พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 193

สรุปบท ตอนที่ 193 เสือซ่อนเล็บ: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

ตอนที่ 193 เสือซ่อนเล็บ – ตอนที่ต้องอ่านของ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนติกโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 193 เสือซ่อนเล็บ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“เจ้าสาม ชอบใจพวกเจ้าสองคนจริงๆ”

จักรพรรดิจาวเหรินตื้นตันจนอุทานคำว่า”ดีจริงๆ”ติดต่อกันสามครั้ง จู่ๆในใจก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา

ไม่แน่ว่าท่านเซียนอาจจะรู้ว่าเขาจะจัดงานวันเกิด ดังนั้นจึงได้เข้าฝันอวิ๋นหลิงและถ่ายทอดวิชาการทำดินสอให้ ให้นางนำมาถวายเป็นของขวัญเป็นการเฉพาะ

จักรพรรดิจาวเหรินมองไปที่ภาพวาดอีกครั้ง ในใจอดไม่ได้ที่จะเริ่มรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ

นี่เป็นฝีมือการวาดของท่านเซียนแน่

“วันหน้าหาเวลาว่างสักหน่อย ข้าก็จะลองใช้ดินสอวาดรูปบ้างดูสิว่าจะรู้สึกอย่างไร”

จักรพรรดิไม่ได้ชื่นชอบการวาดรูป แต่เมื่อคิดว่านี่ก็เป็นดินสอที่ท่านเซียนใช้ เขาก็รู้สึกสนใจขึ้นมา

เหลียงเฟยกัดริมฝีปาก เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มอย่างสุดจะทนแล้วว่า “ดินสอนี้เป็นสิ่งแปลกประหลาดจริง แต่สีมันธรรมดาเกินไป มีแค่สีเดียวเท่านั้น”

อวิ๋นหลิงย่อมคำนึงถึงจุดนี้ด้วย มิฉะนั้นนางคงไม่เลือกที่จะใช้กระดาษไขที่มีสีเหลืองอ่อนอยู่ในตัว ไม่เช่นนั้นการใช้ดินสอสีดำกับกระดาษขาว วาดออกมาคงเป็นภาพเหมือนของคนตาย

“ที่จริงตามหลักวัตถุดิบที่ไม่เหมือนกัน ก็สามารถสร้างดินสอที่มีสีไม่เหมือนกันออกมาได้ อาจารย์ได้บอกวิธีการกับข้าแล้วเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่มีเวลาทดลองเท่านั้น”

ได้ยินดังนั้น พระโอรสห้าก็อดไม่ได้ที่จะตาลุกวาว พูดต่อไปว่า “ถ้าหากดินสอทุกแท่งต่างมีสีของมันเอง เช่นนี้เมื่อเราวาดภาพ เช่นนั้นก็เท่ากับว่าไม่ต้องล้างแปรงวาดรูปบ่อยๆแล้ว”

การวาดรูปในเวลาปกติ สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกปวดหัวที่สุดคือการผสมสีและจุ่มหมึก

อวิ๋นหลิงหันไปยิ้มให้เขา “เป็นเช่นนั้นไม่ผิด แต่การใช้ดินสอวาดรูป ก็ยากที่จะวาดให้รูปมีความถูกย้อมด้วยหมึกดั่งเช่นพู่กันได้ นับว่าต่างก็มีจุดเด่นของตัวมันเอง”

พระโอรสห้าฟังแล้วก็รู้สึกหวั่นไหว “พี่สามกับพี่สะใภ้จะทำดินสอสีออกมาได้เมื่อไหร่ ถ้าทำเสร็จแล้ว น้องสามารถหน้าด้านขอสักสองสามแท่งได้หรือไม่”

“น่าจะช่วงสิ้นเดือนกระมัง ถ้าน้องห้าสนใจ ถึงเวลาข้าจะส่งดินสอสีไปให้เจ้าหนึ่งกล่อง”

ในเมื่อตัดสินใจที่จะผลิตจำนวนมาก อวิ๋นหลิงคิดว่าเดือนนี้จะคิดค้นและพัฒนาดินสอสีต่างๆขึ้นมา พยายามที่จะปรับปรุงส่วนผสมของวัตถุดิบกับวิธีการเผาให้สมบูรณ์แบบที่สุด

สีหน้าของพระโอรสห้ามีแววยินดีอยู่บ้าง จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างเขินอาย

“คือว่า......หยวนโม่ยังมีอีกเรื่องอยากจะขอร้อง ข้าสนใจทักษะการวาดรูปของพี่สะใภ้สามมาก ไม่รู้ว่าปกติหากมีเวลาว่าง จะสามารถไปที่จวนจิ้งอ๋องเพื่อขอคำแนะนำจากพี่สะใภ้สามได้หรือไม่”

อวิ๋นหลิงวิเคราะห์แววตาของเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตอบรับเสียงอ่อนโยนว่า “ย่อมได้แน่นอน เจ้ามาเมื่อไหร่ข้าก็ยินดีต้อนรับ”

พระโอรสห้าดูเหมือนจะชื่นชอบการวาดรูปมากจริงๆ ไม่ได้จงใจใช้เป็นข้ออ้างในการเข้าใกล้นาง

“เช่นนั้นหยวนโม่ก็ขอขอบคุณพี่สามกับพี่สะใภ้สาม”

เมื่อได้รับการพยักหน้าเห็นด้วยจากหยวนหลิง สายตาของพระโอรสห้าก็มีแววจริงใจเพิ่มมากขึ้น

บนบัลลังก์มังกร จักรพรรดิจาวเหรินยังคงชื่นชมผลงานรูปภาพตนเองอย่างวางไม่ลง ผ่านไปครู่ใหญ่ก่อนจะสั่งการขุนนางพิธีการ

“พวกเจ้าเอารูปนี้ไปแขวนไว้ที่ห้องตำราของข้าเดี๋ยวนี้เลย ปลดรูปทิวทัศน์ที่แขวนอยู่ลงมา”

เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกวันเมื่อถึงเวลาตรวจฎีกาในห้องตำรา เขาก็จะสามารถชื่นชมใบหน้าที่หล่อเหลาของตนเองสักหน่อย

แม้ว่าจักรพรรดิจาวเหรินจะไม่ได้ประเมินค่าภาพวาดนี้อย่างโจ่งแจ้ง แต่การกระทำและท่าทีได้บอกให้ทุกคนรู้แล้ว นี่เป็นของขวัญที่เขาชอบที่สุดและพอใจที่สุดในตอนนี้

เหลียงเฟยที่อดทนอดกลั้นอยู่เงียบเฉยมาหลายปี ยังคงสามารถบังคับให้ตนเองคงรอยยิ้มบนใบหน้าไว้ได้ หวงกุ้ยเฟยกลับแสร้งทำต่อไปไม่ไหวแล้ว

นางมองเซียวปี้เฉิงด้วยสายตาซับซ้อน ริมฝีปากเม้มแน่น

เหลียงเฟยนั่งอยู่บนที่นั่งที่มีลำดับถัดมาจากหวงกุ้ยเฟย เห็นดังนั้นก็หัวเราะเบาๆหนึ่งเสียง ใช้เสียงต่ำที่สามารถได้ยินกันแค่สองคนกระซิบขึ้นมาว่า

“ดูสิเพคะ ท่านกับข้าวางแผนจัดการอย่างบากบั่นมาตั้งหลายปี สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว......”

แม่ว่าเหลียงเฟยเองก็ร้อนใจมาก แต่นางรู้ว่าหวงกุ้ยเฟยต้องรู้สึกอึดอัดกว่าตนมาก เซียวปี้เฉิงนั้นถูกนางเลี้ยงดูจนเติบโต สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้อะไรเลย

ทุกคนต่างก็รู้ว่าท่านอ๋องคนนี้หกล้มจนกลายเป็นคนโง่ตั้งแต่เด็กๆ พูดจาก็ติดอ่าง แต่สามารถท่องคำอวยพรได้อย่างลื่นไหล นับว่าใช้ความพยายามเอาใจใส่อย่างที่สุดแล้ว

จักรพรรดิจาวเหรินรู้สึกซาบซึ้งในใจมาก มองเสียนอ๋องด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแววเมตตา ชื่นชมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“อ่านได้ไม่เลว ได้ใจข้ามาก เยี่ยม”

ฝูกงกงเองก็รู้ใจมากจึงได้ยกเอาจานผลไม้ที่วางอยู่ตรงหน้าจักรพรรดิจาวเหรินให้กับเสียนอ๋อง

อาจเป็นเพราะว่าได้รับรางวัลชื่นชมจึงทำให้รู้สึกตื่นเต้นมาก เสียนอ๋องเริ่มพูดติดอ่างขึ้นมาอีกครั้ง

“ลูก ขอบ พระ ทัย เสด็จ พ่อ พ่ะ ย่ะ ค่ะ”

จักรพรรดิจาวเหรินอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าพลางยิ้มออกมา แต่แววตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความรักความเมตตาเหมือนเดิม

เสียนอ๋องหยิบเอาผลไม้ขึ้นมาสี่ผล แบ่งให้กับสองสามีภรรยารุ่ยอ๋องและสองสามีภรรยาอวิ๋นหลิง จากนั้นก็ผลักที่เหลือไปตรงหน้าของพระชายาเสียน

“อา ชิ่น เจ้า กิน นี่ หวาน ดี “

พระชายาเสียนมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน จากนั้นก็ปอกผลส้มในมือตนเองแล้วแบ่งครึ่งหนึ่งให้กับเสียนอ๋อง

“เสด็จพ่อทรงประทานเป็นรางวัลให้ท่าน พวกเรากินด้วยกัน”

เซียวปี้เฉิงรับผลไม้ที่เสียนอ๋องแบ่งมาให้ ยิ้มพลางพูดตอบรับ “ขอบคุณพี่รอง”

เขาหันไปสบตากับอวิ๋นหลิง ต่างก็อ่านสายตาที่มีความหมายชวนให้ขบคิดของกันและกันออก

การแสดงของเสียนอ๋อง......นับได้ว่าฝีมือดีที่สุดในบรรดาพวกเขาหลายคน แม้แต่พระโอรสห้ายังดูด้อยกว่าหลายส่วน ถ้าหากไม่ใช่เพราะอวิ๋นหลิง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงไม่มีทางคิดว่าเสียนอ๋องนั้นเสแสร้งแกล้งทำ

อวิ๋นหลิงวิเคราะห์เสียนอ๋องด้วยสีหน้าเรียบเฉย อีกฝ่ายยิ้มด้วยใบหน้าซื่อๆ คนคนนี้ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ที่แท้คือเสือซ่อนเล็บ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ