เมื่อใกล้จะถึงวันไหว้พระจันทร์ ทุกหลังคาเรือนเริ่มเตรียมขนมไหว้พระจันทร์ ทั่วทั้งเมืองหลวงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่น
ฮองเฮาเข้าศาลบรรพชน หน้าที่จัดเตรียมงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์จึงตกเป็นของหวงกุ้ยเฟยกับเหลียงเฟยโดยปริยาย
ขาของเยียนอ๋องหายหนึ่งเดือนกว่าแล้ว ถึงแม้ยังกำลังกายหนักๆไม่ได้ แต่ก็สามารถเดินเหินเหมือนคนปกติได้แล้ว เมื่อขาหายดีแล้ว เขาก็ชอบไปเดินเล่น ชอบไปเยี่ยมหลานชายแก้มยุ้ยในจวนจิ้งอ๋องเป็นประจำ
เขารู้ว่าหวงกุ้ยเฟยคิดถึงเขา เขาก็เข้าวังไปเยี่ยมตามเวลา
พบว่าถึงเยียนอ๋องจะเดินได้แล้ว แต่ก็ไม่คล่องแคล่ว เดินช้ากว่าคนปกติและวิ่งไม่ได้เลย หวงกุ้ยเฟยดีใจได้ไม่นานก็เริ่มกังวลใจขึ้นมา
“ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ขาของเจ้าถึงจะกลับมาเป็นปกติ? ต่อไปฝึกยุทธ์ได้ไหม?”
เยียนอ๋องตอบ “พี่สะใภ้สามบอกว่าขาข้าโดนพิษเย็นมาสองปีกว่า โชคดีมากแล้วที่กล้ามเนื้อส่วนขายังเหลืออยู่ ต่อไปคงฝึกยุทธ์ไม่ได้แล้ว แต่ถ้าฟื้นฟูดีๆอีกสามถึงห้าปีก็จะสามารถกลับมาเดินเหมือนคนปกติแล้ว”
หวยกุ้ยเฟยได้ยินประโยคนี้ก็อนาทรร้อนใจขึ้นมา “อะไรน่ะ ฝึกยุทธ์ไม่ได้แล้วหรือ?”
นางพูดเสียงดังกะทันหัน นางกำนัลกับทหารคุ้มกันด้านนอกจึงหันหน้ามองเข้ามา
หวงกุ้ยเฟยรู้ตัวว่าพูดเสียงดังไป จึงกดเสียงพูดด้วยสีหน้าโมโห “ไม่ได้ ฝ่าบาทกับพระเจ้าหลวงชอบโอรสที่เก่งด้านการต่อสู้ หากเจ้าฝึกยุทธ์ไม่ได้ ต่อไปจะเอาอะไรไปสู้กับเขา?”
นางกระวนกระวายใจขึ้นมา อดสงสัยในตัวอวิ๋นหลิงไม่ได้ หรือว่านางแค้นตนหรือว่ามีแผนอื่นจึงไม่ได้รักษาเยียนอ๋องให้หายขาด
“ฉู่อวิ๋นหลิงรักษาเจ้าสุดความสามารถหรือยัง นางเป็นหมอเทวดาไม่ใช่หรือ? ทำไมรักษาเจ้าแล้วเจ้ายังฝึกยุทธ์ไม่ได้อีก นางกลัวเจ้าจะถ่วงอนาคตจิ้งอ๋อง จึงจงใจทำเช่นนี้หรือไม่?”
เมื่อได้ยินหวงกุ้ยเฟยพูดอวิ๋นหลิงในทางไม่ดี เยียนอ๋องก็ทำหน้าบูดเบี้ยว พูดเสียงไม่พอใจว่า “เมื่อก่อนข้าไม่มีโอกาสเดินได้เลย ถ้าไม่ใช่พี่สะใภ้สาม วันนี้ข้ายังสามารถยืนคุยกับท่านแม่ได้หรือ? คงต้องทนทรมานจากความเจ็บปวดของพิษเย็นแล้ว”
หวงกุ้ยเฟยหน้าแข็งทื่อ รู้ว่ายามนี้บุตรชายหลงในความดีของฉู่อวิ๋นหลิง จึงได้แต่ระงับความโกรธแล้วพูดประนีประนอม
“เมื่อครู่แม่ใจร้อนจึงพูดผิดไป เจ้าอย่าเก็บไปใส่ใจเลยนะ นางรักษาขาเจ้าหาย แม่ย่อมซาบซึ้งนางอยู่แล้ว”
หวงกุ้ยเฟยไม่ได้พูดปด ช่วงนี้นางซาบซึ้งในน้ำใจของอวิ๋นหลิงมาก หากไม่ใช่นางตระกูลเฟิงกับฮองเฮาเฟิงก็คงไม่โดนลดอำนาจเช่นนี้หรอก
เยียนอ๋องถอนหายใจยาวๆ “เสด็จแม่ ความรู้ข้าไม่เท่าพี่ใหญ่ วรยุทธ์ข้าสู้พี่สามไม่ได้ ข้าไม่เหมาะจะนั่งตำแหน่งนั้น ท่านแม่อย่าเพ้อฝันกับเรื่องที่ไม่ควรคิดเลย ข้ารู้จักประมาณตน”
ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่อยากครอบครองสิ่งนั้นด้วย อยากเป็นอ๋องที่ไร้ทุกข์ไร้ความกังวล ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขทั้งชาติ
หวงกุ้ยเฟยมองเขาแล้วรู้สึกผิดหวังที่บุตรชายไม่มีเป้าหมายในชีวิต “ไยถึงเทียบไม่ได้? รุ่ยอ๋องเป็นเพียงหนอนหนังสือ หากเสด็จพ่อเจ้าอยากมอบบัลลังก์ให้เขา ลำพังที่ฝ่าบาทหลงสตรีคนนั้นจนโงหัวไม่ขึ้น คงแต่งตั้งรุ่ยอ๋องเป็นรัชทายาทไปนานแล้ว”
จักรพรรดิจ้าวเหรินรักฮองเฮาเฟิงจนออกนอกหน้าก็ไม่แต่งตั้งให้รุ่ยอ๋องเป็นรัชทายาท แสดงว่าฮ่องเต้ไม่อยากให้เขาเป็นตั้งนานแล้ว
“ส่วนพี่สามเจ้า เขาไม่มีอำนาจฝ่ายมารดาค้ำจุน เอาแต่จดจ่อกับภรรยา แล้วยังยืนกรานว่าจะไม่แต่งพระชายารอง และไม่เอาอนุภรรยา ไม่ง่ายเลยกว่าจะเห็นตระกูลเฟิงเสียหายอย่างหนัก แล้วสตรีผู้นั้นก็เข้าศาลบรรพชนไปแล้ว เวลานี้เป็นโอกาสทองของพวกเรานะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...