พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 236

เมื่อกลับมาที่จวนจิ้งอ๋อง เซียวปี้เฉิงก็ทิ้งมันเทศเผาที่เย็นเฉียบลงบนโต๊ะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

อวิ๋นหลิงอุ้มเอ้อร์เป่าที่กำลังกินนมอยู่เดินเข้ามา พร้อมขมวดคิ้วถาม “ทำไมถึงทำหน้าเช่นนั้นล่ะ หรือโดนด่าขณะว่าราชกิจ?”

เซียวปี้เฉิงส่ายหัว พูดขึ้นอย่างหัวเสีย “เสด็จปู่เอาถุงร้อนของข้าไปแล้วให้มันเทศสองหัวนี่มาแทน เจ้าดูสิพระองค์อายุเจ็ดสิบแปดสิบแล้ว เหตุใดจึงมาแย่งของจากหลานได้อยู่อีก…”

“ข้าก็นึกว่าเรื่องใหญ่อะไร พระเจ้าหลวงชรามากแล้วย่อมมีนิสัยเหมือนเด็กเป็นธรรมดา ท่านก็ยอมๆพระองค์หน่อยสิ”

ระหว่างอวิ๋นหลิงพูด ใบหน้าเซียวปี้เฉิงก็บูดบึ้งเสียยิ่งกว่าเดิม นางจึงเปลี่ยนมาพูดกล่อมเขาแทน

“เอาน่า วันนี้ข้าได้สั่งให้พวกตงชิงเย็บถุงร้อนแล้ว อันที่ข้าทำไปก่อนหน้าไม่ปราณีตเลยสักนิด ท่านเองก็ใช่ว่าไม่รู้จักฝีมือเย็บปักของข้าหนิ รอหน่อยประเดี๋ยวข้าจะเลือกอันที่ดีกว่านั้นให้ท่านเอง คนอื่นๆก็ด้วย”

เซียวปี้เฉิงยังคงไม่พอใจ “แต่ข้าอยากได้อันที่เจ้าปักเองกับมือ…อีกอย่างอันนั้นมันเป็นถุงร้อนใบแรกที่เจ้าทำ”

อวิ๋นหลิงลอบส่ายหัวอีกครั้ง “เช่นนั้นวันหน้าข้าค่อยทำให้ท่านอีกก็ได้ ทว่าฝีมือเย็บปักข้าไม่ดี นำติดตัวไปแล้วมีคนหัวเราะท่านก็อย่ามาโทษข้าก็แล้วกัน”

เซียวปี้เฉิงเมื่อได้ยินนางรับปากจะปักอันใหม่ให้ตนก็ดีอกดีใจขึ้นมาทันที และเข้ามาทำหน้าหยอกล้อกับเอ้อร์เป่าอย่างได้ใจ

“จ๊ะเอ๋!”

เอ้อร์เป่าพ่นนมในปากออกมา พร้อมแกว่งขาน้อยๆและถีบเข้าที่หน้าเซียวปี้เฉิง

เวียวปี้เฉิงลูบจมูกด้วยความเจ็บ “เจ้าเด็กแสบนี่…แรงเยอะจริงๆ

“ท่านอุ้มเขาไว้ก่อน ข้าขอไปหยิบของสักประเดี๋ยว”

แม้ว่าเพิ่งจะโดนถีบ เซียวปี้เฉิงก็รับเอ้อร์เป่ามาไว้ในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเอ้อร์เป่าก็ยอมให้เขาอุ้มเสียที

อวิ๋นหลิงไปที่ห้องตำรา เพื่อหยิบเอาคู่มือฝึกฝนที่นางเขียนขึ้นอย่างละเอียดเมื่อไม่กี่วันก่อน นางเขียนไว้ไม่ต่ำกว่าสามสิบหน้า และนำมาผูกรวมกันเป็นหนังสือเล่มหนา

กลับมาถึงห้องนอนนางก็เอ่ยถามเซียวปี้เฉิง “ท่านเลือกคนที่จะฝึกปืนคาบศิลาครบหรือยัง?”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้าเบาๆ “ข้าเลือกตามแบบที่เจ้าว่าเลย เลือกคนในกององครักษ์ลับแปดคน รวมข้ากับเจ๋อเฟิงก็สิบคนพอดี”

อวิ๋นหลิงยื่นหนังสือในมือให้เขา “หากท่านว่างก็ลองอ่านมันดู จากนี้ไปให้ค่ายปืนไฟฝึกฝนตามหนังสือนี้”

เซียวปี้เฉิงรีบวางเอ้อร์เป่ากลับเข้าเปล จากนั้นก็เปิดพลิกดูหนังสือของอวิ๋นอย่างระมัดระวัง

อวิ๋นหลิงพยายามใช้อักษรแบบดั้งเดิมในการเขียนให้มากที่สุด ทว่าก็ยังมีอักษรตัวย่อผสมเข้ามาแบบประปราย โชคดีที่อักษรเหล่านี้ดูแล้วไม่มีหัวหางตายตัว ทำให้เซียวปี้เฉิงมองออกได้ง่าย

เขาพลิกดูเพียงสองถึงสามหน้า ก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ล้ำค่าและหายากถึงเพียงใด

แววตาเซียวปี้เฉิงเบิกโพลงด้วยความตกใจ “เจ้ารู้จักสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร?”

เซียวปี้เฉิงยิ้มอ่อนๆ “เป็นกระบวนท่าจากชาติก่อน อยู่ในองค์กรพวกเราได้ผ่านประสบการณ์การฝึกฝนมาไม่น้อย หลายวันมานี้ข้าจึงลองจัดเรียงสิ่งที่ฝึกมาทั้งหมด”

วิธีและรายการการฝึกถูกปรับแต่งให้เข้ากับมาตรฐานและพละกำลังเหล่าทหาร วิธีการฝึกเหล่านี้ล้วนผ่านการทดสอบและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ รับรองว่าทั้งแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพสูงแน่นอน

มีทั้งการออกกำลังกายขั้นพื้นฐานทั้งการวิ่งด้วยความเร็วหลายระดับ การวิ่งถ่วงน้ำหนักและวิ่งแบกท่อนไม้ นอกจากนี้ยังมีการฝึกฝนแบบขั้นสูงอีกด้วย

ยังมีอีกหลายกระบวนการที่ต้องใช้ร่วมกับยาทางการวิจัย ซึ่งอวิ๋นหลิงไม่ได้เขียนถึงมัน นางเขียนเพียงเนื้อหาที่เหมาะสมกับเหล่ากองทัพของต้าโจวเท่านั้น

เนื้อหาที่อวิ๋นหลิงเขียนลงในหนังสือล้วนสมบูรณ์แบบมาก

ครอบคลุมแทบจะทั้งหมด ทั้งการตัดหัวศัตรู การช่วยตัวประกัน การจับเชลยศึก การนำส่งผู้บาดเจ็บ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การบุกโจมตี การแฝงตัว หารซ่อนตัว การหลบหนี และการเอาตัวรอดในป่า

รวมถึงการฝึกเสมือนจริง อย่างเช่นการที่ต้องเผชิญหน้ากับการทรมานหลังถูกจับเป็นเชลย

นอกจากคำแนะนำในสงครามแล้ว ยังอธิบายถึงจุดสำคัญและทฤษฎีต่างๆอีกมากมาย

เซียวปี้เฉิงอ่านมันอยู่พักหนึ่งก็ราวกับต้องมนต์สะกด

“ทฤษฎีกรงนก…ทฤษฎีหน้าต่างแตก?”

อักษรส่วนมากเขาสามารถอ่านออก แต่เมื่อนำมารวมเป็นคำก็ไม่อาจเข้าใจในความหมายได้

เซียวปี้เฉิงพลางพลิกอ่านหนังสือพลางหันมาถามอวิ๋นหลิงในสิ่งที่ตนไม่เข้าใจ ใบหน้าอันอาจหาญของเขาขมวดคิ้วแน่น บางคราก็ผ่อนคลายลง บางคราก็เคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ