พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 272

วันนี้ครบกำหนดสั่งกักบริเวณหวงกุ้ยเฟยแล้ว หลังจากเกิดเรื่องคืนนั้น หวงกุ้ยเฟยก็ล้มป่วยทันที

ส่วนหนึ่งมาจากความกรุ่นโกรธอวิ๋นหลิง แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะเยี่ยนอ๋อง

ตอนแรกเยี่ยนอ๋องอยากไปสอบถามต้นสายปลายเหตุที่จวนจิ้งอ๋อง แต่โดนแม่นมเหอเย่ว ข้ารับใช้ของหวงกุ้ยเฟยห้ามเขาไว้

“ครั้งนี้หวงกุ้ยเฟยป่วยหนักเลยเพคะ สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะพระชายาจิ้งอ๋องกำเริบเสิบสานเกินไป ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งเพราะท่านอ๋องเยี่ยนไม่รู้จักแยกแยะว่าคนไหนควรเข้าใกล้ คนไหนควรอยู่ห่างๆ”

อ๋องเยี่ยนอยากตอบว่าเขากับพี่สามและพี่สะใภ้สามไม่เคยมีคำว่าอยู่ห่างๆในพจนานุกรมเลย

แม่นมเหอเยว่พูดด้วยความหวังดี “ท่านอ๋อง หวงกุ้ยเฟยยังป่วยอยู่ หากพระนางรู้ว่าท่านอ๋องไม่เพียงแต่ไม่ห่วงใย ทั้งยังไปจวนจิ้งอ๋องอีก พระนางจะเสียใจแค่ไหนเพคะ?”

“งั้นข้ายังไม่ไปหาพี่สามก็ได้ แม่นมเหอเยว่ เสด็จแม่ดีขึ้นหรือยัง?”

เยี่ยนอ๋องเห็นมารดาโมโหจนล้มป่วยก็รู้สึกกังวลใจ จำต้องล้มเลิกความคิดไปสอบถามความจริงที่จวนจิ้งอ๋อง

“ตอนนี้หวงกุ้ยเฟยแน่นหน้าอกเพคะ หมอหลวงบอกว่าเกิดจากความหงุดหงิดใจเพคะ” แม่นมเหอเยว่ถอดทอนใจ สีหน้าวิตกกังวล “หมอหลวงบอกว่าต่อไปจะให้หวงกุ้ยเฟยโมโหอีกไม่ได้ หาไม่แล้วร่างกายพระนางจะรับไม่ไหวเพคะ”

“ท่านอ๋องก็รู้ว่าตอนพระนางยังสาวเคยบังดาบที่แทงใส่ฝ่าบาท และยังถูกธนูยิงแผ่นหลังจนเกือบทะลุเข้าหัวใจอีก หากสวรรค์ไม่คุ้มครอง...”

“ส่วนพระชายาจิ้งอ๋องท่านนั้น เพื่อพระนางแล้ว ท่านอ๋องโปรดลดปฏิสัมพันธ์กับนางให้น้อยที่สุดเถอะ”

สีหน้าเยี่ยนอ๋องเผยความละอายใจ ยามนี้เอาแต่นิ่ง พูดอะไรไม่ออก

เขาเข้าศาลบรรพชนไม่ได้ จึงทำได้เพียงวิ่งไปยังโรงหมอหลวง เพื่อหาช่องทางรักษาอาการของหวงกุ้ยเฟย

หลังครบกำหนดกักบริเวณ เขารู้ว่าหวงกุ้ยเฟยออกจากศาลบรรพชนแล้ว จึงรีบมายังตำหนักเว่ยยาง

สิ่งที่อยู่เหนือการคาดหมายก็คือตำหนักเว่ยยางมีแขกมาเยือนแล้ว

แม่นมเหอเยว่ขวางทางเขาตรงหน้าตำหนัก ยิ้มพร้อมกับพูดเสียงเบาว่า “พระสนมกำลังต้อนรับองค์หญิงเก้าแห่งแคว้นตงฉู่ ยามนี้ยังไม่สะดวกเข้าพบ อีกสักพักท่านอ๋องค่อยมานะเพคะ”

เยี่ยนอ๋องพยักหน้า “งั้นประเดี๋ยวข้าจะมาใหม่”

เขารู้สึกสงสัย เสด็จแม่เพิ่งกลับเข้าตำหนักตัวเองก็พบหน้าตี้หวู่เหยา องค์หญิงเก้าแล้ว ทั้งยังมีเรื่องที่ไม่ให้เขารู้ด้วย?

เยี่ยนอ๋องนึกถึงได้ว่าคืนนั้นองค์หญิงเก้าก็อยู่ในสวนหลวงด้วย จึงแอบไปด้านหลังตำหนักเว่ยยาง ก่อนจะเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวด้านใน

“องค์หญิงเก้า ข้าเป็นเสด็จแม่ของจิ้งอ๋อง ย่อมตัดสินแทนเจ้าได้อยู่แล้ว”

หวงกุ้ยเฟยมองดรุณีน้อยหน้ากลมมน รอยยิ้มมีความอ่อนโยนและเอื้ออารียิ่ง

“ตราพยัคฆ์ในมือเจ้ายืนยันว่าตอนนั้นเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงๆ ข้าไม่มีทางปล่อยให้จิ้งอ๋องเป็นคนตระบัดสัตย์เป็นแน่”

ตี้หวู๋เหยามองสำรวจสีหน้าหวงกุ้ยเฟย ก่อนจะพูดด้วยความลังเล “หวงกุ้ยเฟย พระชายาจิ้งอ๋องท่านนั้น...”

นางยังไม่ทันกล่าวจบ หวงกุ้ยเฟยก็แทรกพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“นางเป็นตัวริษยาที่ไม่เห็นหัวผู้ใด ตอนที่นางตั้งครรภ์ก็เคยขู่ว่าจะหย่าหากจิ้งอ๋องแต่อนุหรือชายารองเข้ามา ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทจะให้หลานสาวแม่ทัพเก่าที่ภักดีต่อชาติแต่งงานกับจิ้งอ๋อง แต่นางก็เข้าขัดขวาง”

“แต่เจ้าไม่ต้องกลัวนางหรอก เจ้าเป็นถึงองค์หญิง มีแคว้นตงฉู่หนุนหลัง ต่อให้ฉู่อวิ๋นหลิงยโสแค่ไหนก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้ นางก็แค่พูดเสียงดังเท่านั้น”

กล่าวจบ นางก็แย้มยิ้มแล้วกุมมือองค์หญิงเก้า

“แล้วหากเจ้าแต่งเข้าจวนจิ้งอ๋องไป ยังมีข้าที่เป็นเกราะกำบังให้เจ้าอีก? ข้าชอบเจ้าตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็นเลย รู้สึกว่าไม่มีสตรีใดน่าพิสมัยเท่าเจ้าแล้ว เสียดายที่ข้าไม่มีลูกสาว แต่ถ้าเจ้าเป็นลูกสะใภ้ข้า ย่อมเป็นวาสนาที่สวรรค์ประทานแน่”

หวงกุ้ยเฟยพูดเป็นต่อยหอยไม่หยุด ตี้หวู๋เหยาหาโอกาสพูดแทรกไม่ได้เลย

“เจ้าเดินทางไกลเพื่อมาหาจิ้งอ๋อง เป็นสิ่งที่หายาก ถึงตอนนี้จิ้งอ๋องจะคัดค้าน แต่ต้องมีวันที่เขารู้เจ้าต่างหากถึงจะเป็นสตรีที่ดีแน่”

เยี่ยนอ๋องยืนนอกประตูตำหนัก พอจะได้ยินเลือนราง สีหน้าเผยความตกตะลึงอย่างต่อเนื่อง

ตี้หวู๋เหยามาหาพี่สามหรือ? เสด็จแม่จะให้ตี้หวู๋เหยาเป็นลูกสะใภ้?

มิน่าล่ะคืนนั้นพี่สะใภ้สามถึงโวยวายในสวนหลวง

เสียแรงที่ตอนเขาเห็นตี้หวู๋เหยาครั้งแรก รู้สึกว่าเป็นสาวน่ารัก ใสซื่อ ทั้งยังดีดพิณเก่งอีกต่างหาก ชวนให้รู้สึกดีๆไปด้วย

ไม่คิดว่าอีกฝ่ายหวังจะเป็นมือที่สามระหว่างความรักของพี่สามและพี่สะใภ้สาม

เยี่ยนอ๋องที่เป็นหนึ่งในผู้ติดตามความรักของทั้งคู่ เพลิงโทสะพลันลุกโชนในดวงตา ก่อนจะฉายไปยังทิศทางที่ตี้หวู๋เหยาอยู่

“ข้าไม่อนุญาตให้ผู้ใดทำลายความรักของพี่สามและพี่สะใภ้สามแน่”

เสด็จแม่บังคับให้เขาแต่งงานกับสตรีที่เขาไม่ได้รักก็ว่าน่าเวทนาแล้ว ดังนั้นเขาจะไม่อนุญาตให้มีมือที่สามเข้าแทรกระหว่างพี่สามกับพี่สะใภ้สามแน่

นัยน์ตาของเยี่ยนอ๋องกลายเป็นลุ่มลึกและซับซ้อน ราวกับตัดสินใจอะไรบางอย่าง เขาเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ

......

ภายในตำหนัก

ตี้หวู๋เหยาไม่คิดวาหวงกุ้ยเฟยเชิญนางมาแล้วก็เอาแต่พูดเองเออเองคนเดียว จึงรู้สึกเหลืออดเล็กน้อย

นางไม่ค่อยรู้สึกดีต่อหวงกุ้ยเฟยมากนัก ไม่เพียงแต่การกระทำในคืนที่อยู่สวนหลัง ยังเป็นท่าทีที่เอาแต่พูด ไม่สนใจคนอื่นด้วย

เพราะตี้หวู๋เหยาได้รับการอบรมสั่งสอนจากพระราชวังของตัวเองมาดี จึงไม่ได้พูดแทรก แต่นางก็ไม่อยากเสียเวลานั่งฟังอีกฝ่ายสาธยายอีก

“ขอบคุณในความรักใคร่ของพระสนม แต่ข้าเปลี่ยนใจแล้ว การฝืนบังคับคงไม่มีทางใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขแน่ หลังตรุษจีนข้าจะกลับพร้อมกับคณะทูตตงฉู่”

ขอบอกตามความเป็นจริง หลังจากเห็นความร้ายกาจของพระชายาจิ้งอ๋องคืนนั้นแล้ว นางก็เริ่มคิดจะถอย

ไม่เพียงเพราะกลัวความโมโหร้ายของพระชายาจิ้งอ๋อง แต่ยังเป็นเพราะเห็นจิ้งอ๋องตามใจและรักใคร่ชายาของตัวเองมาก

ช่วงนี้นางครุ่นคิดโดยละเอียดดีแล้ว ในเมื่อเป็นเยี่ยงนี้ ไม่ว่าจิ้งอ๋องอยากครองคู่กับนางหรือไม่ก็หมดความหมายแล้ว

“อะไรน่ะ?”

หวงกุ้ยเฟยหน้าแข็งทื่อ ไม่คิดว่าตี้หวู่เหยาจะปฏิเสธตน รู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เพราะปกตินางมักจะโน้มน้าวใจผู้อื่นได้เสมอ

ทว่าเห็นได้ชัดว่าตี้หวู๋เหยาไม่อยากให้นางมีโอกาสพูดต่อ รีบชิงพูดก่อนว่า

“พระสนมหวงกุ้ยเฟย ช่วงนี้ข้าเพิ่งมาถึงต้าโจว ยังรู้สึกไม่ชินกับสถานที่ รู้สึกร่างกายอ่อนเพลียเล็กน้อย ไว้วันหน้าค่อยมาพูดคุยกับท่านใหม่ ได้ยินแม่นมเหอเยว่บอกว่าท่านก็เพิ่งหายป่วย ควรพักผ่อนเยอะๆ”

กล่าวจบ นางก็ถอยไปอย่างสุภาพเรียบร้อย

รอยยิ้มบนใบหน้าหวงกุ้ยเฟยแข็งค้าง ถึงแม้จะไม่ชอบใจ แต่ด้วยสถานะของตี้หวู๋เหยาจึงทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยิ้มส่งนางเท่านั้น

หลังตี้หวู๋เหยาเดินออกไป นางก็เขวี้ยงแก้วน้ำชาด้วยความกรุ่นโกรธอีกครั้ง

“ช่างไม่รู้จักรักษาโอกาสจริงๆ ข้าพูดดีขนาดนี้ยังไม่ตอบตกลงอีก ถ้าข้าไม่ต้องการเล่นงานฉู่อวิ๋นหลิง คิดว่าข้าชอบนางจริงๆหรือ?”

ขอสารภาพตามความจริง สถานะตี้หวู๋เหยาสูงศักดิ์ ทั้งยังเป็นธิดาคนโปรดของจักรพรรดิฉู่อีก คนเป็นแม่สามีจึงจ้ำจี้จ้ำไชและตำหนิไม่ได้ ทั้งยังต้องปรนนิบัติเป็นอย่างดีอีกต่างหาก

แต่อีกฝ่ายไม่ได้แต่งกับเยี่ยนอ๋อง เช่นนั้นก็ไม่ต้องระแวงจุดนี้

ขอแค่ตี้หวู๋เหยาแต่งเข้าจวนจิ้งอ๋อง ทำให้ฉู่อวิ๋นหลิงทุกข์ใจก็พอ ฉะนั้นหวงกุ้ยเฟยยินดีประคบประหงมตี้หวู๋เหยาอย่างเต็มที่

แม่นมเหอเยว่ถอนหายใจเบา ๆ “พระสนม องค์หญิงเก้าปฏิเสธเรื่องนี้แล้ว ต่อจากนี้ควรทำเช่นไรดีเพคะ?”

หวงกุ้ยเฟยควบคุมหัวใจที่เต้นกระเพื่อม ก่อนจะยิ้มเย็น พูดหนักแน่นว่า

“รีบกแพร่ข่าวนี้ออกไป จิ้งอ๋องไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง ยกเว้นเขายินดีเสียชื่อเสียง แบบนั้นข้าก็ไม่เสียเปรียบ”

การแต่งงานครั้งนี้ เขาหนีไม่พ้นแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ