พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 144

ตั้งแต่ชายหนุ่มช่วยเฟิงจิ่งเหวยไว้จนตัวเองป่วยหนัก

รอยไหม้วงกว้างใหญ่บนร่างกายของเขาก็แสดงสัญญาณของการติดเชื้อ ในยุคที่ไม่มียาปฏิชีวนะและยาต้านแบคทีเรีย ความเป็นไปได้ที่จะรอดชีวิตนั้นจึงต่ำมาก

พลังจิตจึงมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับโรคทางสมองและระบบประสาท และยังสามารถเป็นเข็ม เพื่อทะลวงเส้นลมปราณให้ไหลเวียนคล่อง แต่กระนั้นกลับไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้

ยาปฏิชีวนะส่วนใหญ่ถูกสกัดจากจุลินทรีย์ อวิ๋นหลิงไม่มีเครื่องมือที่ซับซ้อนหรือจานเพาะเชื้อ จึงทำได้เพียงนำประสบการณ์จำนวนมากในการทดลองทางชีวการแพทย์ในอดีต เพื่อค้นหาสมุนไพรบางชนิดที่สามารถให้ผลคล้ายคลึงกับการใช้ภายนอกและภายในได้

หากโชคดีช่วยเอาไว้ได้ แต่กระนั้นบาดแผลก็ยังหายช้า อีกทั้งยังมีโอกาสเกิดไข้ขึ้นสูงซ้ำๆ ได้อีกหลายครั้ง

“พระชายาเพคะ เขาจะรอดหรือไม่เพคะ?”

ผู้รับผิดชอบและดูแลคือ ตงชิง นางนั้นรู้สึกสงสารชายหนุ่มผู้นี้ที่มีอายุไล่เลี่ยกันกับนาง

อวิ๋นหลิงกำลังง่วนอยู่กับการทำสมุนไพร นางดูไม่เป็นกังวลเลยแม้แต่น้อย “อย่างช้าที่สุดไข้จะลดลงในคืนนี้”

ด้วยพลังจิตของอวิ๋นหลิง นางสัมผัสได้ว่า ชายหนุ่มผู้นี้มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะมีชีวิตรอด

เขาไม่อยากตาย และความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตรอดนี้ทำให้เขารอดจากไข้สูงได้ถึงหลายครั้งในตอนแรก

ตงชิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเวทนา “สภาพอย่างเขาตอนนี้ ไหนเลยจะเป็นการถูกน้ำร้อนลวกโดยไม่ได้ตั้งใจ จะต้องเป็นเจ้านายคนไหนระบายความโกรธลงที่เขา ใช้น้ำเดือดสาดใส่เขาเป็นแน่เจ้าค่ะ”

ไม่เช่นนั้นนางก็นึกไม่ออกเลยว่า ตกลงแล้วต้องไม่ทันระวังถึงเพียงไหนจึงได้รับบาดเจ็บจนกลายเป็นเช่นนี้ได้

“ไม่ต้องห่วง เขาไม่ตายหรอก”

ในการติดเชื้อซ้ำๆ ร่างกายของผู้ป่วยจะพัฒนาแอนติบอดีขึ้นมา อวิ๋นหลิงจึงให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดเป็นเวลาหลายวัน เพื่อให้แน่ใจว่า สภาพร่างกายของชายหนุ่มจะค่อยๆ ดีขึ้น

เมื่อเห็นอวิ๋นหลิงมีความมั่นใจมาก ตงชิงก็รู้สึกโล่งใจ และยอมรับในทักษะทางการแพทย์ของอวิ๋นหลิงมากขึ้น

“โชคดีที่ได้พบกับพระชายา ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้อย่างแน่นอน”

ความรู้สึกของตงชิงที่มีต่ออวิ๋นหลิงไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นความชื่นชมอีกต่อไป ในสายตาของนาง ทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของพระชายาเป็นเหมือนกับนางฟ้าจากสวรรค์ลงมาโปรด

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อวิ๋นหลิงยุ่งอยู่กับการดูแลชายหนุ่มที่บาดเจ็บสาหัส เมื่อเซียวปี้เฉิงเห็นดังนั้นจึงรู้สึกปวดใจมาก เขาจึงไปขอความช่วยเหลือจากอู๋อันกง

“ข้าไปหาสมุนไพรหลายชนิดที่สามารถรักษาบาดแผลได้อย่างน่าอัศจรรย์ เจ้านำมันไปลองรักษาเจ้าตุ๊กตานั่นดูเถอะ”

หลังจากที่อู๋อันกงทราบเรื่องราว หลายวันที่ผ่านมาเขาจึงใช้ความพยายามในการตามหาตัวยา

อวิ๋นหลิงรับสมุนไพรมาด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านมากแล้ว แล้วช่วงนี้เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นเติบโตเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”

ก่อนหน้านี้อู๋อันกงเท้าไม่ก้าวออกนอกประตูหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน นับตั้งแต่ที่เขาได้รับสารละลายธาตุอาหารจากอวิ๋นหลิง เขาก็ใช้เวลาทั้งวันอยู่ในที่นาขนาดหนึ่งหมู่สามเฟินของสวนหลังเรือน เพื่อพยายามเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ตายแล้วเหล่านั้น

โดยไม่ต้องพูดถึงเลยว่า เขานั้นปลูกสมุนไพรหลายอย่าง แต่เขาถึงขนาดมีความสุขกับการเข้านอนโดยไม่ได้ล้างเท้าอยู่หลายคืน

“รอดตายห้าหกต้นแล้ว ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่ยังไม่มีความเคลื่อนไหว แปดส่วนคงจะตายไปถึงรากแล้ว ทว่าด้วยผลลัพธ์นี้ ข้าก็พอใจมากแล้ว”

อวิ๋นหลิงเม้มริมฝีปาก “เช่นนั้นข้าอยากจะบอกข่าวดีกับท่าน เมล็ดบัวเจ็ดทวารงอกแล้ว กว่าจะออกดอกและออกผลจะใช้เวลาประมาณสองเดือน”

อู๋อันกงตื่นเต้นขึ้นทันที “เร็วถึงเพียงนี้เลยหรือ?”

“หลังจากปลูกบัวเจ็ดทวารแล้ว ข้าจะช่วยท่านดูเมล็ดพันธุ์อื่นๆ”

ด้วยมีพลังจิต อวิ๋นหลิงจึงสามารถมั่นใจได้ว่า เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นจะงอกขึ้นมาได้อย่างแน่นอน

ก่อนที่อู๋อันกงจะร่าเริงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เยี่ยเจ๋อเฟิงก็เข้ามาหาอวิ๋นหลิง “พระชายา คนผู้นั้นฟื้นแล้ว!”

อวิ๋นหลิงลุกขึ้นและเช็ดมือทันที “ข้าจะไปดูเดี๋ยวนี้ อู๋อันกง ข้าคงต้องขอตัวก่อนแล้ว”

อู๋อันกงระงับความตื่นเต้นในใจ มองอวิ๋นหลิงที่มีสายตาต่างออกไป

เขาอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจว่า “ช่างเป็นคลื่นลูกใหม่พัดคลื่นลูกเก่าเสียจริงๆ...ทักษะทางการแพทย์ของแม่นางหลิง แม้แต่ข้าเองก็ยังต้องนับถือ”

ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นเขาก็ไม่แน่ว่าจะสามารถรักษาได้ แต่อวิ๋นหลิงกลับทำได้

หลินซินที่กำลังช่วยบดยาอยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินดังนั้น ในใจจึงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา กำสากในมือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผู้

......

เมื่ออวิ๋นหลิงก้าวเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มก็เอนตัวพิงพนักเตียง โดยที่แม่นมเฉินกำลังป้อนโจ๊กให้เขาอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ