เฟิ่งเหมียนรีบสำรวจดูร่างกายของเสวียนจี
ผมของนางยุ่งเหยิงอยู่บ้าง สองมือเลอะไปด้วยขี้เถ้าจากกระทะ ทำกับข้าวไม่ใส่เสื้อกันเปื้อน เสื้อสีเหลืองนมชุดใหม่มีรอยเปื้อนเป็นจุดขาวจุดดำไปทั่ว ราวกับเพิ่งถูกขุดออกมาจากเหมืองถ่านหิน
ดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร จิตใจที่วิตกของเฟิ่งเหมียนจึงสงบลงได้
“เจ้าเด็กโง่ ใช้เตาฟืนไม่เป็นยังจะฝืนอีก”
เสวียนจีหายใจสะดวกแล้ว กลับตบที่ศีรษะตัวเองและพูดว่า “โธ่เอ๋ย เนื้อวากิวออสเตรเลียของข้า”
วัตถุดิบชั้นดีของนางยังวางเอาไว้ข้างเตาไม่ทันได้เอาออกมาด้วย
คิดถึงตรงนี้ เสวียนจีก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องครัวอย่างตื่นตระหนก
ควันได้สลายไปมากกว่าครึ่งแล้ว ในอากาศ กลิ่นของเนื้อและเครื่องเทศที่ไหม้ผสมปนเปกัน ทำให้เกิดกลิ่นที่ยากจะอธิบายได้
ห้องครัวมีสภาพน่าอนาถจนไม่อาจทนดูได้ เตาที่ใช้วางกระทะถูกเผาจนเป็นสีดำ ในกระทะที่รั่วถูกน้ำสาดไปหลายถัง เนื้อที่หลงเหลืออยู่ในกระทะกลายเป็นสีดำเมี่ยม ราวกับก้อนดินที่ถูกเผาไหม้
เนื้อวัวที่วางเอาไว้ข้างเตาก็หนีคราวเคราะห์ไม่พ้น บ้างก็ถูกไฟลนจนกลายเป็นสีขาวกึ่งหนึ่ง บ้างก็ยังคงมีน้ำเลือดไหลออกมา
ชั้นวางเครื่องเทศล้มระเนระนาดอยู่บนพื้น ขวดเครื่องเทศและผักต่างๆกระจายเกลื่อนพื้น ไม่รู้ว่าถูกเหยียบย่ำในความวุ่นวายไปกี่ครั้ง
เห็นสภาพห้องครัวที่ราวกับผ่านศึกสงคราม เสวียนจีได้แต่นิ่งอึ้ง จากนั้นก็ร้องโหยหวนขึ้นมา
“หมดกันหมดกัน จบสิ้นแล้ว”
นางโถมเข้าไปในอ้อมอกของเฟิ่งเหมียน เกือบจะกลั้นหายใจให้ตายไปเลย
เฟิ่งเหมียนกำลังจะปลอบใจนาง ขณะเดียวกันกลับได้ยินเสียงของท่านป้าเฟิ่งดังขึ้นมาจากข้างนอกด้วยความเป็นห่วง
“เหมียนเอ๋อร์ นางหนูหยวนเผ่า พวกเจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”
ได้ยินเสียงนี้ เสวียนจีร่างกายแข็งทื่อ เงยหน้าขึ้นมองห้องครัวที่มีสภาพระเกะระกะ อยากตาย
ดังนั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้าวเข้ามาในห้องครัว นางตัดสินใจหลับตาลง แสร้งเป็นลมล้มตัวลงไปในอ้อมแขนของเฟิ่งเหมียน
สองผู้เฒ่ามาช้าไปหนึ่งก้าว เพิ่งจะเดินมาถึงห้องครัว ก็พบภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า ต่างก็รู้สึกตกใจไม่น้อย
“ตายแล้ว หยวนเป่าเป็นอะไรไป รีบให้ข้าดูเข้า”
เฟิ่งเหมียนกำลังจะตอบคำถาม จู่ๆก็ถูกมือเล็กๆแอบบิดเนื้อที่เอวอย่างแรงหนึ่งที
เขากวาดตามองเสวียนจีที่ใบหน้ามอมแมมและดวงตาที่ปิดสนิท อดทนต่อความเจ็บเอ่ยอย่างให้ความร่วมมือว่า “เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยในครัว ท่านแม่วางใจได้ หยวนเป่าไม่เป็นไร เพียงแต่สำลักควันจนเป็นลมไป ขาจะพานางกลับไปในห้องที่อากาศปลอดโปร่งก่อน”
พูดจบ เฟิ่งเหมียนก็อุ้มสาวน้อยร่างเล็กในอ้อนแขนขึ้นมา รีบไปจากสถานที่เกิดเหตุทันที
สองผู้เฒ่าต่างก็มองหน้ากัน และเดินตามไปอย่างรู้สึกเป็นห่วง
ไม่นานนัก เสวียนจีก็ถูกเฟิ่งเหมียนอุ้มมาไว้ในเรือนด้านข้าง ท่านป้าเฟิ่งอยากจะไปดูอาการของนาง กลับถูกเฟิ่งเหมียนขวางเอาไว้
“ท่านแม่ ตอนนี้หยวนเป่ายังสลบอยู่ อย่าเพิ่งไปรบกวนจะดีกว่า รอให้นางดีขึ้นก็ฟื้นเอง”
“ข้าจะไปจัดการในห้องครัวก่อน พวกท่านยังไม่ทันกินอะไรเลยมิใช่หรือ ข้าจะให้บ่าวรับใช้ไปซื้อโจ๊กและของว่างมาให้ ท่านทั้งสองเอาสัมภาระไปเก็บที่ห้องรับรองแขกก่อนเถอะ”
ท่านป้าเฟิ่งยื่นหน้าจากหลังฉากกั้นไปดูเสวียนจีแวบหนึ่ง มั่นใจแล้วว่านางไม่เป็นอะไรมาก จึงพยักหน้ารับทั้งที่ยังเป็นห่วง “เฮ้อ ก็ได้......เจ้าอย่าลืมเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท แล้วห่มผ้าให้นางด้วย อย่าให้เป็นหวัดล่ะ”
สองผู้เฒ่าออกไปจากเรือนด้านข้าง เฟิ่งเหมียนปิดประตูอย่างเบามือ สูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ก่อนจะก้าวเท้าไปจัดการความวุ่นวายในห้องครัว
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม พวกบ่าวรับใช้ภายใต้การสั่งการได้เก็บกวาดสิ่งสกปรกในห้องครัวจนสะอาดเรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่กระทะที่รั่วเป็นรูใหญ่ กับเตาที่ถูกเผาจนดำ ต้องเชิญช่างที่ชำนาญการมาซ่อมแซม คงไม่สามารถใช้ทำอาหารได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...