้องแวบขึ้นมาดึงสติและปลอบประโลมนาง
อวิ๋นหลิงวางมือลงบนหน้าท้องโดยไม่รู้ตัวและสีหน้าของนางก็อ่อนโยนขึ้นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
“ช่างเถอะ อยู่สงบๆ สักสองวันแล้วกัน”
นางรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับสภาพจิตใจของนางและทางออกที่ดีที่สุดคือวางความคิดฟุ้งซ่านลงและสงบจิตสงบใจสักวันสองวัน
......
เซียวปี้เฉิงก็นอนไม่หลับทั้งคืนเช่นกัน
ก่อนรุ่งสางเช้าวันรุ่งขึ้น เขาฉุดลู่ฉีที่ยังอยู่ใต้ผ้าห่มขึ้นมา
ลู่ฉีเช็ดน้ำลายมุมปากและพูดอย่างงัวเงีย “ท่านอ๋อง...ดึกดื่นไม่หลับไม่นอน มาทำอะไรในห้องข้าน้อย”
“มีเรื่องให้ทำมากมายในกองทัพ ต้องไปค่ายไวหน่อย!”
ด้วยคำสั่งของเซียวปี้เฉิง ลู่ฉีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟันลุกจากที่นอน เขามองท้องฟ้ายามเช้าที่มีแสงสลัวและย่นหน้าอย่างอมทุกข์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...