พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 158

สรุปบท ตอนที่ 158 มีข้าอยู่เจ้าจะไม่เป็นอะไร: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

สรุปตอน ตอนที่ 158 มีข้าอยู่เจ้าจะไม่เป็นอะไร – จากเรื่อง พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali

ตอน ตอนที่ 158 มีข้าอยู่เจ้าจะไม่เป็นอะไร ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน Anchali เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“ได้! ข้าจะเชื่อเจ้า”

ไม่ใช่ว่าเขากลัวตาย แต่ความรู้สึกเจ็บปวดและคันเช่นนี้มันทรมานจนเขาอยากให้นี่ไม่ใช่ก้นของเขา!

ชายมีหนวดเคราไม่สนใจพี่น้องที่ล้มระเนระนาดอีกต่อไป ดังนั้นจึงได้แต่ขึ้นหลังม้าแล้วขับรถมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง

“โอ๊ย!”

ทันทีที่เขานั่งลง เขาก็กัดฟันก่อนจะคำรามออกมา ใบหน้าก็นิ่งขรึม

เมื่อเห็นเช่นนี้ เวินหวยหยูที่เมื่อครู่ประหม่าและหวาดกลัว ก็ปิดปากและอดหัวเราะออกมาไม่ได้

อวิ๋นหลิงเปลี่ยนเป็นท่าที่สบายแล้วเอนตัวพิงรถม้า หยิบแผ่นแป้งปิ้งที่ยังกินไม่เสร็จออกมากินเติมท้อง

นางพูดออกมางึมงำ “พูดมา ใครเป็นคนส่งเจ้ามาลักพาตัวพวกข้า มีจุดประสงค์อะไร?”

ชายมีหนวดเครากัดฟันด้วยใบหน้าซีดเผือด “เฟิงจิ่นเฉิง คุณชายรองบ้านใหญ่ตระกูลเฟิง”

เมื่อเวินหวยหยูได้ยินเช่นนั้น เม้มปากพูดด้วยสีหน้าไม่ดี “ทำไมเป็นเขา...เขาคิดจะทำอะไร?”

อวิ๋นหลิงไม่เคยเจอเฟิงจิ่นเฉิง แต่นางรู้ว่าเขาเป็นพี่ชายของเฟิงจิ่งเหวย

หรือว่าเขาคิดจะล้างแค้นให้น้องสาวของเขา?

“คุณชายรองคิดจะทำอะไรข้าเองก็ไม่รู้ เขาบอกแค่ว่าเห็นโอกาสแล้วลงมือ ต้องพาชิงผิงจวิ้นจู่ไปที่หมู่บ้านในเขาทางใต้ของเมืองให้ได้ หากสามารถลักพาตัวพระชายาจิ้งอ๋องมาด้วยได้ก็จะดีมาก”

เขามุ่งเป้ามาที่เวินหวยหยูหรือ?

อวิ๋นหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย นางคาดเดาความคิดของอีกฝ่ายได้อย่างคลุมเครือ และมีร่องรอยของความเย็นชาในแววตานาง

เมื่อได้ยินว่าเป้าหมายของเฟิงจิ่นเฉิงคือตน ริมฝีปากของเวินหวยหยูก็ซีดเผือด แล้วมองไปที่อวิ๋นหลิงอย่างไม่สบายใจ

“ไม่ต้องตกใจ พี่ชายและเจ้าบอดต้องรู้เรื่องนี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นมีข้าอยู่ เจ้าจะไม่เป็นอะไร”

เวินหวยหยูพยักหน้าด้วยใบหน้าซีด แม้ว่านางจะรู้สึกหวาดกลัวหลังรู้เรื่องนี้ แต่สีหน้าและคำพูดของอวิ๋นหลิงทำให้นางรู้สึกมั่นใจอย่างอธิบายไม่ได้

อวิ๋นหลิงผ่อนคลายพลังจิต เอนหลังพิงรถม้างีบหลับพลางฟังเสียฝนไปด้วย

ทำให้พวกผู้ชายตัวใหญ่หลายคนนั่นสงบในทันที มันสิ้นเปลืองพลังจิตของนางไปไม่น้อย

รถม้าแล่นออกไปได้ไม่นานฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ และแสงสุดท้ายของยามเย็นก็ใกล้จะหายไป

ชายมีหนวดสูดหายใจเย็นๆ เข้าไป ก่อนจะกัดฟันกล่าว “พระชายาจิ้งอ๋อง ฝนตกหนักตอนกลางคืน คงกลับเมืองหลวงไม่ทัน! ข้างหน้ามีโรงเตี๊ยมอยู่ต้องพักที่นี่สักคืน!”

ตูดถูกกระแทกอยู่บนหลังม้าตลาด เขาทนรับความเจ็บปวดนี้ไม่ไหวแล้ว

หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขายอมตายตอนนี้ดีกว่าทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดที่ทรมานนี้

อวิ๋นหลิงขมวดคิ้วแล้วยกม่านขึ้นก่อนเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ

ที่เชิงเขาไม่มีไฟ ไม่นานก็จะมืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไร หากฝืนบังคับรถม้าไปท่ามกลางสายฝนในตอนกลางคืนเช่นนี้ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้

อุณหภูมิโดยรอบเย็นมาก ถึงนางจะได้รับการฝึกฝนให้ทนต่อความหนาวจัดได้ นางก็ยังต้องคิดถึงลูกสองคนในท้องของนาง

อีกอย่าง...นางก็หิวมากจริงๆ

อวิ๋นหลิงกวาดตามองเวินหวยหยูที่ตัวสั่นเทาเพราะหนาว ก่อนจะพยักหน้าพูดว่า “งั้นเจ้าก็อย่าพูดมาก ไปที่โรงเตี๊ยมเถอะ”

......

จวนจิ้งอ๋อง

เมื่อได้ยินว่าอวิ๋นหลิงถูกโจมตีแล้วถูกลักพาตัวไป ถ้วยชาในมือของเซียวปี้เฉิงก็ร่วงลงกับพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆ

ความตื่นตระหนกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็ก่อตัวขึ้นในใจของเขา ร่างกายโอนเอนพยุงมุมโต๊ะลุกขึ้นมา พยายามทำให้ตัวเองนิ่งสงบลง

“ทุกอย่างเป็นความผิดของข้าเอง”

ดวงตาของนางเฉินบวมแดงเพราะร้องไห้มา จนแทบจะหายใจไม่ออก

“ข้าไม่ควรลากหวยหยูไปที่อธิษฐานขอพรที่วัดหานซานเลย แถมยังยืนกรานจะพาหลิงเอ๋อร์ไปด้วยอีก”

เดิมทีเพราะความรักความสงสารที่มีต่อหวยอวี๋ นางเฉินเป็นคนแรกที่เสนอว่าจะอธิษฐานขอพรให้ผิงหยางอ๋องผู้เฒ่า แต่ระหว่างทางกลับ ไหนเลยจะรู้ว่าจะได้พบกับโจรภูเขา แล้วลักพาตัวลูกสาวและลูกสะใภ้ของนางไปด้วย

ขณะที่เข้าไปในห้องโถง ก็รู้สึกว่าบรรยากาศในโรงเตี๊ยมน่ากลัวแปลกๆ ในอากาศมีกลิ่นเลือดจางๆ ลอยอยู่

อวิ๋นหลิงหยุดชะงัก หรี่ตาลงสังเกตสถานการณ์ในห้องโถง กิจการโรงเตี๊ยมค่อนข้างเงียบและไม่มีใคร

ไม่ไกลนัก เสี่ยวเอ้อร์และเถ้าแก่ร้านกำลังเผชิญหน้ากับชายสองคนด้วยใบหน้าตื่นตระหนกและหวาดกลัว

ชายหนุ่มรูปงามสวมชุดสีดำ ซ่อนใบหน้าครึ่งหนึ่งไว้ใต้หมวกไม้ไผ่ มีดขนาดใหญ่อยู่ข้างหลัง และระหว่างเอวก็มีกระบี่

ฟงจื่อโจวมองเจ้าของร้านแล้วพูดเสียงแหบแห้ง “ข้าอยากได้ห้องพัก เสื้อผ้าสะอาด ผ้าขาวและยาจินชวง”

น้ำเสียงของเขาแข็งทื่อเล็กน้อย สำเนียงของเขาก็ไม่เหมือนคนแคว้นต้าโจว

เขาพยุงชายร่างสูงที่มีร่างกายกำยำเหมือนกัน

อีกฝ่ายสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่สามารถแม้แต่จะยืนตัวตรงได้ ดูเหมือนว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แถมยังมีกลิ่นเลือดไปทั่วร่างกาย แม้แต่เสื้อผ้าสีดำบนร่างกายของเขาก็เปียกโชกไปด้วยสีที่เข้มกว่า

เมื่อเห็นเช่นนี้ เวินหวยหยูก็กังวลขึ้นมา นางมองไปที่อวิ๋นหลิงอย่างกระวนกระวายใจ ก่อนกระซิบเสียงเบา

“ที่นี่ก็ดูเหมือนจะไม่ปลอดภัย... อีกอย่าง ดูเหมือนพวกเราจะไม่มีเงินติดตัวเลย...”

อวิ๋นหลิงเม้มปากไม่พูดอะไรต่อ ชายสองคนนี้มีออร่าที่น่าหวาดกลัว แค่เห็นปราดเดียวก็รู้ว่ามีชีวิตคนไม่น้อยที่ตายอยู่ในกำมือของเขา

เมื่อมองจากการเคลื่อนไหวและพลัง เรื่องวรยุทธ์ไม่ต้องสงสัย การเก็บกลิ่นอายและการยืนที่มั่นคงนั้น วรยุทธ์ดีมากแน่นอน

เจ้าของร้านกล่าวด้วยความหวาดกลัว “ลูกค้า พี่น้องของเจ้าได้บาดเจ็บแบบนี้ ถ้าเขาตายในโรงเตี๊ยม ธุรกิจของเราก็อาจจะทำต่อไม่ได้แล้ว...”

เสียงของฟงจื่อโจวกลายเป็นร้อนใจ

“เถ้าแก่ ข้าให้ราคาเจ้าเพิ่งเป็นเท่า หรือสามเท่าก็ได้! ขอแค่เจ้าเอายายาจินชวงมาให้พี่ใหญ่ของข้าให้เร็วที่สุด ข้าจะขอบคุณเจ้ามาก”

ทั้งที่ชายคนนี้พกอาวุธ แต่กลับไม่เลือกข่มขู่เถ้าแก่ร้าน ดูออกว่าไม่ใช่คนเลว

อวิ๋นหลิงผ่อนคลายลง ครุ่นคิดแล้วส่งเสียงขัดจังหวะพวกเขา

“บุรุษท่านนี้ พี่น้องของเจ้าบาดเจ็บสาหัส คงยากมากหากคิดจะใช้ยารักษาธรรมดาห้ามเลือดของเขา บังเอิญว่าข้ามียาและรู้วิชาแพทย์มาบ้าง ข้าสามารถรักษาอาการของเขาให้คงที่ได้ชั่วคราว แต่ข้ามีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ