กู้ฉางเซินพอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับ "ห้องคลังส่วนตัว" ของเซียวปี้เฉิงอยู่บ้าง
อีกฝ่ายได้ลงทุนกับสวนสัตว์ของหลิวฉิงในนามของเฉียวเย่ โดยปันผลรายเดือนทั้งหมดจะผ่านการพิจารณาและอนุมัติจากเขาก่อนมอบให้กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรายย่อย
"ตั้งแต่สวนสัตว์ของฉิงเอ๋อร์เปิด เซียวปี้เฉิงได้รับเงินปันผลสิบหกครั้ง ข้าจำได้ว่าช่วงที่ได้น้อยที่สุดคือพันตำลึงต่อเดือน มากที่สุดก็สองพันตำลึง หากข้าไม่จำผิด เขาน่าจะมีเงินเก็บอย่างน้อยสองหมื่นสามพันตำลึง"
เซียวปี้เฉิงตอบเสียงอู้อี้ "…ก็คงประมาณนั้น รวมกับเงินที่ข้าเก็บสะสมด้วยวิธีอื่นก็ได้ราวสองหมื่นห้าพันตำลึง"
ส่วนอีกสองพันตำลึงที่เหลือนั้น ส่วนใหญ่เป็นเงินที่เขาประหยัดจากค่าใช้จ่ายรายเดือน แน่นอนว่าแหล่งหลักมาจากการเอาเปรียบขุนนางคนอื่น เช่น ใช้กลอุบายให้คนเหล่านั้นหลงกล
ทว่าขุนนางเฒ่าพวกนั้นล้วนชาญฉลาดนัก ถูกหลอกครั้งเดียวก็เข็ดหลาบ ไม่อาจหลงกลได้ง่ายอีกต่อไป ยิ่งทำให้หลอกลวงได้ยากขึ้นทุกที
กงจื่อโยวมองเซียวปี้เฉิงด้วยสายตาเวทนา ไม่แปลกใจเลยที่เขาถึงกับมาจัดประชุมในเคเอฟซี แล้วยังไม่กล้าสั่งแม้แต่น้ำโค๊กหนึ่งแก้ว
เขาปลอบโยนว่า "เก็บได้ถึงสองหมื่นห้าพันตำลึงในเวลาเพียงปีกว่า น้องเซียวก็ถือว่าเก่งมากแล้ว ข้ายังนึกว่าเจ้ามีไม่ถึงหมื่นตำลึงเสียอีก นับว่าทำได้เกินความคาดหมายมากทีเดียว"
เซียวปี้เฉิงตอบว่า "ขอบคุณ แต่คำปลอบใจของท่านไม่ได้ช่วยให้ข้ารู้สึกดีขึ้นเลย"
เมื่อเทียบกับพี่น้องที่อยู่ตรงหน้า ถุงเงินของเขาช่างน่าสมเพชจนน่าหดหู่
เฟิ่งเหมียนเงยหน้าขึ้นถาม "เงินจำนวนนั้นก็ไม่น้อย แต่ยังขาดอีกประมาณครึ่งหนึ่ง ท่านคิดจะหาให้ครบอย่างไร ต้องการให้พวกเรายืมให้หรือไม่?”
เซียวปี้เฉิงถามด้วยความไม่เต็มใจนัก "ยังมีวิธีไหนอีกไหม ที่จะทำให้ข้าได้เงินจำนวนมากในเวลาอันสั้น?”
หากสามารถรวบรวมเงินสี่หมื่นตำลึงได้ด้วยตัวเอง เขาย่อมไม่อยากยืมเงินจากผู้อื่น เพราะมันทำให้เขารู้สึกเสียหน้าไม่น้อย
แน่นอนว่า เขาไม่มีทางทำเรื่องอย่างการพนันหรือขายไตเด็ดขาด! แม้แต่การไปนวดเท้าให้คุณหญิงเศรษฐีเขาก็ไม่ยอมทำ!
ทุกคนต่างพากันครุ่นคิดหนัก ดูเหมือนว่าการทำให้เซียวปี้เฉิงร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องที่ยากมาก และยิ่งยากเข้าไปใหญ่หากต้องการให้เขาร่ำรวยโดยไม่มีใครสังเกต
กงจื่อโยวครุ่นคิดอย่างหนักเพื่อช่วยหาทางให้สหายสนิทของเขา จู่ ๆ ก็เหมือนมีแสงสว่างวาบขึ้นในดวงตา
“ว่าแต่! ช่วงนี้ข้ากำลังศึกษากฎการค้าของโลกนี้อยู่ ข้าได้พบแนวทางหนึ่งที่เรียกว่า 'เศรษฐกิจแฟนคลับ' ซึ่งอาจนำมาเป็นตัวอย่างได้"
“ข้าสังเกตเห็นว่าหนุ่มสาวหลายคนยอมทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อไล่ตามไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบ อย่างเสื้อผ้าธรรมดาตัวหนึ่งที่ราคาเพียงร้อยตำลึง หากมีชื่อไอดอลรับรองหรือเป็นสินค้าร่วมผลิต พวกเขาก็ยินดีซื้อในราคาตั้งหนึ่งพันตำลึง!"
แม้ฟังดูเหมือนการใช้เงินเกินความจำเป็น แต่ความจริงปรากฏการณ์เช่นนี้ในแคว้นต้าโจวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่
หลายร้านอาหาร โรงเตี๊ยม หรือร้านขายหนังสือ มักได้รับความนิยมเพราะบรรดาขุนนางและผู้มีชื่อเสียงแวะเวียนมาเยี่ยมเยือน หรือได้รับคำชมจากผู้มีชื่อเสียง
ยกตัวอย่างเช่น หลงเย่ การแต่งกายและสไตล์ของนางที่ทำตามอำเภอใจ มักสร้างกระแสแฟชั่นใหม่ในเมืองหลวงโดยไม่คาดคิด
หรืออวิ๋นหลิง นางไม่จำเป็นต้องโฆษณาร้านขายยาของตนเลย เพราะเพียงแค่สิ่งที่อยู่ในร้านเป็นของที่นางใช้จริงก็เพียงพอให้ประชาชนยอมซื้ออย่างเต็มใจ
ในกระแสนิยมเหล่านี้ มีหลายวิธีทำเงิน เช่น เหล่าคนดังที่ขัดสนเงินทองมักช่วยโฆษณาร้านค้าเพื่อแลกกับค่าตอบแทน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...