เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1214

หอกยาวเล่มนี้เคยหักมาก่อน แต่ภายหลังเซียวปี้เฉิงมีวาสนาอันยิ่งใหญ่ บังเอิญได้แร่เหล็กดำหายากมา เมื่อทำการหลอมใหม่ เขาจึงผสานเหล็กดำเข้าไปในหอก

นับแต่นั้น หอกเล่มนี้ก็กลายเป็นอาวุธที่คมกริบยิ่งนัก และไม่เคยหักอีกเลย

ในกระบวนการหลอม เหล็กดำที่หัวหอกถูกตีซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกลายเป็นสีแดงคล้ำ และมีใบมีดสามด้าน ลักษณะคล้ายสามเท้าของนกอูทองคำ

ภายใต้แสงแดด ปลายคมของหอกทอประกายดั่งเปลวเพลิงที่ไหลเวียน

หลังจากนั้น เซียวปี้เฉิง ได้ผูกพู่ที่ปลายหอกซึ่งมีลักษณะเหมือนขนนกปลายหางสีทองอ่อน และตั้งชื่อหอกเล่มโปรดนี้ว่า "เพลิงอัคคีวิหค"

หอกยาวหนักถึงสิบชั่ง นับเป็นอาวุธหนักที่พบได้ยากในหมู่นักหอก เมื่อต้องมือแล้วให้ความรู้สึกหนักอึ้ง พลังทะลุเกราะของมันยากหาอาวุธใดเทียบได้ ยามโจมตีศัตรูประหนึ่งมังกรเทพขบกัด ใครแตะต้องย่อมบาดเจ็บ

ชัยชนะศึกครั้งแล้วครั้งเล่าในอดีต ล้วนมิอาจแยกจากคุณูปการของหอกเล่มนี้

ไม่เพียงแค่เกียรติยศที่หอกเล่มนี้สร้างไว้เท่านั้น เพียงค่าวัตถุดิบอย่างเหล็กดำก็มากพอให้เซียวปี้เฉิงมั่นใจว่า ผู้มีปัญญาย่อมเต็มใจทุ่มทองพันชั่งเพื่อครอบครอง

หอกเล่มนี้อยู่เคียงข้างเขาผ่านคืนวันอันรุ่งโรจน์มาโดยตลอด บัดนี้จู่ๆ จะตัดใจขาย ก็นึกเสียดายขึ้นมา

“มาฝึกท่าหอกกับข้าเป็นครั้งสุดท้ายเถิด”

เขาปัดฝุ่นพู่สีแดงบนหอกยาวก่อนจะถือมันไปยังสวนอันกว้างขวาง

หิมะยังไม่ตก แต่พื้นดินปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งบางๆ คมปลายของหอกยาวสะท้อนประกายแดงวาววับใต้ท้องฟ้าหน้าหนาว พร้อมเสียงหอกที่แหวกอากาศดังสะท้าน

ครั้งนี้การร่ายรำหอกทำให้เซียวปี้เฉิงรู้สึกสะใจยิ่งนัก เลือดลมร้อนพลุ่งพล่านทั่วกาย ขับไล่ความหนาวเย็นของเหมันต์ไปสิ้น

ใต้ทางเดินไกลออกไป ไม่รู้ว่ามีบรรดาทหารลาดตระเวนและนางกำนัลเล็กๆ รวมตัวกันตั้งแต่เมื่อไร พวกเขาต่างแอบมองและกระซิบกระซาบกันเบาๆ

จนกระทั่งเฉียวเย่เดินเข้ามา เลิกคิ้วและพูดขึ้นสองสามคำ

“วันนี้เหตุใดพวกเจ้าจึงมารวมตัวกันอู้งานที่นี่?”

“ใต้เท้าโปรดระงับโทสะ รัชทายาททใช้หอกได้ล้ำเลิศยิ่ง ดูเหมือนจะเก่งขึ้นด้วย บ่าวทั้งหลายดูจนเคลิ้บตามไปเลย”

นางกำนัลน้อยรีบดึงสติพลางกล่าวขออภัย พร้อมยิ้มแหย่พลางแลบลิ้นอย่างกระดาก

เซียวปี้เฉิงมีธรรมเนียมตื่นเช้ามาฝึกกายเป็นประจำ เขามีรูปลักษณ์อันงามสง่า ฝีมือการใช้หอกลือเลื่องไปทั่วหล้า และมักเรียกองครักษ์ตำหนักบูรพามาร่วมซ้อมอยู่เนือง ๆ จนผู้ผ่านไปมาอดหยุดยืนดูไม่ได้

ทั้งนี้ก็เพราะภาพอันน่ารื่นรมย์นี้หาชมได้ยากยิ่ง แต่ผู้คนล้วนเห็นตรงกันว่าทักษะการใช้หอกของเขาวันนี้งามล้ำยิ่งกว่าวันใด

เฉียวเย่พลันหันมองไปยังสวนโดยไม่ทันคิด หลังยืนดูอยู่ครู่หนึ่งก็เผยสีหน้าเปี่ยมด้วยความนึกคิด

“องค์รัชทายาทมุมานะฝึกฝนมิได้ขาด ฝีมือการต่อสู้มิได้ถดถอย การใช้หอกยิ่งช่ำชองกว่าก่อน มิหนำซ้ำถึงแม้จะจากเมืองสุ่ยมานาน แต่จิตวิญญาณยังเปี่ยมพลังเช่นวันวาน"

เขาเองก็เห็นว่าเซียวปี้เฉิงในวันนี้มีท่วงท่าอันต่างจากเดิม โดยปกติการฝึกยามเช้าก็เพื่อยืดเส้นยืดสาย ทว่าท่าทีและกระบวนท่าในวันนี้กลับแข็งแกร่งกว่าปกติ

ครานี้กลับเป็นการฟื้นคืนความทรงจำถึงครั้งอยู่เมืองสุ่ย ท่วงท่าประดุจมังกรพริ้วไหว กระบวนท่าพิชิตไร้พ่าย แผ่พุ่งอานุภาพจนผู้ชมพลันหวั่นเกรง แม้แต่ลมหายใจก็หยุดชะงักโดยไม่รู้ตัว และมิอาจละสายตาไปได้

ดังนั้นเฉียวเย่จึงไปร่วมกลุ่มกับคนในตำหนัก ยืนมองอย่างเพลิดเพลินในมุมหนึ่ง

จนกระทั่งผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยาม อวิ๋นหลิงก็กลับมา

“าว? วันนี้เหตุใดท่านจึงนึกอยากฝึกหอกยามนี้?”

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ