เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1206

เฟิ่งเหมียนรีบสำรวจดูร่างกายของเสวียนจี

ผมของนางยุ่งเหยิงอยู่บ้าง สองมือเลอะไปด้วยขี้เถ้าจากกระทะ ทำกับข้าวไม่ใส่เสื้อกันเปื้อน เสื้อสีเหลืองนมชุดใหม่มีรอยเปื้อนเป็นจุดขาวจุดดำไปทั่ว ราวกับเพิ่งถูกขุดออกมาจากเหมืองถ่านหิน

ดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร จิตใจที่วิตกของเฟิ่งเหมียนจึงสงบลงได้

“เจ้าเด็กโง่ ใช้เตาฟืนไม่เป็นยังจะฝืนอีก”

เสวียนจีหายใจสะดวกแล้ว กลับตบที่ศีรษะตัวเองและพูดว่า “โธ่เอ๋ย เนื้อวากิวออสเตรเลียของข้า”

วัตถุดิบชั้นดีของนางยังวางเอาไว้ข้างเตาไม่ทันได้เอาออกมาด้วย

คิดถึงตรงนี้ เสวียนจีก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องครัวอย่างตื่นตระหนก

ควันได้สลายไปมากกว่าครึ่งแล้ว ในอากาศ กลิ่นของเนื้อและเครื่องเทศที่ไหม้ผสมปนเปกัน ทำให้เกิดกลิ่นที่ยากจะอธิบายได้

ห้องครัวมีสภาพน่าอนาถจนไม่อาจทนดูได้ เตาที่ใช้วางกระทะถูกเผาจนเป็นสีดำ ในกระทะที่รั่วถูกน้ำสาดไปหลายถัง เนื้อที่หลงเหลืออยู่ในกระทะกลายเป็นสีดำเมี่ยม ราวกับก้อนดินที่ถูกเผาไหม้

เนื้อวัวที่วางเอาไว้ข้างเตาก็หนีคราวเคราะห์ไม่พ้น บ้างก็ถูกไฟลนจนกลายเป็นสีขาวกึ่งหนึ่ง บ้างก็ยังคงมีน้ำเลือดไหลออกมา

ชั้นวางเครื่องเทศล้มระเนระนาดอยู่บนพื้น ขวดเครื่องเทศและผักต่างๆกระจายเกลื่อนพื้น ไม่รู้ว่าถูกเหยียบย่ำในความวุ่นวายไปกี่ครั้ง

เห็นสภาพห้องครัวที่ราวกับผ่านศึกสงคราม เสวียนจีได้แต่นิ่งอึ้ง จากนั้นก็ร้องโหยหวนขึ้นมา

“หมดกันหมดกัน จบสิ้นแล้ว”

นางโถมเข้าไปในอ้อมอกของเฟิ่งเหมียน เกือบจะกลั้นหายใจให้ตายไปเลย

เฟิ่งเหมียนกำลังจะปลอบใจนาง ขณะเดียวกันกลับได้ยินเสียงของท่านป้าเฟิ่งดังขึ้นมาจากข้างนอกด้วยความเป็นห่วง

“เหมียนเอ๋อร์ นางหนูหยวนเผ่า พวกเจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”

ได้ยินเสียงนี้ เสวียนจีร่างกายแข็งทื่อ เงยหน้าขึ้นมองห้องครัวที่มีสภาพระเกะระกะ อยากตาย

ดังนั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้าวเข้ามาในห้องครัว นางตัดสินใจหลับตาลง แสร้งเป็นลมล้มตัวลงไปในอ้อมแขนของเฟิ่งเหมียน

สองผู้เฒ่ามาช้าไปหนึ่งก้าว เพิ่งจะเดินมาถึงห้องครัว ก็พบภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า ต่างก็รู้สึกตกใจไม่น้อย

“ตายแล้ว หยวนเป่าเป็นอะไรไป รีบให้ข้าดูเข้า”

เฟิ่งเหมียนกำลังจะตอบคำถาม จู่ๆก็ถูกมือเล็กๆแอบบิดเนื้อที่เอวอย่างแรงหนึ่งที

เขากวาดตามองเสวียนจีที่ใบหน้ามอมแมมและดวงตาที่ปิดสนิท อดทนต่อความเจ็บเอ่ยอย่างให้ความร่วมมือว่า “เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยในครัว ท่านแม่วางใจได้ หยวนเป่าไม่เป็นไร เพียงแต่สำลักควันจนเป็นลมไป ขาจะพานางกลับไปในห้องที่อากาศปลอดโปร่งก่อน”

พูดจบ เฟิ่งเหมียนก็อุ้มสาวน้อยร่างเล็กในอ้อนแขนขึ้นมา รีบไปจากสถานที่เกิดเหตุทันที

สองผู้เฒ่าต่างก็มองหน้ากัน และเดินตามไปอย่างรู้สึกเป็นห่วง

ไม่นานนัก เสวียนจีก็ถูกเฟิ่งเหมียนอุ้มมาไว้ในเรือนด้านข้าง ท่านป้าเฟิ่งอยากจะไปดูอาการของนาง กลับถูกเฟิ่งเหมียนขวางเอาไว้

“ท่านแม่ ตอนนี้หยวนเป่ายังสลบอยู่ อย่าเพิ่งไปรบกวนจะดีกว่า รอให้นางดีขึ้นก็ฟื้นเอง”

“ข้าจะไปจัดการในห้องครัวก่อน พวกท่านยังไม่ทันกินอะไรเลยมิใช่หรือ ข้าจะให้บ่าวรับใช้ไปซื้อโจ๊กและของว่างมาให้ ท่านทั้งสองเอาสัมภาระไปเก็บที่ห้องรับรองแขกก่อนเถอะ”

ท่านป้าเฟิ่งยื่นหน้าจากหลังฉากกั้นไปดูเสวียนจีแวบหนึ่ง มั่นใจแล้วว่านางไม่เป็นอะไรมาก จึงพยักหน้ารับทั้งที่ยังเป็นห่วง “เฮ้อ ก็ได้......เจ้าอย่าลืมเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท แล้วห่มผ้าให้นางด้วย อย่าให้เป็นหวัดล่ะ”

สองผู้เฒ่าออกไปจากเรือนด้านข้าง เฟิ่งเหมียนปิดประตูอย่างเบามือ สูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ก่อนจะก้าวเท้าไปจัดการความวุ่นวายในห้องครัว

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม พวกบ่าวรับใช้ภายใต้การสั่งการได้เก็บกวาดสิ่งสกปรกในห้องครัวจนสะอาดเรียบร้อยแล้ว

เพียงแต่กระทะที่รั่วเป็นรูใหญ่ กับเตาที่ถูกเผาจนดำ ต้องเชิญช่างที่ชำนาญการมาซ่อมแซม คงไม่สามารถใช้ทำอาหารได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ