พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 223

หลังจากวังหลวงได้รับข่าวที่นั่วเอ๋อร์ถูกพิษ ก็ทำให้จักรพรรดิจาวเหรินและพวกตกใจ ยากนักจะได้เห็นพระเจ้าหลวงมาที่จวนจิ้งอ๋องด้วยตัวเอง

แม้ว่าเสียนอ๋องจะไม่ได้รับความโปรดปราน ตอนนี้ยักถูกสงสัยว่าสมคบคิดกับกบฏ

“เสด็จปู่ เสด็จปู่ทวด พวกท่านมาเยี่ยมนั่วเอ๋อร์แล้ว”

เมื่อเห็นพวกเขา นั่วเอ๋อร์ก็มีใบหน้าเป็นประกายขึ้นมา ลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วเต้นรำที่เพิ่งเรียนเป็นเมื่อกี้ไปหาพวกเขา

“ท่านแม่เป็นคนสอนข้าเมื่อไม่กี่วันก่อนเพคะ”

เด็กอายุสามขวบก็จำเรื่องและเข้าใจคำพูดของพวกผู้ใหญ่

นั่วเอ๋อร์ไม่ค่อยเห็นฮ่องเต้จาวเหรินและพระเจ้าหลวง ทุกครั้งที่เข้าวังไปทักทายจี้ซูเฟย ก็มักเห็นพวกคนในวังใช้สายตาส่งสายมองไปที่นาง แล้วพากันกระซิบกระซาบกัน

ส่วนใหญ่จะมีความหมายว่าเสียนอ๋องโง่เขลาไม่ได้รับความโปรดปราน พระชายาเสียนอ๋องก็ฐานะต่ำ จี้ซูเฟยก็ไม่มีความโปรดปรานจากฮ่องเต้ ตระกูลนี้ไม่ได้รับความสำคัญจากราชวงศ์

นั่วเอ๋อร์เข้าใจคำว่าเขลาที่อยู่ในประโยคนั้น

นึกถึงทุกครั้งหากตนทำได้ดีก็จะได้คำชม ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่นางได้พบกับจักรพรรดิจาวเหริน นางจะพยายามแสดงสิ่งที่นางได้เรียนมา

พระเจ้าหลวงก็ลูบผมของนางอย่างเอ็นดู “เด็กดี เจ้ายังไม่หายดี นอนพักผ่อนเถอะ อีกสองเดือนก็งานวันเกิดของปู่ทวดแล้ว ถึงตอนนั้นเจ้าค่อยมาเต้นให้ปู่ทวดดูดีหรือไม่”

นั่วเอ๋อร์ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารัวๆ เหมือนไก่จิกข้าว

“เพคะ! ถ้าอย่างนั้นข้าจะรีบดีขึ้นเร็วๆ แล้วฝึกเต้นต่อไป ไม่งั้นนั่วเอ๋อร์อาจจะลืมวิธีการเต้นพอถึงวันเกิดของเสด็จปู่ทวด!”

ใบหน้าเล็กๆ ของนางซีดเผือด ดวงตาสีเข้มคู่นั้นเปียกโชก มาพร้อมกับความไร้เดียงสาและจริงจังไม่เหมือนกับเด็ก

อวิ๋นหลิงก็ยิ่งชอบเด็กคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แทบอยากให้นั่วเอ๋อร์เป็นลูกสาวของตน นางเข้าไปอุ้มนั่วเอ๋อร์ ห่มผ้าไหมให้นาง

“อากาศหนาวแล้ว รีบห่มผ้าเร็วเข้า ถ้าเกิดไม่สบายตรงไหนก็ต้องรีบบอกอาก่อนเลยนะ”

“เจ้าค่ะ” นั่วเอ๋อตอบเบาๆ กอดคออวิ๋นหลิงไม่ยอมปล่อย “พวกน้องชายก็ต้องห่มผ้านวมด้วย ไม่อย่างนั้นถ้าไม่สบายก็ทรมานมาก!”

เมื่อกล่าวเสร็จแล้ว นั่วเอ๋อร์เหมือนนึกอะไรได้ เงยหน้าขึ้นจับมือของอวิ๋นหลิงด้วยสีหน้าจริงจัง เอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงแหลมเล็ก

“ท่านอา รองเท้าเสือคู่นั้นห้ามสวมให้น้องชายเด็ดขาดนะ เสือนั่นกัดคนได้! วันนั้นนั่วเอ๋อร์กลัวว่าน้องชายจะหนาวอยากจะใส่รองเท้าให้เขา แต่ว่าเสือกลับกัดมือข้าก่อน”

อวิ๋นหลิงอดหยิกหน้าเล็กๆ ของนางไม่ได้

“อื้ม ขอบคุณนั่วเอ๋อร์นะ อาจะจำไว้”

นั่วเอ๋อร์ร่างกายยังคงอ่อนแอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นผู้คนมากมายมาเยี่ยมนาง สีหน้าจึงดูตื่นเต้นกว่าปกติ

กลัวว่าจะกระทบกับการบำรุงร่างกายของนาง พวกเขาอยู่กับนางแป๊บหนึ่ง จากนั้นก็ไปคุยธุระที่ห้องหนังสือ

เซียวปี้เฉิงก็กลับมาจากศาลต้าหลี่ ทั้งตัวเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

จักรพรรดิจาวเหรินรีบถามเขาทันที “จัดการงานเป็นอย่างไรบ้าง?”

เซียวปี้เฉิงรินชาร้อนหนึ่งถ้วย ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดเสียงทุ้มต่ำ “ไม่ว่าจะถามอย่างไร สาวใช้คนนั้นก็ไม่ยอมสารภาพ หรงจั้นบอกว่าหากไม่มีหลักฐานแน่ชัด ศาลต้าหลี่ก็ไม่สามารถตัดสินลงโทษได้ ข้าจึงตัดสินใจปล่อยพวกเขาไป”

จักรพรรดิจาวเหรินมีสีหน้ามืดมนไม่แน่นอน “ไม่สืบหาความรับผิดชอบแล้วหรือ? พวกเจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ใช่ฝีมือของเจ้าห้าเจ้าหก?”

วันนั้นเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น และไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร นอกจากนี้ เจ้าห้ายังเสแสร้งมาหลายปี เขามีเจตนาไม่ดีมากมาย ดังนั้นเขาจึงวางใจไม่ลง

ลูกชายหลายคนที่มีความสามารถในการเสแสร้งโกหก แม้แต่เสียนอ๋องก็ยังแสร้งทำเป็นโง่เขลา แล้วจะยังมีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้อีกล่ะ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ