“สมกับที่เป็นหลานคนโตของเหวินกั๋วกงสมัยก่อนจริงๆ เก่งจริงๆ”
ฉู่อวิ๋นเจ๋อรีบทำความเคารพ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ชมพ่ะย่ะค่ะ”
“ทำตัวตามสบายเถิด ข้าจำได้ว่าเจ้าทำงานในกรมอาญาใช่ไหม?”
“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมทำหน้าที่เสมียนในกรมอาญาพ่ะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิจ้าวเหรินพยักหน้ายิ้มอย่างมีเมตตา “อืม ยามนี้คุณชายต่างๆไม่ค่อยยอมทำงานจากตำแหน่งเล็กๆแล้ว จุดนี้เจ้าเหมือนบิดาเจ้ามาก”
หางตาฉู่อวิ๋นเจ๋อกระตุก ไม่รู้ว่าจักรพรรดิจ้าวเหรินกำลังชมหรือกำลังตำหนิกันแน่
บิดาของเขาเป็นรัฐทายาทสูงวัยแล้วยังไม่ได้สืบทอดตำแหน่งกั๋วกงเลย ทำงานมาหลายปีก็ไต่เต้าถึงขั้นสี่ในตำแหน่งมหาดเล็กห้องเครื่อง คนในเมืองหลวงแอบหัวเราะเยาะเขาลับหลังจำนวนมาก
“ช่วงก่อนอาลักษณ์กรมอาญาบอกว่าเจ้าเป็นคนฉลาด มีน้ำใจ บอกว่าเสียดายที่เอาคนเก่งๆไปทำงานตำแหน่งเล็กๆ ข้าก็คิดว่ามีเหตุผล”
“ยามนี้สำนักตรวจการขาดกำลังคน หาคนเก่งมาทำยาก แต่ข้าว่าเจ้าเหมาะสม นับแต่เดือนหน้าเป็นต้นไปเจ้าไปเป็นผู้ตรวจการพิเศษที่สำนักตรวจการเถิด”
ฉู่อวิ๋นเจ๋อรู้สึกอึ้ง คิดว่าตัวเองหูฝาดไป
ผู้ตรวจการพิเศษ!เป็นขุนนางขั้นสี่เชียวนะ!
ตำแหน่งนี้มีทั้งหมดสี่คน ถึงแม้จะไม่ใช่ตำแหน่งใหญ่โต อำนาจในมือก็มีจำกัด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นขุนนางระดับสี่
ปกติเขาทำงานในกรมอาญาด้วยความระมัดระวังและตั้งใจ เคยสร้างผลงานหลายเรื่อง แต่เขาที่เป็นข้าหลวงชั้นต่ำระดับเจ็ดก้าวกระโดดขึ้นเป็นขุนนางขั้นสี่ มันเหมาะสมจริงหรือ?
ฉู่อวิ๋นเจ๋อทั้งตื่นเต้นดีใจและหวาดระแวงในเวลาเดียวกัน “ฝ่าบาท พระองค์...”
จักรพรรดิจ้าวเหรินยิ้มเอ่ย “หรือเจ้าไม่เชื่อสายตาของข้า? เหวินกั๋วกงเคยบอกกับข้าว่าเจ้าเก่งกว่าบิดาเจ้าทั้งบุ๋นและบู๊ เขาตั้งความหวังกับเจ้าไว้สูง”
จักรพรรดิจ้าวเหรินส่งเสริมการงานฉู่อวิ๋นเจ๋อเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าอวิ๋นหลิงทั้งหมด เขาได้สำรวจดูแล้วว่าฉู่อวิ๋นเจ๋อมีความสามารถรับตำแหน่งนี้จริงๆ
“ข้าอ่านคดีที่เจ้าบันทึกแล้วเห็นว่าทำได้ดีมาก”
มองอย่างเป็นกลางเลย ผลงานของฉู่อวิ๋นเจ๋อดีกว่าคนตระกูลเฟิงที่ใช้เส้นสายเยอะ
สำนักฝ่ายตรวจการ หอต้าหลี่ และกรมอาญาคือสามสำนักใหญ่ที่ดูแลด้านกฎหมาย ตรวจสอบและรับเรื่องฟ้องร้องพวกขุนนางทั้งหลายในราชสำนัก พูดตรงๆก็คือคอยคุมไม่ให้ขุนนางฉ้อโกงนั่นเอง
ถึงเขากับอวิ๋นหลิงจะเป็นพี่น้องที่เกิดในอุทรเดียวกัน ทว่าที่ผ่านมาเขารักและเอ็นดูฉู่อวิ๋นหานมากกว่า จนทำให้นางต้องน้อยใจ
ทว่าอวิ๋นหลิงกลับใส่ใจเรื่องของเขา
ฉู่อวิ๋นเจ๋อเป็นคนรู้กาลเทศะ เขาเก็บอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองไว้ กล่าวเสียงจริงจังว่างดงาม สุภาพ จิตใจดี หากนางยินดี กระหม่อมก็ขอบพระทัยในพระมหากรุณาของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิจ้าวเหรินหัวเราะเสียงดัง “ข้าเคยรับปากชิงผิงว่าให้นางเลือกคู่ครองเอง ข้าพูดเรื่องนี้กับเจ้าย่อมต้องได้รับความเห็นชอบจากนางแล้ว”
“ตกลงตามนี้ เจ้ากลับไปบอกเรื่องนี้กับท่านปู่และบิดาเจ้า อีกสองวันข้าจะให้คนไปประกาศราชโองการสมรส”
ฉู่อวิ๋นเจ๋อดีใจเป็นล้นพ้น รีบเก็บความรู้สึกแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “กระหม่อมรับพระบัญชา ขอบพระทัยในพระมหากรุณาของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
หลังจากจากวังแล้ว ฉู่อวิ๋นเจ๋อจึงรู้ว่าอวิ๋นหลิงถวายภาพวาดหน้าไม้แล้วทำให้จักรพรรดิจ้าวเหรินปลื้มพระทัยยิ่ง
มิน่าล่ะจักรพรรดิถึงได้พูดกับเขาอย่างยิ้มแย้ม เลื่อนตำแหน่งให้ไม่พอ ยังพระราชทานสมรสให้ด้วย...
เมื่อคิดโดยละเอียดแล้ว เขาติดค้างน้ำใจน้องสาวเยอะจริงๆ ความละอายใจผุดขึ้นอีกครั้ง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...