พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 157

สรุปบท ตอนที่ 157 ทิ่มก้นของเขา: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

ตอน ตอนที่ 157 ทิ่มก้นของเขา จาก พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 157 ทิ่มก้นของเขา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนติกโบราณ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย Anchali เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ รถม้าก็วิ่งไปอย่างรวดเร็วไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ก่อนจะหยุดลงอย่างกะทันหัน

“หัวหน้า ตรงนี้มีหินตกลงมาขวางถนนขอรับ!”

หลังจากได้ยินเช่นนั้น ชายหนวดเคราเฟิ้มก็ตอบกลับทันที “รีบจัดการถนนให้เร็วที่สุด ต้องไปถึงหมู่บ้านในเขาทางใต้ของเมืองก่อนฟ้ามืด”

หมู่บ้านในเขาทางตอนใต้ของเมืองหรือ? คนพวกนี้จะพาพวกนางไปทำอะไรที่ทางตอนใต้ของเมือง?

อวิ๋นหลิงแอบสงสัยอยู่ในใจ อยู่ๆ ม่านรถก็ถูกเลิกขึ้น ดาบสองเล่มจี้ไปที่คอของนางแน่น

น้ำเสียงของอีกฝ่ายไม่ได้เป็นมิตรนัก กล่าวข่มขู่ว่า “เอาหน้าไม้ในมือของเจ้ามา”

ใบหน้าของเวินหวยหยูซีดลงอีกครั้ง นางไม่กล้าพูดจาอวดดี “คนดีจะไม่ลงมือกับ...”

“อย่าให้ข้าพูดรอบที่สอง ส่งหน้าไม้มา!”

“เข้าใจแล้ว จะตะโกนทำไม ข้าไม่ได้หูหนวก”

อวิ๋นหลิงตอบกลับไม่ได้ช้อนตามอง ก่อนจะถอดหน้าไม้ออกอย่างรวดเร็วแล้วส่งออกไป

เมื่อเห็นว่านางไม่ได้ประหม่าเลยสักนิด ชายมีหนวดเคราก็ตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา

“พระชายาจิ้งอ๋องช่างตรงไปตรงมาจริงๆ”

อวิ๋นหลิงหรี่ตาลงเล็กน้อย “ใครส่งพวกเจ้ามา? เจ้ารู้จักตัวตนของพวกเรา แต่ก็ยังกล้าลงมืองั้นหรือ?”

“ให้อภัยข้าด้วย ข้าตอบไม่ได้! พระชายาจิ้งอ๋องอย่าได้ถือโทษ พวกพี่น้องของข้าแค่ตามคำสั่ง ตราบใดที่พวกท่านสองคนเชื่อฟังและอยู่ในรถม้า พวกเราจะไม่ทำร้ายชีวิตของท่านทั้งสอง”

อวิ๋นหลิงคิดในใจ หลังรู้ฐานะของพวกนางแล้วแต่ยังกล้าลงมือ ลักพาตัวพวกนางมาแล้วกลับไม่รู้สึกเกรงกลัว? คิดจะทำอะไรกันแน่?

บังอาจกระทำการเช่นนี้ข้างๆ เมืองหลวง คนบงการอยู่เบื้องหลังดูเหมือนจะไม่มีความเกรงกลัวต่อสิ่งใด การคาดเดาที่คลุมเครือนี้ก็โผล่ขึ้นมาในใจของนาง

“รีบจัดการถนนให้เรียบร้อย หาที่ราบพักผ่อนสักครู่ ค่อยออกเดินทางให้เร็วที่สุด เผื่ออีกเดี๋ยวฝนตกหนักลงมา”

ชายมีหนวดเครากระโดดลงจากหลังม้า แจกแผ่นแป้งปิ้งและอาหารแห้งที่เขานำมาด้วย กระทั่งแบ่งให้อวิ๋นหลิงและเวินหวยหยูด้วยคนละชุด

เวินหวยหยูถูกบังคับให้รับแผ่นแป้งปิ้ง ราวกับได้รับเผือกร้อน ก่อนจะมองไปที่อวิ๋นหลิงเพื่อขอความช่วยเหลือ

“นี่มัน...”

“ไม่มีพิษ กินให้สบายใจเถอะ”

อวิ๋นหลิงลูบท้องและกัดอย่างไม่สนใจ เอ่ยปลอบโยนเวินหวยหยูเสียงเบา

“กินเร็วเถอะ กินอิ่มสักพักถึงจะมีแรงวิ่งหนี”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น เวินหวยหยูมองนางด้วยความกระวนกระวาย

สตรีที่อ่อนแอสองคน แถมอวิ๋นหลิงยังท้องตั้งแปดเดือน จะหนีได้อย่างไร

อวิ๋นหลิงกัดแผ่นแป้งปิ้ง และยังสังเกตการณ์รอบๆ ไปด้วย

ถ้ารวมกับชายที่มีหนวดเคราแล้ว ก็เท่ากับมีชายชุดดำสิบคน ด้วยพลังจิตในตอนนี้ของนาง ไม่มีทางสังหารให้ตายได้ในพริบตาเดียว

แต่ถ้าเป็นแค่การโจมตีทางพลังจิต ก็พอจะทำให้อีกฝ่ายหมดสติได้ และยังมีโอกาสสำเร็จมากอีกด้วย

นางต้องไว้ชีวิตหนึ่งคนเพื่อขับรถม้า และตัวเลือกที่ดีที่สุดก็คือชายที่มีหนวดเครา สภาพจิตใจของอีกฝ่ายยังแข็งแกร่งที่สุดด้วย หากพยายามโจมตีพลังจิตเขา มันไม้คุ้มค่า

ชายมีหนวดเคราและคนอื่นๆ กำลังทำความสะอาดถนน และตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่ดี

อวิ๋นหลิงวางแผ่นแป้งปิ้งลง จากนั้นก็ดึงปิ่นเงินออกมาจากมวยผมอย่างเงียบๆ

หลังจากหมุนเบาๆ หนึ่งรวบ ตรงกลางปิ่นเงินจะแยกออกเป็นสองส่วนเผยให้เห็นช่องว่างตรงกลาง ข้างในมีเข็มเงินที่เล็กมากหนึ่งเส้น ยาวประมาณครึ่งนิ้ว

นางยกม่านรถขึ้น ฉวยโอกาสตอนที่คนพวกนั้นกำลังทำความสะอาดถนน ปักเข็มเงินเล่มนั้นไปบนอานม้าอย่างเงียบๆ

เข็มเงินนั้นส่องแสงสีเงินเย็นเหยียบออกมาจากอากาศ รอคอยโอกาสจะได้ใกล้ชิดกับสะโพกของใครสักคน

เวินหวยหยูเห็นการเคลื่อนไหวของนาง หางตาก็กระตุกเล็กน้อย

“เจ้าคิดจะทำอะไร เข้าไปในรถม้า”

มีคนสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของอวิ๋นหลิง ดึงมีดขนาดใหญ่ออกมาครึ่งหนึ่งอย่างดุร้าย ก่อนจะเตือนนางด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร

เวินหวยหยูคว้าแขนเสื้อของอวิ๋นหลิงอย่างประหม่า กระตุกมันเบาๆ เพื่อส่งสัญญาณให้นางกลับเข้ามาในรถม้าเร็วๆ

“ข้าเวียนหัว เลยอยากออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์หน่อย”

อวิ๋นหลิงกะพริบตา อธิบายให้จบอย่างใจเย็น ก่อนจะปิดม่านแล้วกลับเข้าไปในรถม้า หยิบแผ่นแป้งปิ้งขึ้นมากินต่อ

หลังจากกินพริกเกลือแล้วก็ตามด้วยน้ำตาลทรายแดงจนหมดแล้ว ก็เปิดถุงน้ำดื่มให้ชุ่มคอ

อวิ๋นหลิงลุกขึ้นอย่างช้าๆ ตบมือปลอบใจเวินหวยหยูที่จับชายเสื้อของนาง แล้วยิ้มให้ชายมีหนวดคนนั้น

“พวกเขาถูกข้าวางยาสลบ ภายในหกชั่วยามนี้พวกเขาจะไม่ตื่นขึ้นมา”

เมื่อเห็นอวิ๋นหลิงล้มคนจำนวนมากได้อย่างเงียบๆ เวินหวยหยูก็มองนางด้วยสายตานับถือและฝากความหวังไว้ ทันใดนั้นความไม่สบายใจในใจก็หายไป

แต่นางก็สังเกตเห็นว่าเสียงของอวิ๋นหลิงนั้นเบามาก นางดูอ่อนแอลงเล็กน้อย อีกทั้งสีหน้าของนางก็ยังซีดเผือดลงมาก

นางคิดว่าครรภ์ของอวิ๋นหลิงอาจจะได้รับกระทบกระเทือน ก่อนจะจับมือที่เย็นเฉียบของนางกลับด้วยสายตาเป็นกังวล

ชายมีหนวดเคราพูดเสียงสูงด้วยสีหน้าสงสัย “เจ้าไปวางยาพิษตั้งแต่เมื่อไหร่?”

เหตุใดพวกเขาถึงไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ?

อวิ๋นหลิงเม้มปาก “แทนที่จะสนใจว่าข้าวางยาพิษเมื่อไหร่ สนใจสถานการณ์ของตัวเองตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ?”

ตอนนั้นเองที่ชายมีหนวดเครารู้สึกว่าเขาไม่ได้สลบเหมือนคนอื่นๆ อยู่ๆ เขาก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ

“เข็มที่เจ้าใช้ทิ่มก้นของข้า...มันเป็นพิษอะไรกันแน่?”

ใบหน้าของอวิ๋นหลิงเคร่งขรึม นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ

“เจ้าถูกพิษ 'เศษดอกเบญจมาศ' ที่เป็นพิษเฉพาะของข้า ถ้าเจ้าไม่กินยาแก้พิษภายในสิบสองชั่วยาม แผลจะเริ่มเปื่อย แล้วพิษก็จะกำเริบทำให้เจ้าตายภายในครึ่งก้านธูป”

ยาพิษนี้ถูกคิดขึ้นมาโดยอวิ๋นหลิงโดยบังเอิญ และยังไม่มีชื่อด้วยซ้ำ แต่ต้องขอบคุณจอมยุทธ์ท่านนี้ที่ใจดีทดสอบยาพิษด้วยก้นของเขา ในที่สุดมันก็มีชื่อแล้วนับแต่นี้

ชายมีเครามีสีหน้าโหดเหี้ยม ชี้ไปที่นางด้วยความเจ็บปวด “ยาแก้พิษ”

อวิ๋นหลิงยังคงกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใสด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ “พี่หนวด เจ้าเป็นคนฉลาด ไยต้องสละชีวิตของตัวเองให้คนอื่น”

“ข้าไม่ได้นำยาแก้พิษมาด้วย ถ้าเจ้าพาพวกเรากลับเมืองภายในสิบสองชั่วยาม แล้วบอกมาว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ข้าจะไม่ถือสาเรื่องในอดีตแล้วปล่อยเจ้าไปสักครา”

ชายมีหนวดมองนางด้วยความสนใจ “ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าจะไม่โกหกข้า?”

“จะเชื่อก็เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ ถึงอย่างไรคนที่ถูกวางยาพิษก็ไม่ใช่ข้า”

ชายมีหนวดกัดฟัน ไม่อยากเชื่อ แต่รู้สึกว่าจุดที่ถูกเข็มทิ่มบนก้นของเขากำลังลุกเป็นไฟพร้อมกับความรู้สึกคัน

เขาแทบอยากจะเกาบั้นท้ายของตัวเองเดี๋ยวนี้ แต่พอเขาไปสัมผัสถูกแผลโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ