พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 187

อวิ๋นหลิงรู้สึกรื่นรมย์ใจกับคำชมของเขา นางตอบอย่างถ่อมตัวสองสามประโยค ทว่าความภาคภูมิใจตรงหางตาก็ยากจะกลบเกลื่อน

“ข้าไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอก เป็นแค่งูๆปลาๆเอง พี่ใหญ่ต่างหากที่เป็นเซียนด้านนี้ นางเป็นคนสอนข้าเอง”

พี่ใหญ่หลงเย่ ความสามารถด้านพลังจิตคือสะกดจิตและอ่านใจผู้อื่นได้ ทั้งยังสามารถควบคุมจิตใจผู้อื่นภายในเวลาอันสั้นด้วย

แตกต่างจากหลิวฉิงที่ไม่พอใจก็จะลงไม้ลงมือ พี่ใหญ่เป็นเหมือนกุนซือในทีม ฉลาดแกมโกง ชำนาญด้านการวางแผนด้านจิตใจ กอปรกับมีพรสวรรค์ด้านการอ่านใจแล้ว เรียกได้ว่าถูกผู้กระทำเป็นดั่งลูกไก่ในกำมือ

ทุกครั้งที่ออกไปปฏิบัติภารกิจ นางจะเป็นแกนนำในการกำหนดยุทธวิธี

อาจเป็นเพราะสติปัญญาด้านจิตใจแกร่งเกินไป ร่างกายจึงอ่อนแอ พี่ใหญ่กับหลิวฉิงล้วนเป็นคนไข้วีไอพีของอวิ๋นหลิง

เวลาว่างๆก็จะชอบเล่นกู่ฉิน เล่นหมากรุก วาดรูป ดูภายนอกนางอาจจะดูเหมือนดอกบัวอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทว่าภายในกลับเป็นดอกฝิ่นที่มียาพิษอันร้ายกาจ

ชาติที่แล้วนางวางแผนมาเนิ่นนาน ในที่สุดก็สามารถส่งพวกนางสามคนออกไปได้ แต่นางกลับเสียชีวิตในองค์กร

เมื่อเห็นอวิ๋นหลิงทำหน้าเศร้าสร้อย เซียวปี้เฉิงก็รู้ว่านางคิดถึงพวกพี่น้องอีกแล้ว จึงยิ้มเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา

“แล้วเจ้าฝึกวิธีทำดินสอมาจากไหน?”

อวิ๋นหลิงได้สติก็ยิ้มอย่างร่าเริง “ข้าศึกษาด้านการปรุงยาเป็นหลัก จึงศึกษาวิถีชีวิตกับวิชาเคมีด้วย ถึงจะทำงานง่ายๆแบบนี้เป็นบางครั้งก็ไม่มีทางลืม”

นางทำเรื่องกระจุกกระจิกเป็นอีกหลายอย่าง แต่ก็สรุปในเวลาอันสั้นไม่ได้ว่าเป็นอะไรบ้าง

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า ดวงตาเปล่งประกายแสงเจิดจ้า ถามเชิงหารือว่า “เมียจ๋า...พวกเราหารือกันหน่อยไหม?”

อวิ๋นหลิงเลิกคิ้ว “ท่านว่ามาสิ”

“ถวายภาพวาดขั้นตอนการทำดินสอหน่อยได้ไหม? เสด็จพ่อต้องสั่งให้คนผลิตแน่”

เซียวปี้เฉิงมองนางพลันอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง

“ดินสอของเจ้าพกพาสะดวก เขียนออกมาได้ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องฝนหมึกด้วย ใช้สะดวกมาก”

ถ้าดินสออันทันสมัยเป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เหล่าบัณฑิตก็จะได้ผลประโยชน์เต็มๆ และเป็นประโยชน์ต่อการส่งจดหมายรายงานการรบมหาศาลด้วย

เวลาเซียวปี้เฉิงทำสงครามช่วงฤดูหนาว จะเจอปัญหาน้ำหมึกเกาะตัวเป็นก้อน

นายทหารจึงได้แต่เอาพู่กันเตะน้ำหมึกที่จับตัวเป็นก้อนแล้วผสมกับน้ำลาย ก่อนจะเขียนรายงานสถานการณ์การรบ ไม่เพียงแต่ยุ่งยากตัวหนังสือก็ไม่ชัดด้วย

อวิ๋นหลิงได้ยินเหตุผลของเขาแล้วก็เผยความอ่อนโยน

“ในเมื่อต้องการสร้างความสะดวกสบายแก่ประชาชน เช่นนั้นก็ถวายทั้งหมดเถิด อันที่จริงข้าทำดินสอสีได้ด้วย แต่ข้าไม่มีเวลาทำวัสดุพวกนั้น”

เซียวปี้เฉิงได้ยินก็อุ้มอวิ๋นหลิงหมุนหลายรอบด้วยความดีใจ ก่อนจะเอาแก้มนางมาหอมหลายที

เขากล่าวด้วยความเบิกบานใจ “เมียจ๋า เจ้าดีจังเลย เจ้าเป็นเทพธิดาที่สวรรค์ส่งมาช่วยต้าโจวจริงๆ”

“หลีกไป อย่าทำเหมือนสุนัขถุยน้ำลายใส่ข้าสิ” อวิ๋นหลิงผลักเขาออกด้วยความขบขัน คิ้วงามยกขึ้น “ทำไม ตอนนี้ไม่เรียกปีศาจแล้วหรือ?”

เซียวปี้เฉิงยืดหน้าเข้าไปอย่างหน้าด้าน ยิ้มระรื่น “หมูป่าในดงไพร่มีตาแต่หามีแววไม่ เทพธิดาโปรดให้อภัยด้วย”

สิ้นเสียงเขายังจับจมูกแล้วเลียนแบบเสียงสุกร อวิ๋นหลิงเห็นแล้วก็หัวเราะด้วยความชอบใจ

อวิ๋นหลิงหัวเราะคิกคัก ผลักเขาออกแล้วแสร้งไม่สบอารมณ์ “พอแล้ว อย่ามากวนข้าสิ ข้ายังวาดไม่เสร็จเลย”

ปกติเวลาเขางานยุ่งก็จะไม่ได้เห็นหน้าเขาทั้งวัน คิดถึงแทบแย่

แต่เวลาอยู่จวนก็เอาแต่ตามหลังนางไม่ห่าง ทำราวกับเป็นปาท่องโก๋เลย

“ได้ ได้ ข้าไม่กวนเจ้าแล้ว”

เซียวปี้เฉิงพูด แต่กลับจูบปากนางก่อนปล่อย

จากนั้นเขาก็หยิบไส้ดินสอขึ้นมาวาดเขียนบนกระดาษเซวียน

ลู่ฉีที่อยู่ในจวนทำตาเหล่ใส่ เขาเขินแทนจนหน้าแดง พลางบ่นเสียงเบา

“ท่านอ๋องไม่รู้จักอายบ้างเลย หน้าด้านขึ้นทุกวัน”

เหมือนพระชายาอย่างกับแกะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ