พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 168

สรุปบท ตอนที่ 168 ปราบจวนเฟิงให้เรียบเป็นหน้ากลอง: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

ตอนที่ 168 ปราบจวนเฟิงให้เรียบเป็นหน้ากลอง – ตอนที่ต้องอ่านของ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนติกโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 168 ปราบจวนเฟิงให้เรียบเป็นหน้ากลอง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เมื่อทั้งสามคนมาถึง เฟิงจิ่นหยูถูกทรมานจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว

แรงแค้นของผู้หญิงน่ากลัวยิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้นเป็นผู้หญิงที่สะสมแรงแค้นมากว่ายี่สิบปี

ถูกกักขังมานานขนาดนี้ เมื่อระบายความคลุ้มคลั่งออกมาได้ ทำให้บนตัวเฟิงจิ่นเฉิงไม่มีที่ใดเหลือชิ้นดี

“นี่……นี่ข้าตาฝาดไปรึ?”

ฉู่อวิ๋นเจ๋อชี้นิ้วไปยังเฟิงจิ่นเฉิงที่ผมกระเซิง เสื้อผ้าขาดรุ่ย ตาเขาเบิกโตราวกระดิ่ง

ไม่เหมือนกับภาพในหัวที่คิดกังวลไว้นี่!

รอยบนตัวเฟิงจิ่นเฉิงดูก็รู้ว่าถูกคนใช้แส้ฟาด ใบหน้าหล่อเหลาก็ถูกข่วนเป็นรอยแผลสด รอยเลือดที่ยังไม่ทันแห้งดูน่ากลัวราวกับผีตายโหง

บนตัวเขามีแผลถูกแทงนับไม่ถ้วน และที่น่ากลัวที่สุดคือชายเสื้อตรงระหว่างขาของเขา……มีคราบเลือดขนาดใหญ่

เซียวปี้เฉิงไม่พูดจา แววตากังวลแปรเปลี่ยนเป็นสับสน

เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ตกตะลึง

ตอนนี้คือที่กำลังลงโทษเฟิงจิ่นเฉิงคือ เวินหวยหยู เมื่อได้ยินเสียงของฉู่อวิ๋นเจ๋อ นางหันขวับกลับมาแล้วตกใจจนโยนท่อนไม้ไผ่ทิ้ง

พระเจ้า! เขาไม่ได้เห็นภาพที่นางกำลังทารุณกรรม’ตรงนั้น’ของเฟิงจิ่นเฉิงใช่ไหม?

“พวกเจ้าเป็นใคร?”

เมื่อเห็นบุรุษแปลกหน้าปรากฏ สตรีงดงามเหล่านี้ตื่นตระหนก มองพวกเซียวปี้เฉิงอย่างระแวง แววตายังคงความเคียดแค้นอำมหิต

ในมือพวกนางมีทั้งกริช ทั้งแส้ เสมือนเม่นที่กำลังผองขนขู่ฝ่อ

เฟิงจื่อตานขนหัวลุก กล้าสาบานว่าเขาออกศึกมาหลายปี ไม่เคยพบเจอแรงอาฆาตแค้นที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน

“แม่นางทั้งหลายใจเย็นๆก่อน เรามาช่วยพวกเจ้า!”

อวิ๋นหลิงเห็นเซียวปี้เฉิงก็ลุกกายพูดปลอบ “วางใจกันเถิด นี่คือสามีและพี่ชายข้า พวกเขาเป็นคนกันเอง”

ได้รับคำปลอบใจจากนาง เหล่าแม่นางต่างก็วางใจลง

เซียวปี้เฉิงได้สติกลับมาก็รีบเข้าไปคว้าอวิ๋นหลิงเอาไว้ กอดนางแนบกับอกแน่น

“ดีที่ไม่เป็นอะไร!”

เมื่อมั่นใจว่าคนตรงหน้าเป็นความจริง เซียวปี้เฉิงสูดหายใจลึก ตามหาขวัญที่แตกกระเจิงกลับมา

ดวงตาเขาแดงก่ำ สำรวจอวิ๋นหลิงทั้งตัว เมื่อมั่นใจว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บถึงจะวางหินอันหนักอึ้งในใจลงได้

“…..ข้ามาช้าไป เขาไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม เจ้ากลัวมากเลยใช่ไหม?” เซียวปี้เฉิงเสียงแหบเครือ แววตาโทษตัวเอง “เป็นความผิดข้าที่ปล่อยให้เจ้าไปขอพรวัดหานซานเพียงลำพัง”

แววตาเขาอิดโรยเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยแดง เห็นได้ชัดว่าสองวันหนึ่งคืนนี้ไม่ได้พักผ่อนเลย

ในใจอวิ๋นหลิงท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกผิด

จะให้นางบอกว่า นางไม่กลัวไม่พอ แต่ยังระบายอารมณ์ที่เรือนในอย่างสะใจงั้นหรือ?

“ไม่หรอก ท่านมาทันเวลาได้พอดี” อวิ๋นหลิง กดน้ำเสียงลงปลอบใจเขา “จริงๆนะ…..ท่านอย่าเป็นห่วงเลย ข้าเคยบอกแล้วว่าให้เชื่อใจข้า หากข้าเจออันตรายอันใดข้าดูแลตัวเองได้”

คิดดูดีๆแล้ว นางถูกเฟิงจิ่นเฉิงจับตัวไปก็แค่สองวันหนึ่งคืน แต่เซียวปี้เฉิงและตระกูลหลินต้องกังวลใจอย่างมากแน่

ในใจอวิ๋นหลิงรู้ดี ว่าครั้งนี้นางเอาแต่ใจมากเกินไป

แต่นางเป็นคนที่มีแค้นต้องชำระ แทบจะหนีออกไปได้แล้ว แต่เฟิงจิ่นเฉิงเสนอหน้าเข้ามาเอง จะให้นางไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่ได้

บัดนี้เมื่อรู้เรื่องหมู่บ้านน้ำพุร้อนแล้ว นางยิ่งไม่เสียดายที่ตัดสินใจไปแบบนั้น

ฉู่หลิงเจ๋อได้สติจากความตะลึงใจ ถามไถ่ด้วยท่าทางร้อนรน “หวยหยูล่ะ หวยหยูอยู่ไหน? นางเป็นอะไรรึเปล่า?”

สายตาร้อนรนกวาดตามองเหล่าแม่นางพวกนั้น แต่ไม่เห็นเงาของว่าที่พรรยา เขาร้อนใจจนเหงื่อแตกพลั่ก

เวินหวยหยูกัดปาก ตอบรับเสียงเล็กเสียงน้อย “อวิ๋นเจ๋อ ข้าอยู่นี่……”

ฉู่อวิ๋นหลิงหยุดสายตาไปที่หนุ่มหน้ามนคนนั้น เขาชะงักไปย้อนนึกถึง ภาพตอนที่เขาบุกเข้ามา อีกฝ่ายถือท่อนไม้ไผ่แทงเป้าของ

พูดจบ พวกผู้หญิงเหล่านั้นก็น้ำตาไหลริน แม่นางชุดเทาเข้มเป็นคนนำคุกเข่าลงกับพื้นให้แก่อวิ๋นหลิง

“ขอบพระคุณพระชายายิ่งนัก บุญคุณของท่านนี้ พวกเรามิอาจลืม!”

เมื่อแม่นางชุดสีเทาคุกเข่า คนอื่นที่เหลือก็คุกเข่าตามแล้วขอบคุณซึ้งในบุญคุณเสียงสะอื้น

อวิ๋นหลิงใจหาย “เมื่อกลับไปแล้ว พวกเจ้าบอกเล่าเรื่องราวที่ประสบพบเจอมาให้หมด ราชสำนักต้องคืนความยุติธรรมให้พวกเจ้าเป็นแน่”

สุดท้ายแล้วก็ให้ฉู่อวิ๋นเจ๋อจัดการดูแลพวกนางต่อ แม่นางที่ชื่อจื่อเถาถีบลงตรงเป้าเฟิงจิ่นเฉิงอย่างแรงอีกครั้งก่อนจากไป

ถีบนี้ทำให้พวกผู้ชายในเหตุการณ์ต่างพากันหน้าเขียว หนีบขาอย่างไม่รู้ตัว

เซียวปี้เฉิงมองเป้าของเฟิงจิ่นเฉิงด้วยอารมณ์หลากหลายจนพูดไม่ออก ต่อให้ไม่ได้เห็นกับตา แต่เขามั่นใจว่า ไข่สองใบนั้นคงแหลกละเอียดแล้วแน่

เมื่อนึกถึงเฟิงจิ่นเฉิงคิดไม่ดีกับอวิ๋นหลิงแล้ว ไฟในอกเขาลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง

หอกในมือหมุนพลิ้วอย่างรวดเร็วสี่ครั้ง เฟิงจิ่นเฉิงล้มลงกับพื้นแหกปากร้องโหยหวน สั่นไปทั้งตัว

แขนขาของเขามีแผลทั้งสี่ข้าง แม้จะมีชีวิตอยู่ แต่กลายเป็นอัมพาตไปซะแล้ว

ความเจ็บเข้ากระดูกทำให้เฟิงจิ่นเฉิงได้สติกลับมา แต่เขาดูเหมือนผิดปกติไป สายตาสบกับอว๋นหลิงแล้วก็ดิ้นบนพื้นอย่างหวาดกลัว

“ปีศาจ! มีปีศาจ!”

“ปีศาจมาแล้ว แม่ช่วยข้าด้วย!”

เฟิงจิ่นเฉิงร้องไห้โฮ ประเดี๋ยวร้องไห้ ประเดี๋ยวหัวเราะ พูดพึมพำเรื่อยเปื่อย

อวิ๋นหลิงเลิกคิ้วพูดเสียงทุ้มต่ำ “สมองของเขาถูกพลังจิตข้ากระตุ้นมากเกินไป เขาเป็นบ้าไปแล้ว”

สายตาอำมหิตของเซียวปี้เฉิงกวาดมองเฟิงจิ่นเฉิงแล้วออกคำสั่งด้วยสีหน้าเย็นชา

“จับมันส่งไปหอต้าหลี่ซะ!

สักวันหนึ่งเขาจะปราบจวนเฟิงให้ราบเป็นหน้ากลองให้ได้ แค้นนี้ต้องชำระ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ