เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1173

กู้ฮั่นม่อยิ้มด้วยแววตาสดใส “ขอบคุณพระชายารัชทายาทที่ห่วงใย คนที่ยุ่งไม่ได้มีแค่ข้าคนเดียว นี่เป็นปีสุดท้ายที่จะอยู่ในสำนักศึกษาแล้ว ทุกคนต่างก็พยายามที่จะส่งกระดาษคำตอบที่พอน่าพอใจที่สุด”

ร่ำเรียนอย่างยากลำบากอยู่ในสำนักศึกษามาสองปี หลังจากเปิดเทอมช่วงเดือนเก้าของปีนี้ นักเรียนชั้นปีที่สามชุดแรกก็ทยอยเข้าสู่การฝึกงานแล้ว

โลกภายนอกมีสีสันมาก ดึงดูดให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจ แม้จะยุ่งมาก แต่ก็มีชีวิตเต็มไปด้วยสีสัน

“ศิษย์ได้ยินหัวหน้าสำนักกู้บอกว่า ท่านกับองค์รัชทายาทวางแผนจะนำประชาชนปลูกผักอย่างนั้นหรือ”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า “ใช่แล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เมล็ดพันธุ์ผักและธัญพืชชั้นดีมาจากสถานที่ต่างๆ ถ้าได้ผลผลิตไม่เลวละก็ หลังจากนี้ราชสำนักจะสามารถขายเมล็ดพันธุ์พืชตามฤดูกาลให้กับประชาชนในราคาที่ต่ำตามเวลาที่กำหนดไว้ได้”

กู้ฮั่นม่อมองชุดที่ทำจากผ้าฝ้ายหยาบๆของนางอย่างวิเคราะห์ เอ่ยจากใจจริงว่า “ต้าโจวมีท่านกับองค์รัชทายาท เป็นบุญของประชาชนจริงๆ”

เขาเคยเห็นขุนนางซื่อสัตย์ปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความเมตตา แต่สมาชิกในราชวงศ์ที่ใช้แรงกายของตนเองนำพาประชาชนปลูกผักเอง กลับพบเห็นเป็นครั้งแรก

ขณะที่ทั้งสองคุยกันอยู่ ไม่นานนักก็ไปถึงหอไท่เสวี่ย

ไม่นานนักเซียวปี้เฉินและเหล่าองครักษ์ก็ยกเมล็ดพันธุ์ธัญพืชและปุ๋ยชุดแรกเข้ามา

หอไท่เสวี่ยเป็นสถานที่ที่ปกติจะใช้จัดการประชุมสำคัญของเหล่าบุคลากรในสำนักศึกษา วันนี้เก้าอี้นับสิบตัวในห้องถูกนั่งจนเต็ม ดูแน่นขนัดเต็มพื้นที่

นอกจากขุนนางจากกระทรวงเกษตรแล้ว อวิ๋นหลิงยังเห็นเมิ่งฝูเอ๋อร์กับหลี่หยวนเส้า อีกฟากหนึ่งมีผู้เฒ่าและชายวัยกลางคนกลุ่มหนึ่งที่สวมชุดธรรมดาแต่สะอาดสะอ้านนั่งอยู่ ดูจากการแต่งตัวแล้วน่าจะเป็นชาวบ้านที่อยู่บริเวณตีนเขา กำลังกระซิบพูดคุยกันอยู่

พระเจ้าหลวงจูงมือสองพี่น้องถวนถวนเข้าไปนั่งลงที่มุมหนึ่งของห้อง ถ้าไม่มีใครสังเกต คงจะคิดว่าเขาเป็นเกษตรกรที่ปลูกผักคนหนึ่ง

หลิวฉิงเดินเข้าไปพูดว่า “น้องเขยสาม พวกท่านมากันแล้วหรือ”

ลูกศิษย์ที่อยู่ในห้องเดินเข้ามาคำนับ “คำนับองค์รัชทายาท พระชายารัชทายาท”

หลังจากที่ชาวบ้านรู้สถานะของทั้งสองคนแล้ว ก็รู้สึกแปลกใจต่อการแต่งกายของพวกเขาอยู่บ้าง รีบลุกขึ้นมาและคุกเข่าลงกับพื้น

“ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี” เซียวปี้เฉิงทำท่าประคองอากาศ ส่งสัญญาณให้พวกเขานั่งลง “คิดว่าทุกคนคงจะรู้ถึงจุดประสงค์ที่หัวหน้าสำนักกู้เชิญทุกคนมาในวันนี้แล้ว”

ได้ยินเช่นนั้น ขุนนางของกระทรวงเกษตรและชาวบ้านต่างก็มองหน้ากัน

หลายวันก่อนหน้านี้ พวกเขาได้รับข่าวจากกู้ฉางเซิน บอกว่าราชสำนักได้เมล็ดพันธุ์พืชพิเศษชุดหนึ่งมาจากช่องทางพิเศษ อยากจะนำชาวบ้านทดลองเพาะปลูกเอาไว้บริเวณรอบๆ

ดังนั้นเหล่าขุนนางของกระทรวงเกษตรจึงทำตามคำสั่ง ได้เรียกรวมตัวหัวหน้าหมู่บ้านและผู้อาวุโสของตระกูลของทั้งสี่หมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองหลวง

พูดตามตรง จะเข้าสู่ฤดูหนาวอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่สมควรเพาะปลูก

พวกเขารู้สึกมึนงงไม่เข้าใจอยู่บ้าง ทำไมสองสามีภรรยารัชทายาทจึงจะปลูกผักในเวลานี้

แม้ว่าหลิวฉิงและกู้ฉางเซินจะทำการอธิบายล่วงหน้าแล้ว แต่ก็ยังมีผู้อาวุโสบางคนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมาว่า “พวกกระหม่อมรู้แล้ว แต่จะขอบังอาจถามได้หรือไม่ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับปากท้องของคนในครอบครัวว่าจะกินอิ่มท้องหรือไม่”

“ตอนนี้ดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่เวลาที่จะเพาะปลูก ทุกคนต่างก็เอาพื้นที่ของครอบครัวออกมาปลูกของพวกนี้ ถ้าปลูกไม่ขึ้น หรือว่าเสียหายเพราะความหนาว กระทบต่อการเพราะปลูกในฤดูใบไม้ผลิของปีต่อไป......”

อวิ๋นหลิงเข้าใจ ชาวบ้านในยุคโบราณล้วนให้ความสำคัญกับเวลาในการเพาะปลูกมาก เมล็ดพันธุ์ของธัญพืชและผักมากมาย ในระยะเวลาที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย มักจะส่งผลต่อความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดความแตกต่างกันมากในการเก็บเกี่ยว

ตัวอย่างเช่นผักกาดขาวที่พบเห็นได้บ่อยๆ มีระยะเวลาการเจริญเติบโตประมาณสองเดือนครึ่ง ปกติชาวบ้านจะหว่านเมล็ดในเดือนแปดเดือนเก้า เพื่อเก็บตุนไว้เป็นเสบียงในหน้าหนาว

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ