อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงเข้าไปในตำหนักด้านข้าง ไม่ได้ไปไกล พระเจ้าหลวงให้พวกเขารอตรงนี้ เห็นได้ชัดว่าหลังหารือกันเสร็จแล้วจะเรียกพวกเขาเข้าไปคุยใหม่อีกครั้ง
“อันที่จริงเมื่อครู่ข้ายังมีเรื่องอยากถามเสด็จพ่อ”
เซียวปี้เฉิงมองนาง “ถามอะไร?”
อวิ๋นหลิงกระซิบอย่างมีลับลมคมใน “ข้าอยากรู้ว่าเสียนอ๋องเป็นลูกแท้ๆของเสด็จพ่อหรือไม่?”
ความสัมพันธ์อันน่าค้นหาของอันชินอ๋องกับจี้ซูเฟย และอันชินอ๋องยังดีต่อเสียนอ๋องกว่าคนอื่น ยากนักที่จะไม่ให้สงสัย
อวิ๋นหลิงย้อนคิดซีรีส์ที่เคยดูหลายๆเรื่อง ซึ่งเนื้อหาแต่ละเรื่องก็ไม่ซ้ำกันด้วย
เซียวปี้เฉิงทำหน้าลึกลับ กวาดสายตามองทหารคุ้มกันที่กำลังง่วงนอนหน้าประตู ก่อนจะกดเสียงต่ำพูดว่า
“ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน แต่เจ้าเคยพูดแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างจี้ซูเฟยกับเสด็จลุงอย่างเช่นไรก็ไม่สำคัญ เจ้าอย่าได้ไปถามเสด็จพ่อเชียวนะ”
อวิ๋นหลิงได้ยินเสียงวิตกกังวลของเขาก็พยักหน้า ตอบเสียงจริงจัง “ท่านวางใจเถอะ เรื่องนี้ข้ารู้จักยับยั้งปาก”
เซียวปี้เฉิงโล่งอก เขากลัวอวิ๋นหลิงถามเรื่องนี้โดยไม่คำนึกสิ่งใดยิ่ง
นางจะพูดตามใจกับเขาอย่างไรก็ได้ แต่จักรพรรดิจาวเหรินอาจจะทนไม่ได้ อวิ๋นหลิงตอบเช่นนี้เขาก็หายห่วง
พวกเขาสองคนถือเครื่องอุ่นมือแล้วหัวร่อต่อกระซิกกันสักพัก ฝูกงกงก็มาถ่ายทอดคำสั่งให้พวกเขาเข้าไป
จักรพรรดิจาวเหรินทำหน้าเข้มขรึม เอ่ยว่า “ข้ากับพระเจ้าหลวงรู้เรื่องที่พวกเจ้ารายงานแล้ว ยามนี้แม้จะไม่มีหลักฐานเรื่องที่อันชินอ๋องกับเสียนอ๋องสมคบคิดกับศัตรู แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าจะส่งองครักษ์เงาไปสะกดรอยตามพวกเขาทุกฝีก้าว”
พระเจ้าหลวงทำหน้าแปลกๆ “ไม่คิดเลยว่าเจ้าสองจะแกล้งโง่ แม้แต่ข้าก็เชื่อสนิทใจเลย”
เขารู้เรื่องโอรสห้าปิดบังความสามารถของตัวเอง แต่ไม่นึกเลยว่าเสียนอ๋องจะแกล้งโง่เช่นนี้
ตอนที่เขาตกตึก หมอหลวงในวังทุกคนล้วนเคยตรวจอาการเขาหมด แม้แต่อู๋อันกงก็ยังวินิจฉัยว่าสมองเขาได้รับกระทบกระเทือนจากการพลัดตก
อวิ๋นหลิงพยักหน้า ถึงแม้อันชินอ๋องน่าสงสัยที่สุด ทว่าพวกเขาไม่มีหลักฐาน ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้
ทว่าความสอดรู้สอดเห็นในใจนางปะทุขึ้น ระงับเช่นไรก็ระงับไม่อยู่ จึงอดถามถึงจี้ซูเฟยไม่ได้
“จี้ซูเฟยมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้หรือไม่?”
จักรพรรดิจาวเหรินพยักหน้าอย่างมั่นใจ “เป็นไปไม่ได้ ตอนที่ตระกูลจี้ได้รับโทษ เจ้าสองตกตึกจนสมองไม่ดี เสด็จแม่จี้ของเจ้าก็ใช้ชีวิตอย่างอดออม เข้าวัดฟังธรรมกับไทเฮาตลอด ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใคร”
แม้จี้ซูเฟยจะเป็นหนึ่งในสี่ของพระสนมชั้นเฟย แต่ภายในตำหนักนั้นเรียบง่าย นางกำนัลที่ปรนนิบัติรับใช้นางก็น้อยกว่าตำหนักอื่น
อีกฝ่ายกินเจอ่านบทสวดมนต์กับไทเฮาทุกวัน ไม่เคยแย่งความโปรดปรานจากนางเลย
“ข้าไม่ค่อยได้เจอหน้านางเลย เวลาเจ้าสองมาหานางก็ต้องไปหานางที่ตำหนักไทเฮาถึงจะได้พบ”
จี้ซูเฟยไม่มีความละโมบโลภมากจนใกล้กลายเป็นเซียนแล้ว คิดอย่างไรก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เสียนอ๋องคงวางแผนกับนางต่อหน้าไทเฮาไม่ได้กระมัง?
เมื่อได้ยินจักรพรรดิจาวเหรินบอกว่าอยากเจอหน้าจี้ซูเฟยนั้นยากมาก อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงจึงสบตากัน แววตาเผยความอยากล้วงความลับออกมา
เมื่อครุ่นคิดดูแล้ว อวิ๋นหลิงจึงถามเสียงเบา “เสด็จพ่อ หม่อมฉันได้ยินว่าเมื่อก่อนจี้ซูเฟยกับอันชินอ๋องรักกัน แต่ท่านกลับไปแย่งมา อันนี้จริงหรือไม่เพคะ?”
สิ้นเสียงเซียวปี้เฉิงก็มาดึงแขนเสื้ออวิ๋นหลิงโดยไม่ให้ใครรู้ บ่งบอกนางว่าระวังคำพูดด้วย
ใช่ เขาเห็นด้วยกับสิ่ที่อวิ๋หลิงแนะนำ การสื่อสารให้กระจ่างนั้นสำคัญยิ่ง
ทว่าปัญหานี้ไม่ควรใช้หลักการนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...