หลงเย่รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินความคิดในใจของกงจื่อโยว
แต่นางไม่ได้ถามทันที นางอยากดูว่าบุรุษทั้งสองคนนี้กำลังวางแผนอะไรกันอยู่ในที่ลับ ๆ และจึงเริ่มจับตาความเคลื่อนไหวของสำนักทิงเสวี่ยในช่วงนี้
เมื่อทราบว่าเฉียงเวยกำลังเตรียมการสำหรับงานประมูลตลาดมืดประจำปี นางก็เข้าใจว่าเซียวปี้เฉิงตั้งใจจะขายหอก จึงมาถามอวิ๋นหลิง
"ขายหอกหรือ?”
อวิ๋นหลิงมีสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย ก่อนจะนึกถึงพฤติกรรมผิดปกติของเซียวปี้เฉิงในช่วงนี้ และกล่าวอย่างประหลาดใจว่า "อยู่ดี ๆ จะขายหอกทำไม เขาเป็นอะไรกันแน่?”
หลงเย่กล่าวว่า "เพราะอย่างนี้ข้าจึงมาถามเจ้าส่วนตัว ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"
อวิ๋นหลิงขมวดคิ้วแน่น "ข้าไม่รู้จริง ๆ เจ้าเองก็รู้ว่าเขาใช้ชื่อเฉียวเย่เข้าร่วมลงทุนในสวนสัตว์ ข้ารู้อยู่ก่อนแล้วเพียงแต่ไม่ได้เอ่ยถึง"
"แม้ในแต่ละเดือนจะให้เงินติดตัวเขาไปแค่หนึ่งร้อยตำลึง แต่เขายังได้รับเงินปันผลอย่างน้อยเดือนละพันตำลึง ข้าไม่เคยยุ่งว่าเขาจะใช้เงินเหล่านั้นอย่างไร แล้วอยู่ดี ๆ จะขาดเงินได้อย่างไรกัน?”
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ในครั้งแรก นางรู้สึกเหลือเชื่อ แต่ไม่ได้สงสัยในความจริงของเรื่องนี้
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมบ่ายวันนั้นเขาจึงเกิดความสนใจฝึกหอกขึ้นมา แล้วช่วงนี้กลับเลิกแตะต้องหอกราวกับอดทนต่ออาการเสพติดไปได้ ทุกพฤติกรรมที่ผิดปกติย่อมมีเบาะแสอยู่
"ในมือของเขามีเพียงสองเล่ม หอกของพระเจ้าหลวงเขาย่อมไม่กล้าแตะต้อง...แต่เรื่องใดกันที่ทำให้เขายอมขายเพลิงอัคคีวิหคเล่มนั้นได้?”
หลงเย่หยุดไปชั่วครู่ก่อนกล่าวอย่างระมัดระวังว่า "หรือว่าเซียวปี้เฉิงเจอเรื่องอะไรบางอย่างด้านนอก? ข้าไม่ได้หมายความว่าเขามีคนอื่น...แต่บางทีอาจจะเป็นหนี้สินอะไรบางอย่าง เช่น ติดหนี้จากการลงทุนผิดพลาดหรือเปล่า?”
อวิ๋นหลิงก็ไม่ได้สงสัยว่าเซียวปี้เฉิงจะไปเลี้ยงดูเมียน้อย เพราะเรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นกับเขาแน่นอน
ข้อสันนิษฐานของหลงเย่มีความเป็นไปได้สูงกว่า
"อาจเป็นไปได้ บางทีเขาอาจได้ลิ้มรสความสำเร็จจากการลงทุนในสวนสัตว์แล้วเกิดความคิดจะลงทุนอย่างอื่น จากนั้นก็ตกหลุมพรางเข้า"
นับตั้งแต่โครงการรีสอร์ตของหลงเย่และสามีเริ่มต้นขึ้น เมืองหลวงก็เต็มไปด้วยพ่อค้ารายใหญ่จากทั่วสารทิศ หลายคนมองเห็นโอกาสนี้ และหวังจะอาศัยความรุ่งเรืองของเทพเจ้าแห่งทรัพย์ของสามีภรรยาคู่นี้เพื่อทำกำไรสักก้อน
เซียวปี้เฉิงเป็นคนที่ชอบสะสมเงินทองและยึดถือสิ่งนี้เป็นความสุข การใช้จ่ายกลับกลายเป็นเรื่องที่เขายับยั้งใจได้เป็นอย่างดี
เมื่อครั้งก่อน อวิ๋นหลิงให้เงินใช้จ่ายส่วนตัวแก่เขาห้าสิบตำลึง เขาสามารถเก็บออมได้ถึงสามสิบตำลึงต่อเดือน ต่อมาเมื่อเพิ่มเป็นหนึ่งร้อยตำลึง เขาก็เก็บได้ถึงแปดสิบตำลึง
เจ้าคนซื่อคนนี้ไม่มีงานอดิเรกอื่นใดเลย ดังนั้นการขายหอกจึงไม่ใช่เพราะต้องการหาเงินมาใช้แน่นอน
“หรือว่าเขาอับอายเกินกว่าจะขอยืมเงินจากเศรษฐีหนุ่ม จึงต้องขายหอกเพื่อชำระหนี้?”
เมื่อเห็นสีหน้าของอวิ๋นหลิงไม่สู้ดี หลงเย่ก็รีบปลอบด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ข้าก็แค่เดาสุ่ม อาจจะไม่ใช่ก็ได้”
“ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าจะเป็นความจริง เจ้าก็อย่าเพิ่งรีบต่อว่าเขาเสียก่อน เกรงว่าจะยิ่งทำให้เขากดดัน ควรตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนจึงค่อยจัดการ”
อวิ๋นหลิงยิ้มเจื่อนให้หลงเย่ “การลงทุนทำธุรกิจล้มเหลวเป็นเรื่องเล็ก ข้าไม่ได้โกรธเรื่องนี้ ข้าโกรธที่ไม่ว่าเขาจะพบเจอปัญหาใด ก็ควรบอกข้า และยิ่งไม่ควรขายหอก”
นางถอนหายใจหนักหน่วง แสดงความรู้สึกผิดและหงุดหงิดในตัวเอง
“ก่อนหน้านี้ข้ากลัวว่าเขาจะทำเงินรั่วไหล จึงไม่กล้าเอาเงินให้เขาติดกระเป๋ามากนักา เห็นเขารัดเข็มขัดและประหยัดจนทั้งสงสารและตลก ข้าจึงมองข้ามเรื่องที่เขาแอบไปลงทุน ตอนนี้ข้าตระหนักได้แล้วว่าเป็นความผิดของข้าเอง”
“ข้าไม่ควรเข้มงวดเรื่องการเงินจนเกินไป หากเขาชอบหาเงินจริง ๆ ข้าควรอยู่เคียงข้างเขาและสอนวิธีหาเงินให้เขา”
มิฉะนั้นคงไม่ต้องปล่อยให้เซียวปี้เฉิงลองผิดลองถูกกับเรื่องที่ตนไม่ถนัด พลาดพลั้งไปแล้วยังไม่กล้าพูด กลัวว่านางจะโกรธ
หลงเย่ตบไหล่นางเบา ๆ “อย่าเพิ่งมัวโทษตัวเอง รีบไปหาถามหาความจริงจากเศรษฐีหนุ่มก่อนเถอะ และเอาหอกเล่มนั้นกลับมา”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...