พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 235

หลักการแผ่ความร้อนของแผ่นแปะทำความร้อนนั้นง่ายนิดเดียว ผงสีดำๆข้างในประกอบไปด้วย ผงเหล็ก ถ่าน เกลืออนินทรีย์ แร่ดินเหนียวเวอร์คูไลต์และน้ำ ซึ่งสร้างความร้อนได้จากปฏิกิริยาการคายความร้อนของผงเหล็ก

ส่วนผสมก็นับว่าหาได้ง่าย จะเหลือก็เพียงแต่บรรจุภัณฑ์

ในยุคนี้ไม่มีกระทั่งพลาสติกหรือผ้าไม่ทอ ถึงจะผลิตแผ่นแปะทำความร้อนออกมาได้ แต่ก็ไม่สามารถเก็บรักษาไว้ใช้ตลอดได้

อวิ๋นหลิงไม่มีทางเลือก จึงทำได้เพียงหาผ้าที่เนื้อเหมาะสมที่สุดมาเย็บเป็นถุง จากนั้นก็ใส่ผงของส่วนผสมต่างๆตามอัตราส่วน

ความบริสุทธิ์ของส่วนผสมดั้งเดิมในยุคนี้นั้นไม่สูงมาก ความสามารถในการระบายอากาศของเนื้อผ้าก็มีผลต่ออุณหภูมิและความเร็วในการแผ่ความร้อนด้วย อวิ๋นหลิงครุ่นคิดอยู่หลายต่อหลายวัน ลองผิดลองถูกนับสิบครั้ง ในที่สุดก็เจอเนื้อผ้าที่เหมาะสมที่สุด

นางปักลวดลงบนถุงผ้าที่ห่อหุ้มแผ่นแปะทำความร้อนอย่างปราณีต และใช้วิธีการมัดปากด้วยการดึงเชือกรูด จากนั้นก็ส่งมันให้เซียวปี้เฉิง

“ท่านลองลูบดูสิ”

เซียวปี้เฉิงถือถุงผ้านั่นไว้ในมือ ไม่นานก็รู้สึกว่าถุงผ้าค่อยๆร้อนขึ้นราวได้เข้าใกล้เตาผิงไฟ

“ตอนที่เจ้าส่งมันให้ข้าข้ายังคิดว่าในถุงผ้านี่มีน้ำอยู่เลย ลูบไปมามีความชื้น เหตุใดตอนนี้ถึงร้อนขึ้นมาได้เล่า?”

ชาวต้าโจวนั้นเชี่ยวชาญด้านการทำน้ำแข็งด้วยดินประสิวมาแต่ไหนแต่ไร แต่สิ่งนี้กลับสามารถทำให้ผงส่วนผสมกับน้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยการเผาไหม้ เซียวปี้เฉิงไม่เคยได้เห็นสิ่งแปลกใหม่นี้มาก่อนจริงๆ

อวิ๋นหลิงอธิบาย “น่าจะสามารถให้ความร้อนได้ประมาณสี่ชั่วยาม หลังปฏิกิริยาของส่วนผสมข้างในเริ่มหมดลงก็ไม่สามารถให้ความร้อนได้แล้ว ต้องนำถุงนี่ไปล้างให้สะอาดและใส่ส่วนผสมเข้าไปใหม่ถึงจะกลับมาใช้ได้ แม้ประสิทธิภาพจะด้อยกว่าสติกเกอร์แปะความร้อน แต่ก็ดีกว่าต้องทนหนาวเปล่าๆ”

ส่วนใหญ่สติกเกอร์แปะความร้อนในยุคปัจจุบันจะสามารถให้ความร้อนได้ห้าสิบถึงหกสิบองศา และใช้งานได้มากกว่าสิบสองชั่วโมง

แผ่นแปะความร้อนที่นางทุ่มแรงกายแรงใจทำ สามารถให้ความร้อนได้ราวๆสี่สิบองศา และใช้งานได้ประมาณแปดชั่วโมง

เซียวปี้เฉิงได้ฟังก็รู้สึกว่านางถ่อมตัวเกินไปแล้ว “ด้อยกว่าที่ใดกัน? สิ่งนี้มันให้ความอบอุ่นได้มากกว่าเตาอุ่นมืออีก ทั้งยังสะดวกกว่าด้วย”

อวิ๋นหลิงนำถุงผ้านั่นยัดใส่ปกเสื้อเซียวปี้เฉิง และพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “วันนี้ท่านนำมันไปว่าราชกิจด้วยสิ ให้พระเจ้าหลวงและคนอื่นๆได้รู้จักมันด้วย หากมีใครถามท่านก็บอกไปว่ามันชื่อถุงร้อน เป็นสิ่งที่ท่านอาจารย์เซียนสอนข้า”

เซียวปี้เฉิงลูบถุงร้อนบริเวณอกเบาๆ เขารู้สึกได้ว่าหัวใจและทรวงอกอบอุ่นขึ้นไม่น้อย ไม่นานก็พยักหน้ายิ้มๆ

“ได้สิ”

เมื่อเข้าเหมันต์ฤดู ห้องท้องพระโรงในวังหลวงก็เย็นลงอย่างรู้สึกได้

จักรพรรดิจาวเหรินเห็นใจเหล่าขุนนาง จึงอนุญาตให้พวกเขานำเตาอุ่นมือมาว่าราชการด้วยได้ เพราะเหตุนี้ทุกคนต่างก็ถือเตาอุ่นขนาดเล็กไว้ในมือ

แม้เตาอุ่นมือจะมีรูปทรงสรีระสวยงาม แต่ก็ไม่สามารถกอดไว้ในอ้อมแขนได้ ยืนถือไว้นานๆก็ย่อมรู้สึกเมื่อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งถ่านด้านในก็ไม่สามารถให้ความร้อนอย่างต่อเนื่อง อุณหภูมิก็มีจำกัด

แม้เหล่าขุนนางจะถือเตาทองแดงไว้ในมือ ทว่าก็มีอยู่ไม่น้อยคนที่ยืนสั่นสะท้านด้วยความหนาวเย็น

อาลักษณ์กรมอาญามองเซียวปี้เฉินที่สองมือว่างเปล่า อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความสงสัย “วันนี้จิ้งอ๋องรีบร้อนจนลืมนำเตาอุ่นมือมาด้วยหรือ?”

อาลักษณ์กรมอาญาเป็นตาเฒ่าไร้มารยาทมาแต่ไหนแต่ไร ปะหน้ากับใครก็แสดงแต่ทีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่เพราะอวิ๋นหลิงได้ช่วยรักษาโรคหัวใจของหรงจั้นให้หายดี เขาจึงมีท่าทีเป็นมิตรต่อจวนจิ้งอ๋องและจวนเหวินกั๋วกงเป็นพิเศษ

จักรพรรดิจาวเหรินบนบัลลังก์มังกรได้ยินก็หันไปออกคำสั่ง “ในตำหนักอากาศเย็น ให้ข้ารับใช้นำเตาอุ่นมือมา”

เซียวปี้เฉิงก้าวไปข้างหน้า พร้อมปฏิเสธความหวังดีของจักรพรรดิจาวเหริน “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ไม่ต้องใช้เตาอุ่นมือดอกพ่ะย่ะค่ะ ลูกมีถุงร้อนอยู่แล้ว”

“ถุงร้อน?”

ขณะจักรพรรดิจาวเหรินงุนงง เซียวปี้เฉิงก็หยิบเอาถุงร้อนออกจากอกด้วยสีหน้านิ่งๆ บนผ้าไหมสีดำถูกปักใบไผ่สองถึงสามใบด้วยด้ายสีทองสว่าง ดูแล้วหรูหราสง่างาม

อาลักษณ์กรมอาญาอดไม่ได้ที่จะถาม “ถุงผ้านี่มีประโยชน์อะไรงั้นหรือ? แค่จิ้งอ๋องใส่มันไว้ในอกก็ไม่หนาวแล้วหรือ?”

“ท่านใต้เท้ากรมอาญา ท่านลองสัมผัสดูสิ”

เซียวปี้เฉิงยกยิ้มอ่อนๆให้เขา และยื่นถุงร้อนให้ ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความภูมิใจเล็กน้อย

อาลักษณ์กรมอาญาที่เพิ่งรับถุงร้อนมา ก็แสดงสีหน้าประหลาดใจทันที “ถุง ถุงผ้านี่ให้ความร้อนได้งั้นหรือ? ข้างในมีถ่านอยู่หรือ เหตุใดจึงอุ่นกว่าเตาอุ่นมือของข้าอีกล่ะ? ไม่สิ หากข้างในมีถ่าน เหตุใดถุงผ้านี่ถึงไม่ไหม้…”

เขาถือถุงร้อนด้วยมือขวา และถือเตาอุ่นมือไว้ในมือซ้าย ไม่นานก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าถุงร้อนในมือขวาทั้งอุ่นและมีน้ำหนักเบากว่ามาก

“จิ้งอ๋อง ให้ข้าได้ลองจับบ้างได้ไหม?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ