พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 185

สรุปบท ตอนที่ 185 สมน้ำหน้ากรรมตามสนองนางแล้ว: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

ตอน ตอนที่ 185 สมน้ำหน้ากรรมตามสนองนางแล้ว จาก พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 185 สมน้ำหน้ากรรมตามสนองนางแล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนติกโบราณ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ ที่เขียนโดย Anchali เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่อใกล้จะถึงวันไหว้พระจันทร์ ทุกหลังคาเรือนเริ่มเตรียมขนมไหว้พระจันทร์ ทั่วทั้งเมืองหลวงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่น

ฮองเฮาเข้าศาลบรรพชน หน้าที่จัดเตรียมงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์จึงตกเป็นของหวงกุ้ยเฟยกับเหลียงเฟยโดยปริยาย

ขาของเยียนอ๋องหายหนึ่งเดือนกว่าแล้ว ถึงแม้ยังกำลังกายหนักๆไม่ได้ แต่ก็สามารถเดินเหินเหมือนคนปกติได้แล้ว เมื่อขาหายดีแล้ว เขาก็ชอบไปเดินเล่น ชอบไปเยี่ยมหลานชายแก้มยุ้ยในจวนจิ้งอ๋องเป็นประจำ

เขารู้ว่าหวงกุ้ยเฟยคิดถึงเขา เขาก็เข้าวังไปเยี่ยมตามเวลา

พบว่าถึงเยียนอ๋องจะเดินได้แล้ว แต่ก็ไม่คล่องแคล่ว เดินช้ากว่าคนปกติและวิ่งไม่ได้เลย หวงกุ้ยเฟยดีใจได้ไม่นานก็เริ่มกังวลใจขึ้นมา

“ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ขาของเจ้าถึงจะกลับมาเป็นปกติ? ต่อไปฝึกยุทธ์ได้ไหม?”

เยียนอ๋องตอบ “พี่สะใภ้สามบอกว่าขาข้าโดนพิษเย็นมาสองปีกว่า โชคดีมากแล้วที่กล้ามเนื้อส่วนขายังเหลืออยู่ ต่อไปคงฝึกยุทธ์ไม่ได้แล้ว แต่ถ้าฟื้นฟูดีๆอีกสามถึงห้าปีก็จะสามารถกลับมาเดินเหมือนคนปกติแล้ว”

หวยกุ้ยเฟยได้ยินประโยคนี้ก็อนาทรร้อนใจขึ้นมา “อะไรน่ะ ฝึกยุทธ์ไม่ได้แล้วหรือ?”

นางพูดเสียงดังกะทันหัน นางกำนัลกับทหารคุ้มกันด้านนอกจึงหันหน้ามองเข้ามา

หวงกุ้ยเฟยรู้ตัวว่าพูดเสียงดังไป จึงกดเสียงพูดด้วยสีหน้าโมโห “ไม่ได้ ฝ่าบาทกับพระเจ้าหลวงชอบโอรสที่เก่งด้านการต่อสู้ หากเจ้าฝึกยุทธ์ไม่ได้ ต่อไปจะเอาอะไรไปสู้กับเขา?”

นางกระวนกระวายใจขึ้นมา อดสงสัยในตัวอวิ๋นหลิงไม่ได้ หรือว่านางแค้นตนหรือว่ามีแผนอื่นจึงไม่ได้รักษาเยียนอ๋องให้หายขาด

“ฉู่อวิ๋นหลิงรักษาเจ้าสุดความสามารถหรือยัง นางเป็นหมอเทวดาไม่ใช่หรือ? ทำไมรักษาเจ้าแล้วเจ้ายังฝึกยุทธ์ไม่ได้อีก นางกลัวเจ้าจะถ่วงอนาคตจิ้งอ๋อง จึงจงใจทำเช่นนี้หรือไม่?”

เมื่อได้ยินหวงกุ้ยเฟยพูดอวิ๋นหลิงในทางไม่ดี เยียนอ๋องก็ทำหน้าบูดเบี้ยว พูดเสียงไม่พอใจว่า “เมื่อก่อนข้าไม่มีโอกาสเดินได้เลย ถ้าไม่ใช่พี่สะใภ้สาม วันนี้ข้ายังสามารถยืนคุยกับท่านแม่ได้หรือ? คงต้องทนทรมานจากความเจ็บปวดของพิษเย็นแล้ว”

หวงกุ้ยเฟยหน้าแข็งทื่อ รู้ว่ายามนี้บุตรชายหลงในความดีของฉู่อวิ๋นหลิง จึงได้แต่ระงับความโกรธแล้วพูดประนีประนอม

“เมื่อครู่แม่ใจร้อนจึงพูดผิดไป เจ้าอย่าเก็บไปใส่ใจเลยนะ นางรักษาขาเจ้าหาย แม่ย่อมซาบซึ้งนางอยู่แล้ว”

หวงกุ้ยเฟยไม่ได้พูดปด ช่วงนี้นางซาบซึ้งในน้ำใจของอวิ๋นหลิงมาก หากไม่ใช่นางตระกูลเฟิงกับฮองเฮาเฟิงก็คงไม่โดนลดอำนาจเช่นนี้หรอก

เยียนอ๋องถอนหายใจยาวๆ “เสด็จแม่ ความรู้ข้าไม่เท่าพี่ใหญ่ วรยุทธ์ข้าสู้พี่สามไม่ได้ ข้าไม่เหมาะจะนั่งตำแหน่งนั้น ท่านแม่อย่าเพ้อฝันกับเรื่องที่ไม่ควรคิดเลย ข้ารู้จักประมาณตน”

ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่อยากครอบครองสิ่งนั้นด้วย อยากเป็นอ๋องที่ไร้ทุกข์ไร้ความกังวล ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขทั้งชาติ

หวงกุ้ยเฟยมองเขาแล้วรู้สึกผิดหวังที่บุตรชายไม่มีเป้าหมายในชีวิต “ไยถึงเทียบไม่ได้? รุ่ยอ๋องเป็นเพียงหนอนหนังสือ หากเสด็จพ่อเจ้าอยากมอบบัลลังก์ให้เขา ลำพังที่ฝ่าบาทหลงสตรีคนนั้นจนโงหัวไม่ขึ้น คงแต่งตั้งรุ่ยอ๋องเป็นรัชทายาทไปนานแล้ว”

จักรพรรดิจ้าวเหรินรักฮองเฮาเฟิงจนออกนอกหน้าก็ไม่แต่งตั้งให้รุ่ยอ๋องเป็นรัชทายาท แสดงว่าฮ่องเต้ไม่อยากให้เขาเป็นตั้งนานแล้ว

“ส่วนพี่สามเจ้า เขาไม่มีอำนาจฝ่ายมารดาค้ำจุน เอาแต่จดจ่อกับภรรยา แล้วยังยืนกรานว่าจะไม่แต่งพระชายารอง และไม่เอาอนุภรรยา ไม่ง่ายเลยกว่าจะเห็นตระกูลเฟิงเสียหายอย่างหนัก แล้วสตรีผู้นั้นก็เข้าศาลบรรพชนไปแล้ว เวลานี้เป็นโอกาสทองของพวกเรานะ”

“ต้องโทษที่แม่ไม่เอาไหน ปกป้องเจ้าไม่ได้...สติปัญญาเจ้าเหนือกว่าผู้อื่น แต่ข้ากลับทำได้เช่นนั้น”

เมื่อพูดถึงอดีต แววตาองค์ชายห้าก็มีประกายแสงซับซ้อนออกมา

ตอนเขายังเด็ก เขาอายุเจ็ดขวบก็เขียนบทกวีจนเป็นที่ชื่นชมของเหล่าบัณฑิต ได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิจ้าวเหริน ส่งผลให้ฮองเฮาเฟิงริษยาและหวาดระแวง เกรงเขาจะเก่งกว่ารุ่ยอ๋อง

หลังเกิดเรื่องในงานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ เหลียงเฟยที่ตอนนั้นยังเป็นเพียงเจี๋ยอวี๋รู้ตัวว่าสู้ฮองเฮาเฟิงไม่ได้ จึงต้องกัดฟันให้ลูกน้องปล่อยข่าวว่าบทกวีขององค์ชายห้าเขียนโดยผู้อื่น

ถึงจะทำให้ฮองเฮาเฟิงหายระแวงและรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ก็สูญเสียความโปรดปรานจากจักรพรรดิจ้าวเหรินด้วย ที่ผ่านเขาจึงเป็นองค์ชายที่มีชื่อเสียงป่นปี้

ตอนนี้ลูกชายโตเป็นหนุ่มแล้วยังไม่ได้แต่งตั้งเป็นอ๋องและมอบจวนให้อาศัยเลย

องค์ชายหกปรับอารมณ์ตัวเอง พูดปลอบใจเหลียงเฟย “เรื่องผ่านไปแล้วเสด็จแม่ก็ไม่ต้องพูดถึงอีก ยามนี้ฮองเฮาเฟิงเข้าศาลบรรพชนแล้ว ทำร้ายผู้ใดไม่ได้อีก”

เหลียงเฟยเช็ดน้ำตา “ใช่แล้ว...กรรมใดใครก่อกรรมนั้นใครรับ ไม่คิดว่าฮองเฮาเฟิงจะตกอับกับเขาด้วย ต้องขอบคุณพระชายาจิ้งจริงๆ”

“ยามนี้พวกเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์อันตรายแล้ว เจ้าไม่ต้องปิดกั้นตัวเองอีก วันเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในวังหลวงใกล้จะถึงแล้ว หยวนโม่...”

สิ่งที่เคยโดนข่มเหงรังแกในอดีตถึงเวลาเอาคืนแล้ว สิ่งที่สูญเสียไปก็ควรเอากลับมาได้แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ