พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 127

ประมาณกว่าครึ่งชั่วยาม อวิ๋นหลิงถึงได้รับคำสั่งของตงชิงว่าเหวินกั๋วกงผู้เฒ่าเรียกให้นางไปที่ห้องตำรา

นางเฉินพูดด้วยความเป็นห่วง “ถึงแม้ว่าท่านปู่ของเจ้าจะเข้มงวด แต่ว่าก็ยุติธรรมมาโดยตลอด ถ้าหากว่าเขาตำหนิเจ้าฟังแค่นั้นพอ อย่าไปเถียงเขา”

อวิ๋นหลิงพยักหน้าพยักหน้า จากนั้นก็นึกย้อนความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับเหวินกั๋วกงผู้เฒ่า

สมัยหนุ่ม ๆ ท่านปู่ผู้นี้ของนางเป็นจอหงวน อีกทั้งยังเป็นชายหนุ่มรูปงามที่ทั้งมีความสามารถและหล่อเหลา เป็นหนึ่งในคนที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับพระเจ้าหลวง

แต่ความทรงจำที่เลือนลางไม่สู้เห็นด้วยตา เมื่อครู่ไม่ได้สังเกตเห็น ครานี้ได้เข้ามาที่ห้องตำรา ถึงได้รู้ว่ามีความเป็นปัญญาชนมาก

“นั่งลงเถิด”

เมื่อเห็นอวิ๋นหลิง สายตาเหวินกั๋วกงผู้เฒ่าที่ไร้คลื่นโบราณนั้นก็ดูเหมือนมีคลื่นในดวงตาหลายระลอก

“เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงครึ่งปีมานี้ เมื่อครู่จิ้งอ๋องได้พูดอย่างละเอียดแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเจ้าข้าจะไม่พูดอะไรมาก”

อวิ๋นหลิงนั่งลงด้านข้างเซียวปี้เฉิง แอบสังเกตเหวินกั๋วกงผู้เฒ่า ในใจแอบสงสัยชีวิตของเขา

เหตุใดผู้เฒ่าที่รูปงามขนาดนี้ ถึงได้ปรากฏแววที่เลอะเทอะไร้สมองแบบนั้นเหมือนท่านพ่อของนาง นี่เป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นพ่อลูกกันแท้ ๆ ?

เมื่อนึกถึงคุณหนูใหญ่ฉู่ที่ไม่รู้ควรพูดอย่างไรดี ณ ขณะนั้นเองอวิ๋นหลิงไม่รู้ว่าควรถอนหายใจเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพอย่างไรดี ยังคงเป็นความมหัศจรรย์ของการถ่ายทอดทางพันธุกรรม

“เมื่อหลายวันก่อนฝ่าบาทได้ตรัสถึงเรื่องสายลับต่างเชื้อสายในจดหมายลับ จวนเหวินกั๋วกงถูกผีห่าซาตานเข้ามาจนพรุน เป็นความประมาทเลินเล่อของข้า อีกทั้งยังทำให้เด็กสาวอย่างเจ้าต้องน้อยใจด้วย”

อวิ๋นหลิงเหลือบมองไปที่เซียวปี้เฉิง เหวินกั๋วกงผู้เฒ่าไม่ได้กล่าวโทษนางเรื่องงานเลี้ยงในคืนวันหยวนเซียว อีกทั้งกลับยังพูดปลอบใจ คงอาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าบอดนั้นไปพูดอะไรกับเขา

“ท่านอย่าพูดเช่นนี้ ต้องโทษท่านพ่อที่เลอะเทอะของข้า ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด ทำให้ท่านต้องเหนื่อยทั้งวันทั้ง ๆ ที่อายุเยอะถึงขนาดนี้ ไม่มีวันว่างเลย”

เพื่อช่วยจักรพรรดิจาวเหรินการแก้ไขปัญหาการทุจริตของข้าราชการในภาคใต้ ครั้งนี้เหวินกั๋วกงผู้เฒ่าต้องอยู่ที่หลิ่งหนานสองปีเต็ม

ถ้าหากว่าผู้เฒ่าเลอะเทอะนั้นยังพอมีประโยชน์บ้าง ก็คงไม่ต้องให้ผู้เฒ่าที่อายุเจ็ดสิบอย่างเขาต้องไปลุยน้ำขึ้นเขา

“ความรู้และความสามารถของท่านพ่อของเจ้าไม่แย่ นิสัยก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร น่าเสียดายที่โง่เขลามากไปหน่อย”เหวินกั๋วกงผู้เฒ่าเหลือบไปมองอวิ๋นหลิงอีกครั้ง กลับไม่ถือสาที่นางพูดจาไม่ค่อยดีนัก “โชคดีที่เจ้าเตือนอวิ๋นเจ๋อได้ มิเช่นนั้นเกรงว่าคงจะเดินตามรอยของท่านพ่อเจ้า”

อวิ๋นหลิงหัวเราะแล้วพูดว่า “ท่านพี่ไม่ใช่คนโง่ อีกทั้งยังเป็นคนที่รับฟัง ไม่เหมือนท่านพ่อของข้าที่เหมือนก้อนหินที่หลุมที่ทั้งแข็งและเหม็น ตอนแรกหากไม่ใช่เขาที่จะยืนหยัดว่าจะแต่งงานอนุภรรยา บัดนี้จะมีฮูหยินเหลียนและฉู่อวิ๋นหานได้อย่างไร”

เหวินกั๋วกงผู้เฒ่าพยักหน้าเบา ๆ “เรื่องในจวนข้าคอยตรวจตราอย่างละเอียด พวกเจ้าไม่ต้องกังวล กลับไปเร็ว ๆ เถิด เรื่องสระบัวในวันนี้จะต้องให้คำอธิบายกับจิ้งอ๋องให้ได้”

สีหน้าของเซียวปี้เฉิงดีขึ้นมาหน่อย ถ้าไม่ใช่ว่าอวิ๋นหลิงอยู่ที่นี่ เรื่องของแม่ลูกเจียงฉ่ายเหลียนนั่น เขาไม่อยากอยู่ต่อวินาทีเดียว

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็แอบเหลือบมองอวิ๋นหลิง เห็นนางไม่ได้คัดค้าน จึงแอบดีใจ “ผู้เฒ่ากั๋วกงฉลาดปราดเปรื่อง ถ้าเช่นนั้นข้ากับอวิ๋นหลิงขอตัวลาก่อน”

......

เมื่อออกมาจากจวนเจิ้นกั๋วกง อวิ๋นหลิงเพิ่งพบว่าด้านนอกมีเพียงม้าที่หัวโล้นตัวหนึ่งเท่านั้น

เซียวปี้เฉิงจึงได้ยืมม้าและรถม้าจากเหวินกั๋วกงผู้เฒ่า “ข้าใจร้อนอยากจะมาพบเจ้ามากไปหน่อย จึงกลับไปที่จวนอ๋องไม่ทัน เมื่อออกมาจากวังหลวงก็รีบมาที่จวนเหวินกั๋วกงเลย...”

อีกทั้งม้าตัวนั้นเขายังเป็นคนที่ไปแย่งมาจากมือของแม่ทัพเมืองลาดตระเวน ตอนหลังเขาจะต้องนำเอาไปคืนให้เขาด้วย

อวิ๋นหลิงนั่งบนรถม้า น้ำเสียงหยอกล้อ “คนข้างกายไม่ได้พามาสักคน มิน่าล่ะวันนี้ท่านถึงได้โดนแผนการของแม่ลูกเจียงฉ่ายเหลียน ถ้าหากว่าลู่ฉีอยู่ข้างกายล่ะก็ ไม่แน่ว่าเจ้างั่งนั่นอาจจะได้เมียแล้วก็เป็นได้”

“ผู้หญิงแบบนั้นจะไปแต่งงานด้วยได้อย่างไร!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ