พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 273

แม่นมเหอเยว่พยักหน้าขานรับ “บ่าวรู้ว่าควรทำเช่นไรแล้วเพคะ”

หวงกุ้ยเฟยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อปรับอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะถามว่า “อวี้จือไปไหนแล้ว?”

“ท่านอ๋องมาเยี่ยนพระสนมแต่เช้า แต่เมื่อครู่องค์หญิงเก้าอยู่ในตำหนักเว่ยยาง บ่าวจึงไม่ให้เขาเข้ามาเพคะ”

แม่นมเหอเยว่เก็บเศษแก้วบนพื้นอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็รินน้ำชาอุ่น ๆ ให้หวงกุ้ยเฟยอีกแก้ว

“ช่วงนี้ท่านอ๋องไม่ได้ไปจวนจิ้งอ๋องเพคะ เขาเข้าออกโรงหมอหลวงเพราะอาการป่วยของพระสนมเพคะ ดูแล้วรู้สึกผอมลงนิดหน่อยเพคะ”

ได้ยินดังนี้หวงกุ้ยเฟยจึงเผยรอยยิ้มออกมา

“ไม่เสียแรงที่ข้าเลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่”

แม่นมเหอเยว่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ท่านอ๋องย่อมใส่ใจพระสนมอยู่แล้ว มีวิธีที่จะทำให้เขาอยู่ห่างจากจวนจิ้งอ๋องมากมาย หากใช้ไม้แข็งจะทำลายความสัมพันธ์ของแม่ลูกได้ อย่างเช่นเรื่องครั้งนี้ก็ทำให้พระสนมสมหวังแล้วไม่ใช่หรือเพคะ?”

หวงกุ้ยเฟยเป็นคนโมโหง่าย รู้สึกแน่นหน้าอกเป็นประจำ แต่ไม่ร้ายแรงอันใด

ก่อนหน้านี้แม่นมเหอเยว่พูดรุนแรงขนาดนั้น เพราะต้องการให้เยี่ยนอ๋องเข้าใจว่าเขาทำให้หวงกุ้ยเฟยล้มป่วย ทั้งยังไม่วายใส่ร้ายป้ายสีอวิ๋นหลิงอีกด้วย

หวงกุ้ยเฟยพูดด้วยรอยยิ้มพอใจ “เหอเยว่ ต่อไปก็งัดวิธีแบบนี้ออกมาใช้บ่อยๆหน่อยนะ”

“พระสนมชมเกินไปแล้ว ท่านเยี่ยนอ๋องคลุกคลีกับจิ้งอ๋องตั้งแต่เด็ก แล้วพระชายาจิ้งอ๋องก็รักษาขาของท่านอ๋องจนหายดี เขาย่อมต้องซาบซึ้งอยู่แล้วเพคะ”

แม่นมเหอเยว่แย้มยิ้มเกลี้ยกล่อมหวงกุ้ยเฟยอย่างไม่รีบร้อน

“เรื่องนี้พวกเราจะใจร้อนไม่ได้เพคะ พวกเราต้องอดทน ถ้าเวลาผ่านไป ท่านเยี่ยนอ๋องต้องเริ่มห่างเหินพวกเขาแน่เพคะ แล้วพระสนมก็ยังมีคุณหนูรองหลี่เป็นกำลังเสริมอีกแรง ไม่ต้องกังวลว่าท่านเยี่ยนอ๋องจะแยกแยะว่าควรเข้าหาผู้ใดและควรอยู่ห่างผู้ใดแล้วเพคะ”

ประโยคนี้เป็นการตักให้หวงกุ้ยเฟยรู้ว่าเรื่องแต่งงานของเยี่ยนอ๋องจะชักช้าไม่ได้

“เจ้าพูดถูก อีกสองสามวันข้าจะคุยเรื่องแต่งงานของอวี้จือกับฝ่าบาทด้วยตัวเอง ทางที่ดีควรแต่งหลังตรุษจีนเลย”

พระชายาเยี่ยนอ๋องที่นางคัดสรรไว้คือคุณหนูรองของตระกูลหลี่ แม่นางผู้นี้สุภาพเรียบร้อย เป็นคนดี สิ่งสำคัญที่สุดคือกตัญญูต่อผู้ใหญ่ยิ่ง

หวงกุ้ยเฟยเคยเห็นคุณหนูรองหลี่หลายครั้งแล้ว อีกฝ่ายไม่เคยถกเถียงนางสักครั้ง นางรู้สึกพอใจมาก

หลังแต่งงาน หากดรุณีผู้นี้คอยช่วยเหลือก็สามารถปรับแก้นิสัยของเยี่ยนอ๋องได้แน่

......

ระยะทางจากตำหนักเว่ยยางกลับไปยังตำหนักแสงซีนั้นต้องผ่านสวนหลวง

ตี้หวู๋เหยาเดินออกจากตำหนักเว่ยยางแล้วก็เชิดหน้าสั่งนางกำนัลด้านหน้าเสียงเด็ดขาดว่า

“ข้ารู้จักทาง พวกเจ้าไม่ต้องตามข้ากลับตำหนักแสงซี”

หลังจากไม่มีนางกำนัลติดตามแล้ว นางเดินมาถึงภูเขาจำลองในสวนหลวงก็ถอดหน้ากากผู้เย่อหยิ่งสูงศักดิ์ทิ้ง จากนั้นก็กระโดดโลดเต้นในสวนหลวง

แคว้นตงฉู่ติดทะเล อากาศอุ่นตลอดทั้งปี ตอนฤดูหนาวก็ไม่เคยมีหิมะตกมาก่อน

ได้ยินว่าแคว้นเป่ยฉินมีหิมะตกตลอดทั้งปี แต่นางไม่เคยไปแคว้นเป่ยฉิน ยามนี้จึงเห็นหิมะตกที่แคว้นต้าโจวเป็นครั้งแรก

เพราะไม่มีคนอยู่ นางจึงไม่จำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ขององค์หญิงไว้ เกิดนึกสนุกขึ้นมา

แต่นางเพิ่งกำหิมะขึ้นก็มีฝ่ามือใหญ่ลากนางไปยังภูเขาจำลองแล้ว

“กรี๊ด”

นางส่งเสียงร้องตามสัญชาตญาณ แต่อีกฝ่ายกลับปิดปากนางไว้

ชายหนุ่มขู่นางด้วยความร้อนรน “ห้ามตะโกน”

ตี้หวู่เหยาเห็นว่าเป็นผู้ใดแล้วก็ชะงักงัน กระพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะพูดด้วยความงวยงง “ท่าน...ท่านเยี่ยนอ๋อง?”

นางจำชายหนุ่มผู้นี้ได้ คืนนี้นางดีดพิณ อีกฝ่ายเป็นคนแรกที่ปรบมือชื่นชมนาง

อีกฝ่ายหน้าตาหมดจด ท่าทางสง่างาม ตี้หวู๋เหยารู้สึกดีต่อเขาเล็กน้อย

นางพบว่าเยี่ยนอ๋องจับเอวนางไปพิงศิลาภูเขาอันเย็นเฉียบ ท่าทางนี้แลดูเชิงหนุ่มสาวพลอดรัก ตี้หวู๋เหยาจึงอดหน้าแดงระเรื่อไม่ได้

“ท่าน...ท่านจะทำอะไร?”

เยี่ยนอ๋องก้มหน้า พยายามใช้แววตาเย็นยะเยือกมองดรุณีวัยแรกแย้ม อีกฝ่ายแก้มยุ้มน่ารักน่าชังยิ่ง

เขารู้สึกหน้าคุ้น ๆ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิด จึงส่งเสียงฮัดฮัดใส่ตี้หวู๋เหยา

“ดูภายนอกก็เหมือนคนใสซื่อ แต่ไม่คิดว่าจะมีแผนชั่วเพียงนี้ เป็นองค์หญิงอยู่ดีๆ แต่ดันเป็นมือที่สามของผัวเมียเขา ทำเรื่องเอือมระอาได้ลงคอ”

ตี้หวู๋เหยาชะงักงัน นางเป็นคนเฉลียวฉลาด รู้สิ่งที่เยี่ยนอ๋องกำลังพูดถึง ใบหน้าซีดขาวโดยพลัน แม้นจะโดนเข้าใจผิด ทว่าก็ยังคงจ้องเขม็งใส่อีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ

“บังอาจ ท่านพูดเหลวไหลอันใด กล้าดูหมิ่นข้าเยี่ยงนี้เชียวหรือ?”

“คิก ยังไม่ยอมรับอีก”

เยี่ยนอ๋องเห็นนางไม่ยำเกรงเขาก็รู้สึกประหลาดใจ ใบหน้าเย็นชาแปรเปลี่ยนไป

“ข้าจะบอกอะไรเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะใด แต่ก็อย่าริอ่านเข้าแทรกความรักของพี่สามกับพี่สะใภ้สามเด็ดขาด หาไม่แล้ว...”

พี่สะใภ้สามมีบุญคุณที่ให้ชีวิตใหม่กับเขา เขาไม่อนุญาตผู้ใดทำร้ายนาง กระทั่งเสด็จแม่ก็ไม่ได้

ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่มีผู้ใดกล้ารังแกตี้หวู๋เหยาเยี่ยงนี้มาก่อน นางเอามือเท้าเอวแล้วทำตาขวางใส่เยี่ยนอ๋อง “หาไม่แล้วจะทำไม? ท่านคิดว่าขู่ข้าแล้ว องค์หญิงเช่นข้าจะกลัวหรือไร?”

สาวน้อยผู้นี้ขู่ยากชะมัด เขาแสร้งทำท่าดุร้ายขนาดนี้แล้วน่ะ?

เยี่ยนอ๋องนึกถึงคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่ก็กัดฟันกรอด รู้สึกแค้นเคือง

เพื่อพี่สามกับพี่สะใภ้สาม เขาจะสู้ให้ถึงที่สุด

วินาทีต่อมา ถือโอกาสที่รอบข้างไม่มีคนมอง เยี่ยนอ๋องทำใจกล้า ก้มหน้าแล้วจับท้ายทอยตี้หวู๋หยาแล้วจูบนาง

ชั่วขณะนี้ ราวกับทุกอย่างหยุดนิ่ง ได้ยินเพียงเสียงหัวใจเต้นรัวแรงของทั้งสองคน ตี้หวู๋เหยาเบิกตากว้าง สมองว่างเปล่า ถึงขั้นลืมต่อต้าน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด เยี่ยนอ๋องค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น พยายามปรับหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำให้กลับมาเป็นปกติ

“เจ้าอ้างว่าพี่สามเห็นร่างกายเจ้าแล้ว ดังนั้นจึงจะแต่งงานกับเขาให้ได้ไม่ใช่หรือ? ไม่มีผู้ใดเห็นเรื่องนั้น ไม่รู้ว่าเจ้าพูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่”

เยี่ยนอ๋องจงใจกวาดสายตามองตี้หวู๋เหยาหัวจรดปลายเท้าหนึ่งรอบ ทำหน้าดุร้ายเพื่อขู่ขวัญนาง พูดประโยคเกินเลยขึ้น

“หากเจ้าอ้างเรื่องนั้นเพื่อครองคู่กับพี่สาม ก็อย่าโทษที่ข้าใจร้าย เอาเจ้าที่ตำหนักแสงซีแล้วกัน”

เขาพูดประโยคนี้เสร็จก็รู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ก็ยังพยายามทำหน้าโหดร้ายไว้

ตี้หวู๋เหยาจ้องเขาด้วยความอึ้ง เมื่อได้สติกลับมาใบหน้าก็เขียวแดงสลับกันไป ก่อนจะส่งเสียงร้องไห้ดัง ๆ

“ไม่ต้องร้อง ห้ามร้องไห้”

เยี่ยนอ๋องตกใจจนกระวนกระวายขึ้นมา รีบปิดปากนางและเช็ดน้ำตานาง ด้วยกลัวว่าคนอื่นจะมาเห็นเข้า

“อื้อๆๆ”

ตี้หวู๋เหยาสะอื้น ร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล

ในราชวังแคว้นต้าโจว ไม่มีใครชอบนางเลย แม้แต่เยี่ยนอ๋องที่นางรู้สึกเป็นมิตรด้วยก็ยังรังแกนางเช่นนี้

เยี่ยนอ๋องเห็นนางร้องไห้เสียใจขนาดนี้ก็รู้สึกผิด ระหว่างที่ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรก็ได้ยินเสียงลอยมาจากแถวนั้น

“เจ้าไม่ใช่บอกว่าท่านเยี่ยนอ๋องอยู่ที่นี่หรือ?”

“เมื่อครู่ข้าน้อยเห็นท่านเยี่ยนอ๋องมาสวนหลวงจริงขอรับ”

“ท่านเยี่ยนอ๋อง ท่านเยี่ยนอ๋อง”

เป็นเสียงของฝูกงกง เยี่ยนอ๋องรู้สึกขนลุกซู่ ตี้หวู๋เหยาก็หยุดส่งเสียงร้องไห้ มองเขาด้วยน้ำตาไหลพราก

“ห้ามพูดเรื่องนี้กับใคร ไม่งั้นเจ้าฉิบหายแน่”

เยี่ยนอ๋องเตือนตี้หวู๋เหยาด้วยท่าทางดุร้าย จากนั้นก็เอามือเช็ดน้ำตานาง ก่อนจะเดินออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ฝูกงกงตามหาข้าทำไม?”

ฝูกงกงพูดเสียงหอบเหนื่อย “บ่าวมาถ่ายทอดคำพูดพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง ท่านจิ้งอ๋องมีเรื่องด่วนจะคุยกับพระองค์ บอกว่าเชิญพระองค์ไปจวนจิ้งอ๋องโดยเร็วพ่ะย่ะค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ