สรุปเนื้อหา ตอนที่ 198 ดูธาตุแท้จากสถานการณ์ – พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ โดย Anchali
บท ตอนที่ 198 ดูธาตุแท้จากสถานการณ์ ของ พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Anchali อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
“ประการแรก อันชินอ๋องเป็นโอรสคนโตของพระเจ้าหลวง หากพระเจ้าหลวงทำตามกฎ ผู้ที่ขึ้นครองราชย์ก็ต้องเป็นอันชินอ๋อง”
อวิ๋นหลิงวิเคราะห์จัดแจงอย่างมีขั้นตอน
“ท่านลองคิดดูสิ ฮองเฮาเฟิงที่อดีตเป็นพระชายาของโอรสลำดับที่เก้า ยามนี้ก็ยังไม่พอใจที่เสด็จพ่อชอบท่าน หาวิธีทำร้ายท่านกับข้าตลอดเวลา เมื่อเทียบกับอันชินอ๋อง การยกเลิกระบบเก่ามีผลเสียต่อเขามากที่สุด แล้วเขาไม่คิดจะเรียกร้อง ไม่อยากได้สิ่งใด ยอมละทางโลกจริงหรือ? ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะไม่ติดใจอะไรเลย”
“ประการที่สอง จี้ซูเฟยกับอันชินอ๋องรักกัน แต่สุดท้ายก็ต้องแต่งงานกับเสด็จพ่อท่าน ท่านบอกเองว่าเขาทุกข์ใจเพราะความรัก จึงหันไปท่องโลก เขาที่เสียทั้งบัลลังก์และสตรี จะไม่เจ็บแค้นจริงหรือ?”
เซียวปี้เฉิงพยักหน้า ไม่ได้โต้เถียงอวิ๋นหลิง
“สองอย่างที่เจ้าพูดมานี้ เสด็จปู่ก็เคยพิจารณาเรื่องนี้เหมือนกัน อันที่จริงเสด็จพ่อก็ระวังตัวจากเสด็จลุงเสมอมา”
ตอนยังวัยเยาว์ เขากับเยียนอ๋องเล่นตามภาษาเด็กแล้วแอบเข้าห้องตำรา จากนั้นก็ได้ยินจักรพรรดิจาวเหรินคุยกับพระเจ้าหลวง
ยามนั้นเยียนอ๋องยังเด็กมาก ไม่ประสีประสาอันใด แต่เซียวปี้เฉิงรู้ความเร็ว ฟังออกว่าพวกท่านสองคนกังวลว่าอันชินอ๋องจะก่อกบฏ จึงระวังตัวตลอด
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา เขาก็ติดตามความเคลื่อนไหวของอันชินอ๋องมากขึ้น
ไม่ใช่เพราะเซียวปี้เฉิงสอดรู้สอดเห็น เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของหวงกุ้ยเฟย เพื่อความอยู่รอดในพระราชวัง เขาย่อมต้องล้วงความลับต่างๆให้มากที่สุด
เผื่อสักวันหนึ่ง ยามที่เขาประสบภัย ข้อมูลพวกนี้จะช่วยเขารอดชีวิตได้
“แต่ผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว เสด็จลุงก็ไม่เคยทำอะไรนอกกรอบ พวกเสด็จพ่อจึงไม่สงสัยในตัวเขาอีก” เซียวปี้เฉิงมองอวิ๋นหลิงแล้วพูดต่อว่า “แล้วถ้าเสด็จลุงคิดไม่ซื่อจริง ยามที่เสด็จพ่อขึ้นครองราชย์คือโอกาสทองของเขาเลย”
ยามนั้นพระเจ้าหลวงคิดจะปฏิรูประบบการปกครอง แม้นพระเจ้าหลวงจะเป็นเทพสงคราม เป็นถึงพระเจ้าแผ่นดิน ทว่าก็ถูกราชสำนักคัดค้านอย่างหนักหน่วง
ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ทั่วพื้นที่ ชื่อเสียงของพระเจ้าหลวงดิ่งลงสู่เหวทันที นอกจากเขาแล้วก็แทบไม่มีใครยอมให้โอรสเก้าเป็นรัชทายาทได้เลย
“เมียไม่รู้หรอกว่าตอนเสด็จพ่อเป็นรัชทายาท ท่านไม่เคยใช้ชีวิตอย่างสงบสุขสักวันเลย ตอนที่ท่านเป็นรัชทายาทอย่างเป็นทางการ แต่ขุนนางฝ่ายพลเรือนกับขุนนางฝ่ายประวัติศาสตร์ยืนกรานจะเปลี่ยนรัชทายาท แล้วคนเหล่านั้นก็ถูกเสด็จปู่สังหารทิ้งกับมือ”
“หากตอนนั้นเสนาบดีซ้ายเฟิงอยู่ข้างเสด็จพ่อ เสด็จพ่อก็ต้องเจอปัญหาหนักกว่าตอนนั้น”
อวิ๋นหลิงไม่ได้พูด ทว่าลำพังฟังสิ่งที่เซียวปี้เฉิงเล่าก็พอจะจินตนาการได้ว่ามือพระเจ้าหลวงเปื้อนเลือดในช่วงที่ยกเลิกระบบเก่ามากเพียงใด
เวลาคิดจะปฏิรูปการปกครอง ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายแน่
“ถึงแม้หลังเสด็จพ่อนั่งบัลลังก์มังกร ท่านได้สร้างผลงานไม่น้อย แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับอยู่ดี มักจะมีบุคคลที่ไม่รู้ว่าอยู่พรรคไหนลอบปลดพระชนม์ท่านเป็นประจำ และหวงกุ้ยเฟยก็ต้องเจ็บตัวเพราะการลอบสังหารลักษณะนี้”
กว่าจักรพรรดิจาวเหรินจะเป็นที่เชิดชูจากประชาชน เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย พระองค์ก็ใช้เวลายี่สิบกว่าปีในการพิสูจน์ความสามารถ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เซียวปี้เฉิงถอนหายใจ พลางมองอวิ๋นหลิงแล้วกล่าวว่า “ความสามารถของเสด็จลุงไม่ได้ด้อยไปกว่าเสด็จพ่อเลย ตอนนั้นเสด็จลุงได้ใจประชาราษฎร์มาก หากเขาอยากได้ตำแหน่งนี้ก็สามารถแย่งกับเสด็จพ่อได้โดยง่าย แต่เขาก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น”
“หากจี้ซูเฟยกับเสด็จลุงแค้นเสด็จพ่อที่พรากพวกเขาจากกัน เช่นนั้นเขาก็ยิ่งไม่ควรปล่อยให้เสด็จพ่อนั่งบัลลังก์ จะได้แย่งหญิงรักกลับมาได้”
เซียวปี้เฉิงพูดมีเหตุผล ทว่าอวิ๋นหลิงก็ยังคงเชื่อมั่นต่อการวิเคราะห์ของตัวเอง
“จิตใจคนเรายากแท้หยั่งถึง ถ้าตอนนั้นอันชินอ๋องไม่ได้ขึ้นครองราชย์ แต่เปลี่ยนใจทีหลังล่ะ? มีเพียงอันชินอ๋องกับจี้ซูเฟยที่รู้ว่าพวกเขาคิดเช่นไร และเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา แต่ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญ”
หากอันชินอ๋องคิดไม่ซื่อจริง ด้วยสถานะของเขา เขาจะเข้าออกค่ายทหารก็ไม่เป็นที่สงสัยอย่างแน่นอน อยากส่งข่าวก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะไม่มีผู้ใดจับตามองเขาหรือระแวงเขา
เมื่อสีหน้าเซียวปี้เฉิงเปลี่ยนไป อวิ๋นหลิงจึงรู้ว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่นางกล่าวแล้ว
นางกล่าวอย่างช้าๆ “ประเด็นสำคัญอยู่ที่เสียนอ๋อง...ถ้าเขาแกล้งโง่โดยไม่มีอะไรแอบแฝง หรือแค่สนิทกับอันชินอ๋องอย่างคนทั่วไป เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร แต่เขาสนิทกับอันชินอ๋องเกินไป เช่นนั้นก็เป็นปัญหาใหญ่แล้ว”
หากเสียนอ๋องแกล้งโง่โดยไม่มีอะไรแอบแฝง เขาก็เหมือนโอรสห้าที่ทำเพื่ออยู่รอดในราชวังแห่งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปองร้ายของฮฮงเฮาเฟิง ซึ่งแบบนี้พอจะเข้าใจได้อยู่
ทว่าเขาดันสนิทกับอันชินอ๋องเกินไป ส่วนอันชินอ๋องกับจี้ซูเฟยก็มีอดีตที่ไม่ชัดเจน เช่นนั้นก็น่าค้นหาแล้ว
เซียวปี้เฉิงนิ่งเงียบอยู่นาน เมื่อคิดทบทวนสิ่งที่อวิ๋นหลิงเตือน หัวใจของเขาก็หล่นวูบทันที
พวกพระเจ้าหลวงไม่เคยระแวงหรือสงสัยที่อันชินอ๋องกับเสียนอ๋องสนิทกันเลย เพราะคิดว่าอันชินอ๋องสงสารที่เสียนอ๋องกลายเป็นคนปัญญาอ่อน จึงเอ็นดูเป็นพิเศษเท่านั้น
เมื่อคิดได้ เซียวปี้เฉิงก็มีเหงื่อซึมออกมา “ทำไมเมียข้าถึงคิดมาถึงจุดนี้ได้...”
บางครั้งเขารู้สึกว่าอวิ๋นหลิงหัวไวจนน่าทึ่ง
“เอ่อ...” อวิ๋นหลิงลูบคางแล้วตอบตามความเป็นจริง “เพราะเมื่อก่อนข้าเคยดูซีรีย์โบราณกับนิยายทะลุมิติมาเยอะ ส่วนใหญ่จะมีเค้าไปทางนี้”
เซียวปี้เฉิง “...”
แล้วหลักการดูธาตุแท้จากสถานการณ์ล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...